counters
hisoparty

Apple เปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ฉลองครบรอบ 10 ปี

7 years ago

 

 

ในงาน Apple Special Event 2017 เมื่อคืนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่มาในรูปทรงคล้ายกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็นการดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนไปใช้ฝาหลังเป็นกระจก ที่ไม่ได้เพียงเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่เพื่อรองรับระบบการชาร์จไร้สายอีกด้วย สีของตัวเครื่องมีมาให้เลือก 3 สี คือสีเงิน สีเทาและสีทอง ซึ่งเป็นสีใหม่ ส่วนของลำโพงดังขึ้นกว่า iPhone 7 ถึง 25 % ทำให้ฟังเสียงดังได้อย่างจุใจ

ขนาดของจอนั้นยังคงมีขนาดเท่าเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลแบบ Retina HD และใช้เทคโนโลยี True Tone ที่สามารถปรับสีและแสงของจอตามสภาพแวดล้อมได้ นอกจากนี้ iPhone 8 Plus ยังรองรับเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) หรือเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง ที่จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ใช้ได้เพิ่มความสนุกสนานกัน

ส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้น iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ใช้กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และมีเซ็นเซอร์ที่เร็วขึ้น การถ่ายวิดีโอรองรับการถ่ายความละเอียด 4K 60 fps และการถ่าย Slow-Motion 1080 240 fps ที่สำคัญ iPhone 8 Plus ยังมีฟีเจอร์ Portrait Lighting ที่ทำให้ได้ภาพ Portrait ที่สวยงามยิ่งขึ้นอีกด้วย

iPhone 8 มีขนาดความจุ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ ราคา 699$ ส่วน iPhone 8 Plus มีขนาดความจุ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 799$

ซึ่ง iPhone ทั้งสองรุ่นนี้จะเปิดให้สั่งจองในวันที่ 15 กันยายนนี้ และเปิดวางขายวันแรกในวันที่ 22 กันยายนนี้ในต่างประเทศ

 

 

ส่วนไฮไลท์สำคัญของงานที่หลายคนตั้งตารอ ก็คงหนีไม่พ้น iPhone X (ไอโฟนเท็น) ที่ถือเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของ iPhone หลังจากวางขายรุ่นแรกไปเมื่อปี 2007 โดดเด่นด้วยหน้าจอไร้ขอบขนาด 5.8 นิ้ว ไม่มีปุ่มโฮมและระบบสแกนนิ้วมือ เปลี่ยนมาใช้ระบบสแกนใบหน้า (Face ID) ส่วนตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นกระจกทั้งหน้าและหลัง รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ผ่านแท่นชาร์จที่มีชื่อว่า AirPower เช่นเดียวกับ Apple Watch, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่สำคัญตัวเครื่องยังสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ และมีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานขึ้นอีก 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone 7 อีกด้วย

การแสดงผลของ iPhone X นั้นใช้จอ OLED และใช้เทคโนโลยี Super Retina Display ที่ให้ภาพสดใส คมชัดมากยิ่งขึ้นส่วนของกล้อง iPhone X ใช้กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพ Selfie ได้แบบหน้าชัดหลังเบลอ และนำเทคโนโลยี TrueDepth Camera System มาใช้ ทำให้สามารถสแกนใบหน้าได้รวดเร็วและแม่นยำ ทั้งยังสามารถสแกนใบหน้าได้ถึงแม้อยู่ในที่มืดด้วยอินฟาเรดของกล้อง ส่วนกล้องหลังเปลี่ยนเป็นแบบ 2 ตัว แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่นทำให้ถ่ายภาพได้นิ่งกว่าเดิม และใช้ True Tone Flash แบบใหม่โดยใช้หลอด LED เพื่อให้ได้ภาพสีธรรมชาติที่สุด

ส่วนของฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาเพิ่มความสนุกให้กับผู้ใช้อย่าง “Animoji” ที่จะใช้ระบบการตรวจจับใบหน้า ทำให้ Emoji ขยับตามเสมือนเป็นใบหน้าของผู้ใช้เอง โดยมี Animoji ให้เลือก 12 แบบตามความชอบ และยังสามารถอัดเสียงผู้ใช้ ส่งผ่านทาง iMessage ได้

iPhone X นั้นมี 2 ขนาดความจุ คือ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 999$ มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา Space Gray และสีเงิน Silver โดยจะเปิดวางขายในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ที่ต่างประเทศ

Photo By : www.apple.com
Author By : Nonpawit Noppakhun

SHARE