counters
hisoparty

Goodbye Phoebephilosophy

5 years ago

สวัสดีครับชาวผู้อ่าน HiSoParty ที่รัก และแล้วเราก็ย่างเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างรวดเร็ว ด้วยความชุ่มฉ่ำแบบที่เรียกว่า สุดจะเฉอะแฉะเพราะดูเหมือนจะมีพายุไต้ฝุ่น และภัยพิบัติเกิดขึ้นเรียงรายรอบตัวไปหมด โดยเฉพาะฝั่งเอเชียตั้งแต่แถบอินโด ไทย จีน ญี่ปุ่น และข้ามฝากไปฝั่งอเมริกา โลกเราตอนนี้ค่อนข้างวิบัติ เพราะน้ำมือของพวกเรากันเองจริงๆ ครับ พวกเราต้องสอนลูกหลานให้รู้จักดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีมากๆ มิเช่นนั้น ในรุ่นต่อๆ ไปคงจะใช้ชีวิตอยู่ยากเต็มทน ใครไม่เชื่อเรื่องภาวะโลกร้อน ผมว่าช่างเขลาเต็มที จะมีก็แต่ประธานาธิบดี Trump เท่านั้นที่ยังเชื่อว่าเป็นเรื่องเด็กขายของที่กุขึ้นมาจะด้วยเขลาจริงหรือแกล้งเขลาเพื่อผลประโยชน์ก็ตามที ผมว่าแย่พอๆ กัน (แวะเข้าเรื่องการเมืองอีกจนได้) เปลี่ยนเรื่องมาเขียนเรื่องเบาๆ แนวถนัดอย่างแฟชั่นดีกว่าครับ

ณ เวลาที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ Paris Fashion Week สำหรับ Spring/Summer 2019 กำลังดำเนินอยู่ และโชว์ที่ผมตั้งตาคอยเป็นพิเศษก็คือ Céline ซึ่งเป็นทีม Creative Director คนใหม่ ซึ่งจะถือเป็น debut Show ของ Hedi Slimane ผู้ซึ่งเคยทำให้ Dior Men กลายเป็นวัฒนธรรมการแต่งตัวใหม่ของชายหนุ่มทั่วโลกมาแล้ว ตั้งแต่ช่วงยุคปลายปี 90 จนมาถึงผลงาน และคอลเลกชั่นที่สร้างไว้ให้กับ Yves Saint Laurent และ Saint Laurent Paris ก็ต้องถือว่าฝีไม้ลายมือของเขาเป็นระดับเทพทีเดียวครับ ที่เอาความเป็น Rock and Roll มาผสมผสานเข้ากับความเป็น Punk และอิทธิพลของแฟชั่นในยุค 70 และ 80 จนเกิดเป็น Signature ลุคของ Hedi ได้เป็นอย่างดี กางเกงยีนส์ทรงสลิมฟิตที่ใส่กันทั่วบ้านทั่วเมืองทั่วโลกนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขาเปลี่ยนแปลงวิธีการแต่งตัวของหนุ่มๆ ทั่วโลก ผมก็เป็นแฟนคลับคนหนึ่งทีเดียวครับ ถึงแม้จะไม่ใช่แนวเสื้อผ้าที่ผมชอบแต่ก็บอกว่าเขามี Vision ที่ชัดเจนแบบหาตัวจับยาก แต่ต้องบอกว่าหลังจากจบโชว์ Céline Spring/Summer 2019 ลงแล้ว ผมถึงกับน้ำตาจะไหลเพราะสิ่งที่ผมหวังจะเห็นสิ่งแปลกใหม่ที่เขาจะทำให้ Céline ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ Creative Director คนเก่าสร้างไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่ สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์นั้นหายไปแบบราบคาบ และสำหรับผมเหมือนถอยหลังเข้าคลอง เพราะเหมือนเขาเอางานสมัยเก่าๆ ที่ Dior และ YSL มายำรวมๆ กัน และไม่ได้นำเสนอไอเดียอะไรใหม่เลย Hedi พักจากงานออกแบบไปสองปี การกลับมาคราวนี้ทำให้คนคาดหวังกับผลงานของเขาไว้มาก หลังโชว์เสร็จ สาวก Céline ต่างโกรธแค้นกับสิ่งที่เขาทำกับแบรนด์ ตลอดระยะเวลา 11 ปี ตั้งแต่ Phoebe Philo เข้ามารับตำแหน่งปี 2008 เธอเป็นอีกหนึ่งในดีไซเนอร์หญิงไม่กี่คนของโลกที่สามารถสร้างวัฒนธรรมการแต่งตัวให้กับสาวทั่วโลกได้อย่างงดงามมีเอกลักษณ์อย่างไม่มีที่ติ ผมต้องบอกจากใจจริงๆ ว่าผมเป็นแฟนของ Phoebe ตั้งแต่เธอเป็นดีไซเนอร์ให้ Chloé ซึ่งเธออีกนั่นแหละที่เป็นผู้ทำให้ Chloé กลับเข้ามาอยู่ในแผนที่แฟชั่นอีกครั้งหลังจากที่ถูกลืมไปนาน ทัศนคติการมองโลกง่ายๆ เหมือนทุกอย่างจะดู Effortless ไปเสียหมดสำหรับเธอ ตัวเธอเองเป็นภาพสะท้อนที่มีถึงมุมมองในงานออกแบบของเธอ รองเท้า clog ส้นตึก เสื้อเชิ้ตขาวตัวโคร่ง กางเกงยีนส์ Livi’s Vintage หรือจะเป็นเสื้อคอเต่าสีดำเรียบๆ กับรองเท้าผ้าใบ Adidas Stan Smith ซึ่งต้องบอกว่าเธอเองนี่แหละที่ทำให้ Stan Smith กลับมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง ทำให้คนทั้งโลกต้องหามาใส่กันเหมือนเป็นยูนิฟอร์มของหนุ่มสาวสายอาร์ทอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ลามไปถึงทุกคนทั่วโลก หลังจากที่สร้างลุคแบบสาวโบฮีเมียนชิค ให้กับ Chloé จนโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ไปแล้ว Phoebe ลาออกจากงานไปอยู่กับบ้านด้วยสาเหตุว่าอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อเธอได้รับการทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Céline แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสที่หลับใหลมานานอยู่เช่นกัน เธอตอบตกลงเพราะข้อเสนอของ LVMH (เจ้าของ Celine) สามารถให้เธอทำงานจากสำนักงานที่อังกฤษได้ เธอจึงสามารถใช้เวลาอยู่ได้ทั้งที่อังกฤษและฝรั่งเศสพอๆ กัน การกลับมาของเธอกับ Collection แรกหลังจากปี 2008 จนถึง 2018 เธอสามารถสร้างเสื้อผ้าที่สื่อถึงความเป็นตัวของตัวเอง ความง่าย ความสบาย ความมีศิลปะ แต่ขณะเดียวกันก็ฉลาดหลักแหลม เธอเปรียบเสมือนตัวแทนของผู้หญิงที่รู้จักตนเอง ฉลาด ทรงพลัง และไม่เป็นเหยื่อของแฟชั่น เหล่าสาวกแฟชั่นที่ชอบความ Minimal ที่ทรงพลังแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์จึงก่อตัวขึ้นเป็นชนเผ่า Céline ขึ้นเป็นกลุ่มเป็นก้อนอย่างเห็นได้ชัด กระเป๋า Tote Bag ของ Céline กลายเป็นสัญลักษณ์ของสาว Minimal แสนฉลาดทั่วโลก เธอสามารถสร้าง ‘Phoebephilosophy’ หรือนิยามความเป็นผู้หญิงในแบบฉบับของเธอเองได้อย่างสง่างาม กางเกงทรงโคร่งกับ Sweater ตัวหลวม เดรสเชิ้ตเกลี้ยงๆแต่มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ยังไม่นับรวมกับการตกแต่งร้าน Mood and Tone ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงความฉลาด ไม่เหมือนใคร ผมว่าสิ่งที่เธอออกแบบให้มันล้ำหน้าแบบมองหา Reference ไม่เจอ แต่ขณะเดียวกันมันก็มีความคลาสสิคแบบบอกไม่ถูก เมื่อเอามารวมๆ กันแล้ว จึงเป็นทุกอย่างของงานดีไซน์ที่มันควรจะเป็น ทั้งล้ำ ทั้งคลาสสิค ทั้งร่วมสมัย ไร้กาลเวลา นิ่ง น้อยแต่มาก และทรงพลัง

ต้องบอกตามตรงว่า ผมสะเทือนใจกับการอำลาตำแหน่งของเธออย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจบโชว์แรกของ Hedi กับ Celine Spring/Summer 2019 ผมบอกได้คำเดียวว่า ผู้หญิงแสนฉลาด มั่นใจ และหัวก้าวหน้าของ Céline ได้ถูกลบทิ้งอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ใครเป็นสาวกของ Phoebe คงต้องรีบซื้องานของเธอเก็บไว้แล้วล่ะครับ เพราะมันต้องกลายเป็นของสะสมที่เป็นของหายาก และเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการแฟชั่นเลยก็ว่าได้ ผมว่าอีกไม่กี่ปีราคาต้องสูงขึ้น (และคงไม่มีใครอยากจะขาย เพราะมันมีคุณค่าอย่างมากกับสาวก Céline) ณ วันที่เขียนบทความนี้อยู่ ร้านแสนสวยของ Céline ก็จะถูกสร้างและแปลงร่างใหม่ ร้านแรกใน Soho ได้ปิดทำการ และทุบทิ้งไปแล้ว สัญลักษณ์ของสาวสวยแสน Cool กำลังจะถูกปิดตัวลง และแทนที่ด้วยสาว Rock and Roll แนว Punk เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่ Hedi นำเสนอขึ้นมาก็ไม่ได้แย่ มันคือ Signature ของ Hedi ที่เขาทำได้ดีที่สุด มองเห็นก็รู้ทันทีว่าใครออกแบบ แต่สำหรับความมีเสน่ห์ และเอกลักษณ์ของ Céline มันหายไปหมด บอกได้คำเดียวว่าเศร้า เพราะเสื้อแนว Rock and Roll Vintage ถึงผมว่าออกจะคูลอยู่ไม่น้อยแต่ก็ซ้ำซาก เวียนไปมาอยู่อย่างนั้น จะบอกว่าแย่ก็คงไม่เชิง เพราะ Hedi ก็สามารถปล้ำยอดขายให้กับทุกแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ขึ้นเป็น 2 เท่า 3 เท่า
ทุกแบรนด์ ในเชิงค้าขายอาจไม่ได้เลวร้ายนัก แต่สำหรับจิตใจก็บอกได้คำเดียวว่าเอา Céline ของเราคืนมา

ลาก่อน Phoebephilosophy ที่รัก ผมหวังว่าจะเจอคุณกับงานดีไซน์ของคุณอีกไม่ว่าที่ไหนในโลกนะครับ อย่าให้รอนานเลยครับ คิดถึงเหลือเกิน สำหรับคุณผู้อ่านของผมก็เช่นกัน ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ สวัสดีครับ

Story by Polpat Asavaprapha

SHARE