counters
hisoparty

Lovely Cologne

5 years ago

หากใครพาตัวเองขยับเข้าใกล้แม่น้ำไรน์ (Rhine River) ก็จะพบว่าโลกนี้ช่างสุนทรีย์อย่างน่าประหลาด นอกจากดานูบก็เห็นจะเป็นแม่น้ำไรน์นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในแม่น้ำสายที่งดงามประดับทวีปยุโรป อาจจะไม่ใช่แม่น้ำสายที่ยาวนัก แต่ก็ไหลผ่าน 9 ประเทศ แต่ถ้าหลักๆ ก็จะตัดผ่านกลางเมืองหลักๆ ของ 4 ประเทศ คือ เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และสวิตเซอร์แลนด์

เดี๋ยวนี้มีบริษัทเดินเรือพาล่องจากเมืองโคโลญจน์ของเยอรมัน ผ่านเมืองดุสเซลดอร์ฟ และเข้าสู่เมืองเก่าแก่ที่สุดของเธอแลนด์อย่างไนจ์เมเก้น จากนั้นก็พาล่องผ่านเมืองท่า เมืองมรดกโลกอีกหลายแห่ง ซึ่งจะผ่านบ้านเมืองที่มีสีสันสวยสด และมาเข้าสู่ชายคาเบลเยียมที่เมืองแอนท์เวิร์ป ล่องไปจนจบที่อัมสเตอร์ดัม ตลอดเส้นทางสายนี้ ใครๆ ก็พากันร่ำลือว่า ล่องไรน์ในโคโลญจน์ (Cologne) คือห้วงเวลาแห่งความงดงาม ที่บางคนเผลอมองโคโลญจน์จนลืมกระพริบตา

ถ้าไม่เชื่อต้องลองไปที่มหาวิหารแห่งโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) ที่อยู่ชิดติดขอบสถานีรถไฟประจำเมือง

ด้วยสัดส่วนกว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร บวกกับมีหอคอยแฝดสูง 157 เมตร ทำให้สมัยก่อนเคยเป็นวิหารที่ใหญ่ และสูงที่สุดในโลก แต่ทุกวันนี้ ทั้งความใหญ่และความสูง ถูกแซงไปเรียบร้อยแล้ว และด้วยสัดส่วนดังกล่าวนี่เอง กว่าจะจับมหาวิหารให้อยู่ในเฟรมได้ ก็เหนื่อยกับการเดินเร่หามุม

นี่คือวิหารแบบโกธิกที่มีตำแหน่งมรดกโลกมาการันตี และถ้าวัดเรื่องที่สุดของความมาราธอน มหาวิหารแห่งนี้น่าจะเป็นแชมป์ได้สบายๆ เพราะกว่าจะสร้างเสร็จใช้เวลากว่า 500 ปี จึงจะเสร็จสมบูรณ์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จากที่เริ่มลงมือก่อร่างสร้างวิหารกันตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 13

แค่ซุ้มประตูตรงทางเข้ามหาวิหาร ก็สะกดให้ผู้คนพากันแหงนคอมองกันได้เป็นวักเป็นเวร ตัวประตูไม่เท่าไหร่ แต่รูปปั้นเหล่านักบุญนี่สิน่าดูไปทุกรายละเอียด

และเมื่อผลักประตูเข้าสู่ด้านใน ยิ่งหูตาเบิกโพลง ไม่ใช่แค่ความใหญ่โตโอ่โถง แต่กระจกสีที่อยู่รอบตัวต่างหากที่ชวนให้ตื่นตะลึง

กว่าจะสวยงดงามตามสภาพที่เห็น ได้ผ่านการบูรณะมาอย่างหนักหน่วง เพราะละแวกมหาวิหารโดนระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ความที่ตั้งอยู่บนชัยภูมิห้าดาว เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองพอดีแถมใกล้กับสะพาน Hohenzollern Bridge ที่ถือกันว่าเป็นยุทธศาสตร์ทางการทหาร รอบๆ มหาวิหารและสะพานเลยโดนระเบิดจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ทุกวันนี้ มหาวิหารแห่งนี้ยังบูรณะกันไม่เลิก ว่ากันว่า ใครที่มีโอกาสเฉียดไปโคโลญจน์ทุกปี อาจจะเห็นนั่งร้านย้ายมุมไปรอบๆ มหาวิหารไปเรื่อย ราวกับว่าจะบูรณะกันชั่วลูกชั่วหลาน

ข้อมูลจากเวบไซต์หนึ่งแนะว่า ถ้าอยากเห็นมหาวิหารในมุมสวยที่สุด และไม่เห็นพวกนั่งร้านที่ระเกะระกะอยู่ ต้องข้ามสะพาน Hohenzollern Bridge ไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วมองย้อนกลับมา มหาวิหารที่มองผ่านแม่น้ำไรน์จะงดงามกว่ามุมไหนๆ

แต่จังหวะที่จะข้ามสะพาน ก็จะเห็นแม่กุญแจหลายแบบและหลากขนาด แขวนอยู่ตรงราวสะพานแน่นขนัดไปหมด จนแทบไม่มีพื้นที่ว่างให้ราวสะพานได้หายใจ

แล้วไม่ใช่แค่ระยะทางใกล้ๆซะด้วยนะ แต่ยาวเหยียดไปจนเกือบสุดสะพานอีกฝั่งหนึ่ง เท่าที่เคยเห็นแบบนี้ก็มีที่เกาหลี รัสเซีย อิตาลี ไม่ยักรู้ว่าที่เยอรมันก็มีกับเขาด้วย

ใช้คำว่า ‘นับไม่ถ้วน’ น่าจะเหมาะสุด เยอะแบบนั้นเลย แต่ไม่ว่าขนาดของกุญแจจะเล็ก ใหญ่ หรือแปลก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการสลักชื่อของคู่รักลงบนกุญแจ และวันที่ คู่รักทั้งชาวเมือง และนักท่องเที่ยวพวกเขาจะจูงมือกันมาคล้องกุญแจไว้ที่สะพานแห่งรัก จากนั้นก็ทิ้งลูกกุญแจฝากไว้ก้นแม่น้ำไรน์

ใครที่ควงคนรักของคุณมาเที่ยวโคโลญจน์แล้วอยากมีโมเมนต์ดีๆ เก็บเอาไว้ให้อมยิ้ม ขอแนะนำว่า เตรียมกุญแจติดมือมาด้วย แล้วมาทำเก๋ๆ บนสะพานแห่งรัก ก่อนจะเดินไปสุดสะพาน แล้วภาพของโคโลญจน์ที่อยู่ตรงหน้า จะทำให้คุณเผลอยิ้มให้กับโคโลญจน์อย่างไม่รู้ตัว

มหาวิหารอันใหญ่โตโอ่อ่าทอดตัวอยู่ตรงหน้า มองในระยะที่มีแม่น้ำไรน์พาดผ่าน มีสะพาน Hohenzollern Bridge เลื้อยประคองด้านข้างของมหาวิหารเอาไว้ อาคารบ้านเรือนเก่าแก่อาบสีสันโรยไว้เต็มเฟรม

นี่จึงกลายเป็นมุมที่งดงามที่สุดของโคโลญจน์ ที่หากมีเวลาให้กับโคโลญจน์อย่างฉาบฉวย รับรองว่าไม่มีทางเห็นมุมนี้ ดูท่าว่าในทำเนียบของเมืองสุนทรีย์ จะไม่ได้มีแค่ปราก บูดาเปสท์ อินน์สบรูก และลูเบลียน่าเท่านั้น แต่น่าจะมีชื่อของโคโลญจน์แนบอยู่ในโผด้วย

จากกรุงเทพ สายการบินไชน่า แอร์ไลนส์มีเที่ยวบินจากกรุงเทพไปแฟรงก์เฟิร์ต คลิกเข้าไปดูรายละเอียดเที่ยวบินได้ที่ www.china-airlines.com โทรสอบถามที่ 0-2250-9880

จากแฟรงก์เฟิร์ตหรือหัวเมืองใหญ่ในยุโรปอื่นๆ จะนั่งรถไฟมาโคโลญจน์ก็ได้ คลิกเข้าไปดูรายละเอียดของตารางรถไฟได้ที่รถไฟยุโรป www.raileurope.co.th หรือสอบถาม 0-2660-7067-9

ทั่วทั้งโคโลญจน์มีที่พักให้เลือกเยอะมาก เพราะเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิต คลิกไปสำรวจได้ที่เวบไซต์อโกดา www.agoda.com

Story & Photo by กาญจนา หงส์ทอง

SHARE