counters
hisoparty

Make Impossible Possible - คุณนิรันดร์ ประวิทย์ธนา

9 months ago

          เพราะเชื่อว่าความเป็นไปไม่ได้คือความเป็นไปได้ ‘คุณรัน-นิรันดร์ ประวิทย์ธนา’ นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ชายผู้มาพร้อมกับความกล้าที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อให้รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถหยิบมาใช้ในการทำงานให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยเริ่มจากการนำช่องว่างทางด้านการเงิน ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสร้างออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะผลงานล่าสุดคุณรันจับมือกับพาร์ทเนอร์นำเสนอโฉนดดิจิทัลรายแรกของโลก

          “ผมเป็นนักเศรษฐศาสตร์ เรียนจบมาทางด้าน Computer Science ผมก็เลยนำเรื่องเทคโนโลยีกับการเงินมาผสมผสานกัน เพราะมองเห็นว่าการเงินในโลกยุคปัจจุบันมีปัญหาหลายๆ อย่างที่ส่งผลต่อการทำธุรกรรม ต้นทุนทางการเงินต่างๆ ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างดอกเบี้ยเงินฝากในไทย 1% ดอกเบี้ยเงินกู้ 8% เราจะสามารถทำอย่างไรให้ส่วนต่างตรงนี้หดแคบลงได้ ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายๆ อย่างที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเรื่องต้นทุนในการทำธุรกรรมได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำเทคโนโลยีพวก Blockchain กับ Digital Asset มาใช้ในระบบการเงิน”

          คุณนิรันดร์ได้กล่าวถึงผลงานชิ้นล่าสุดที่เรียกได้ว่าเป็นโฉนดแบบดิจิทัลครั้งแรกของโลก ภายใต้ชื่อ ‘Sanga’ (ซังกะ) นวัตกรรมอันเกิดจากความต้องการแก้ไขปัญหาที่ได้พบเจอมาในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ โดยนำมาประยุกต์เข้ากับประสบการณ์และความชำนาญด้านเทคโนโลยี พร้อมจับมือร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์มืออาชีพ
          “ซังกะคือแพลตฟอร์มการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ เป็น Real Estate Tokenization & Digital Deeds ที่ง่าย สะดวก โปร่งใส และจะทำให้คุณสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยการ Joint Venture ของ 3 บริษัท ที่มีความเชี่ยวชาญด้านไฟแนนซ์และอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย Avantis, Jaymart และ Rende เราได้สร้างซังกะขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2565) จนถึงตอนนี้เราเปิดตัวไพรเวทโปรเจ็กต์เสริมเข้าไปเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน เราตั้งใจที่จะนำเสนอ Property with Lifestyle ระหว่างที่คุณอยู่ในคลับ คุณจะได้รับสิทธิพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น เช่น ได้รับสิทธิ์ในการเข้าพักพร็อพเพอร์ตี้ใน Portfolio ของ Sanga ได้ทุกประเทศ มี Private Property Consultant ที่จะช่วยคุณหาพร็อพเพอร์ตี้ที่เป็น Rare Item เรามีพาร์เนอร์ที่เก่งมากคอยดูแลคุณ และยังมีบริการ Concierge ตลอดทั้งที่ไทยและที่ต่างประเทศ รวมไปถึงการจัดปาร์ตี้ให้กับสมาชิก ได้พบปะพูดคุย รวมทั้งแลกเปลี่ยนคอนเนคชั่นเพื่อต่อยอดธุรกิจได้ด้วยเช่นกัน”
          “โดยเราเลือกสองประเทศที่คนไทยชอบเดินทางไปอันดับต้นๆ มาทำตลาดก่อน คือ ประเทศญี่ปุ่น และประเทศอังกฤษ โดยประเทศญี่ปุ่นเรามองโซนในโตเกียว และฟูจิซัง เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งแบบเมืองและธรรมชาติ ส่วนประเทศอังกฤษเรามีพร็อพเพอร์ตี้ในลอนดอนเป็นหลัก มีทั้งลอนดอนเหนือและลอนดอนใต้ จะเอาไว้พักตอนไปดูฟุตบอล หรือเวลาส่งลูกไปเรียนก็ได้ ซึ่งในอนาคตเรามีแผนที่จะขยายไปยังประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยครับ”

จุดเริ่มต้นของ Sanga (ซังกะ)
          “ซังกะมีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาหนึ่งที่ผมเจอคือ การถือครองอสังหาริมทรัพย์บนโลกใบนี้มีความท้าทายสูงมาก ถ้าคนไทยต้องการจะไปซื้อพร็อพเพอร์ตี้ในอังกฤษ หรือญี่ปุ่น มักประสบกับปัญหาเรื่องของกฎหมาย เรื่องของภาษี เรื่องของกระบวนการต่างๆ ที่ใช้เวลานานและมีต้นทุนในการทำธุรกรรมค่อนข้างสูง ซังกะจึงพยายามจะสร้าง Ecosystem หรือ Platform ที่จะช่วยให้สามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกได้ง่ายและใช้ต้นทุนต่ำที่สุด หลักการของซังกะมีอยู่สองส่วน ส่วนแรก ซังกะทำเรื่องของ Token Digital หรือ โฉนดดิจิทัล ด้วยการสร้างระบบที่สามารถเก็บโฉนดที่ดินเอาไว้กับผู้รับฝากสินทรัพย์ หรือ Custodian โดยผู้รับฝากสินทรัพย์จะออกโฉนดในรูปแบบดิจิทัลให้กับผู้ซื้อ หมายความว่าคุณสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องถือโฉนดกระดาษ เพราะโฉนดดิจิทัลมีสิทธิ์เท่าเทียมกันกับการถือโฉนดกระดาษ สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือทำเรื่องของรีไฟแนนซ์ต่างๆ ได้โดยใช้โฉนดดิจิทัลทั้งหมด”
          “ส่วนที่สองซังกะไม่ได้มีแค่ภารกิจแปลงโฉนดกระดาษเป็น Token Digital แต่เราพยายามจะเอื้อให้นักลงทุนได้ประโยชน์ในเชิงไลฟ์สไตล์ สมมติผมซื้อบ้านที่โตเกียว ผมถือครองโฉนดเป็นเจ้าของบ้านที่โตเกียว ทุกครั้งที่ผมบินไปญี่ปุ่น ผมจะต้องพักที่บ้านของผมตลอด แต่ในทางกลับกันเราสร้าง Economic ขึ้นมาใหม่ เรียกว่า Sanga Exclusive Club (ซังกะ เอ็กซ์คลูซีฟ คลับ) ผู้ที่ถือครองโฉนดดิจิทัลจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมคลับ และเมื่อคุณเข้าร่วมคลับก็จะนำไปสู่โมเดล Time Sharing ของอสังหาริมทรัพย์ในมือคุณ เช่น ผมไปโตเกียวก็พักที่บ้านของตัวเอง แต่ถ้าผมบินไปฮอกไกโดผมสามารถเข้าพักในอสังหาริมทรัพย์ของเมมเบอร์คนอื่นๆ ที่เข้าร่วม Exclusive Club ได้ หรือแม้แต่เวลาที่ผมบินไปลอนดอน ไปเมลเบิร์น ผมก็สามารถเข้าพักในอสังหาริมทรัพย์ของเมมเบอร์ในคลับได้ด้วยเช่นกัน โมเดลนี้เป็นการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ทำให้คุณสามารถมีพื้นที่ที่เปรียบเหมือนบ้านของคุณอยู่ทุกจุดในโลก”

ข้อดีของ ‘โฉนดดิจิทัล'
          “โฉนดดิจิทัลมีข้อดีหลายอย่าง อย่างแรกในเรื่องของการลดต้นทุนการทำธุรกรรม และการขายอสังหาริมทรัพย์ ปกติเวลาโอนโฉนดจะมีต้นทุนการโอน มีเรื่องภาษีต่างๆ พอเปลี่ยนมาเป็นโฉนดดิจิตอล ต้นทุนตรงนี้จะหายไป คนสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้โดยใช้โฉนดดิจิทัลด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก โดยเฉพาะการเซทอัพธุรกิจที่ UAE (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มีสิทธิประโยชน์ทางด้าน Digital Asset 0% นั่นแปลว่าคุณสามารถซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษี ในการซื้อขายถ่ายโอน สำหรับประโยชน์ส่วนที่สองคือ Token Digital นี้ สามารถใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันในการกู้เงินได้ ซึ่งเรากำลังจะขอ Banking License ที่ UAE เมื่อเราได้ Banking License คุณจะสามารถนำโฉนดดิจิทัลที่อยู่ในมือมาแปลงเป็นเงินสด โดยใช้โมเดลการกู้เงินได้ค่อนข้างง่าย รวดเร็ว และต้นทุนต่ำ”

‘โฉนดดิจิทัล’ ลดปัญหาการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ
          “หลายคนอยากเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ แต่ต้องเจอกับปัญหาปวดหัวทั้งในเรื่องของการรีโนเวท ตั้งแต่การหาผู้รับเหมา การหา Property Management ดูแลจัดการปล่อยเช่า จ่ายภาษี จ่ายเงินประกันต่างๆ ค่าส่วนกลางต่างๆ ที่ผ่านมากระบวนการเหล่านี้เป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่ด้วยโมเดลของซังกะเรามีพาร์ทเนอร์อยู่ในญี่ปุ่นและในอังกฤษ พอคุณซื้ออสังหาริมทรัพย์และได้โฉนดที่ดินดิจิทัล เราจะมีพาร์ทเนอร์ช่วยดูแลหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า การบริหารทำความสะอาด การจัดการเรื่องภาษี การเคลียร์เรื่องประกันต่างๆ หมายความว่าถ้าผมซื้อบ้านที่ญี่ปุ่น ผมบินไปอยู่ปีละประมาณ 20-30 วัน เวลาที่เหลืออาจจะไม่ได้ปล่อยไว้เฉยๆ และด้วยระบบตรงนี้จะทำให้เรามีพร็อพเพอร์ตี้แมนเนจเม้นท์พาร์ทเนอร์ช่วยปล่อยเช่า นั่นแปลว่าช่วงที่คุณไปอยู่คุณสามารถพักอาศัยในบ้านของตัวเอง หรือสามารถไปพักอาศัยบ้านของเมมเบอร์คนอื่นๆ ในคลับ ส่วนช่วงที่คุณไม่อยู่ อสังหาริมทรัพย์หรือบ้านของคุณจะกลายเป็น Short Term Rental เปิดโอกาสให้ ลงทุน ได้รับปันผล ได้เข้าพัก และใช้ชีวิตอยู่ใน Ecosystem ทั้งหมดเลยครับ”

โฉนดดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของ VARA
          “ต้องบอกว่ากฎหมายที่ UAE เพิ่งออกมาช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เราไปเปิดบริษัทและทำงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ VARA (Virtual Assets Regulatory Authority) (คล้ายๆ กับ กลต.) โดย VARA มีหน้าที่ออกกฎหมายในการอนุมัติให้ทำ Digital Asset อย่างโฉนดที่ดินต่างๆ เราก็ไปเซทอัพบริษัทที่ UAE ตอนนี้บ้านหลังแรกที่เราแปลงเป็นโฉนดคือบ้านของผมที่ญี่ปุ่น ผมไปซื้อบ้านที่ชิซึโอกะหนึ่งหลัง และเป็นบ้านหลังแรกของญี่ปุ่นที่ถูกแปลงเป็นโฉนดดิจิทัล ซึ่งซังกะน่าจะเป็นเจ้าแรกที่ทำโฉนดดิจิทัลครับ”

ทำไมจึงเริ่มต้นใช้โฉนดดิจิทัลในประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ?
          “ตอนนี้เรามีอสังหาริมทรัพย์ที่อังกฤษกับญี่ปุ่น สำหรับอังกฤษมีเสน่ห์ในเรื่องของ Capital Gain มาตลอดหลายสิบปี แต่ในขณะที่ญี่ปุ่นมีความเข้าใจผิดอีกเยอะ ในอดีตมักมีการกล่าวว่าหากใครซื้อบ้านในญี่ปุ่นไม่ฉลาด เพราะว่า 30 ปีที่ผ่านมาราคาบ้านในญี่ปุ่นตกลงตลอด ด้วยเหตุผลเรื่องภาวะเงินฝืด หรืออะไรต่างๆ แต่หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด ภาวะตรงนี้เปลี่ยนไป สาเหตุที่เปลี่ยน เพราะมีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์บางอย่าง คือ ดอกเบี้ยในญี่ปุ่นต่ำมาก ขณะที่ดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาตอนนี้เกือบ 6% สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินเยนไหลไปลงทุนในสหรัฐเยอะขึ้น พอเงินเยนไหลออก ก็ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อน ถ้าปีที่แล้วคุณซื้อบ้านด้วยเงิน 100 ล้านเยน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 30 กว่าล้าน แต่วันนี้หากคุณซื้อบ้านในญี่ปุ่น 100 ล้านเยน คุณจะจ่ายเงินไม่ถึง 25 ล้านบาท จากการอ่อนตัวลงของเงินเยน ทำให้ตัวเลขในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีเม็ดเงินไหลเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกในปี 2022 พอดอกเบี้ยต่ำทำให้ต้นทุนการกู้ต่ำ แต่ตอนนี้ในญี่ปุ่นเริ่มมีเงินเฟ้อ ทำให้ค่าที่พักแพงขึ้น เมื่อค่าที่พักแพงขึ้น ก็จะดันให้ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้นตามไปด้วย ณ ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นจุดเปลี่ยน ที่ผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่าอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นจะผ่านจุด Bottom ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ราคาถูกที่สุดในรอบ 30 ปี แต่ก็กำลังมีแนวโน้มจะปรับตัวสู่ขาขึ้นในอีกไม่ช้า”

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลควร ‘มีความรู้’ และ ‘ไม่โลภ’
          “เวลาพูดถึง Digital Asset หรือ Cryptocurrency ช่วงนี้หลายคนจะกลัวมาก เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาเกิดภาวะตลาดแตก คนขาดทุนกันเต็มไปหมด ต้องบอกว่า Digital Asset หรือพวกเทคโนโลยีอย่าง Blockchain เป็นสิ่งที่ดี และมีประโยชน์ในการขับเคลื่อนระบบการเงินของโลก แต่ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตลาดที่ไม่ได้ถูกกำกับดูแล พอตลาดที่ไม่ได้ถูกกำกับดูแล ความเสี่ยงก็สูง นักลงทุนขาดทุนจากคริปโตหวังจะให้ กลต. เข้ามาช่วยก็ช่วยไม่ได้ เพราะกลต. ไม่ได้กำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ ดังนั้นหัวใจสำคัญคือ ต้องระวังให้ดี ไม่ว่าจะเรื่องของสแกม เรื่องของการฉ้อโกง หรือการหลอกลวง เพราะเรื่องเหล่านี้ในโลกของ Digital Asset มีเยอะมาก แต่หลังจากนี้โลกจะเริ่มเปลี่ยนแปลง มีการกำกับดูแลจากภาครัฐมากขึ้น อย่างที่ผมบอกว่าเราไปทำที่ UAE ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ VARA ดังนั้นควรจะหาโปรเจ็กต์ หรือ Digital Asset ที่มีการกำกับดูแล และทีมงานที่เป็นมืออาชีพน่าเชื่อถือได้ หากจะเข้ามาสู่ตลาด Digital Asset หรือ Cryptocurrency ต้องศึกษาดีๆ ระวังในเรื่องความโลภ อย่าโลภมาก และเข้าไปลงทุนในโปรเจ็กต์ หรือในสินทรัพย์ที่ตัวเองไม่มีความรู้ความเข้าใจมากพอครับ”

เป้าหมายของ Sanga (ซังกะ)
           “ผมว่าในโลกยุคต่อไปการท่องเที่ยวอาจจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นการย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราวไปทั่วโลก คุณอาจจะมีบ้านอยู่หนึ่งหลังในไทย หนึ่งหลังในญี่ปุ่น แต่คุณสามารถที่จะย้ายชีวิตของคุณไปพักอาศัยในที่ต่างๆ ทั่วโลกได้ ความฝันของผมคืออยากสร้างซังกะให้เป็น Ecosystem ที่คุณสามารถมีบ้านอยู่ทั่วโลก และเป็นการลงทุนด้วยรูปแบบปกติ อย่างในอดีตผมเสียเงินค่าโรงแรมที่พักเวลาไปต่างประเทศรวมๆ หนึ่งปีเป็นจำนวนหลายแสนบาท ในทางกลับกันถ้าเราเปลี่ยนค่าใช้จ่ายส่วนนี้กลับมาเป็นเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ สามารถปล่อยเช่า ได้ปันผล และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเดินทางไปที่ไหนในโลกจะมีบ้านให้คุณอยู่อาศัยได้ตลอด โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าโรงแรมที่พักอีกเลยตลอดชีวิต นั่นคือความใฝ่ฝันที่อยากเห็นซังกะเป็นแบบนั้น ถึงแม้ตอนนี้จะเริ่มต้นเพียงสองประเทศ แต่ในอนาคตเราจะขยายไปยังประเทศต่างๆ ให้มากขึ้นครับ”

ปรัชญาในการทำงาน
           “ผมมีความเชื่อว่า ความเป็นไปไม่ได้หลายๆ อย่างบนโลกใบนี้ มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เราอาจคุ้นชินกับสามัญสำนึกมาตลอดว่า โลกเป็นอย่างนี้มาตั้งหลายสิบปี และก็น่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจึงมีปรัชญาในการทำงานบวกกับความเชื่อว่า Make Impossible Possible ผมพยายามจะชาเลนจ์ในสิ่งที่คนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ และทำให้มันเป็นไปได้ ความน่าสนใจก็คือ เมื่อคนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ คู่แข่งจะน้อยลงทันที และถ้าเราหาช่องทางในความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้น มันคือการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ทำให้เกิดโมเดล หรือ Ecosystem ที่ดีกว่าเดิม ทำให้คนได้รับประโยชน์มากกว่าเดิม ตรงนี้เป็นแนวคิดที่ผมพยายามคิดมาตลอดในการทำงานครับ”

Photo By : Veeraphol
Author By : Aunnkanta. C

SHARE