ถือเป็นคู่สองแม่ลูกที่สนิทสนมกันมากที่สุดคู่หนึ่งเลยทีเดียว ระหว่าง คุณอุ๊ – มณฑ์ลัชชา และ น้องพะเพื่อน - ชุติมณฑน์ สกุลไทย ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน มักจะเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันตลอด จนเป็นภาพเจนตาของใครหลายคนนอกเหนือจากความใกล้ชิดกันของทั้งคู่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นภาพจำเวลานึกถึงทั้งคู่ คือสไตล์การแต่งตัว ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น จนใครต่อใครต่างยกให้ทั้งคู่เป็นไอดอลในการแต่งตัว นี่จึงนำมาสู่การพูดคุยสัมภาษณ์ เพื่อค้นถึงเคล็ดลับ และสไตล์อันเป็นตัวตนและน่าสนใจของแม่ลูกคู่นี้
Our Style
“สไตล์การแต่งตัวของแม่อุ๊ หลักๆ คือเน้นความสบาย สบายในที่นี้ไม่ใช่ว่า สบายจนไม่มีรายละเอียดนะคะ แม่อุ๊จะเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย แต่มีดีเทลที่น่าสนใจ และสามารถบ่งบอกความเป็นตัวของเราได้ ซึ่งบางครั้งก็มีทั้งแบบที่มีดีเทลเยอะๆ ไปจนถึงแบบที่เรียบง่าย ขึ้นอยู่กับแต่ละโอกาสค่ะ แต่ที่เน้นที่สุดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสไตล์ไหน คือ ความประณีตในการตัดเย็บ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเราจะใส่เสื้อผ้าออกมาได้สวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคัตติ้งด้วยค่ะ
“สำหรับสไตล์การแต่งตัวของน้องพะเพื่อนกับแม่อุ๊ เราสองคนจะตรงข้ามกันเลยค่ะ (หัวเราะ) สไตล์จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คือเขาก็จะมีสไตล์ของเขา ส่วนแม่ก็จะเป็นสไตล์ของแม่ที่จะเป็นผู้ใหญ่หน่อย ด้วยอายุที่เราต่างกันทำให้สไตล์เราไม่เหมือนกัน”
Share with mom, Share with me.
“ด้วยความที่เรามีสไตล์ที่ชัดเจนของแต่ละคนนี่แหละ ที่ทำให้เราสามารถแชร์เสื้อผ้าด้วยกันได้ (ยิ้ม) ฟังดูอาจจะไม่เข้าใจ คือเราสองคนสามารถนำเสื้อผ้ามามิ๊กซ์แอนด์แมทช์จนเกิดเป็นสไตล์ของเราได้ ยกตัวอย่าง แม่อุ๊มีเดรสสวยๆ คัตติ้งดีๆ ตัวหนึ่ง แม่ก็จะใส่แบบตรงๆ หลวมๆ แบบสไตล์แม่ แต่ในชุดเดียวกันนี้ พอเป็นน้องพะเพื่อนนำไปใส่ ด้วยความที่น้องตัวเล็กกว่าแม่ เขาก็จะไปหาเข็มขัดมาใส่รัดให้เกิดเป็นเอวเข้ารูป เขาก็สามารถใส่ให้เกิดเป็นอีกลุคหนึ่งไป ทั้งๆ ที่เป็นเสื้อผ้าตัวเดียวกัน แต่เราจะใส่แบบเดียวกันไม่ได้ (หัวเราะ) น้องเขาก็จะรู้สไตล์ของเขา และแต่งออกมาจนเป็นตัวตนของเขา เพราะฉะนั้นแม่ถึงได้บอกว่า หลักสำคัญในการเลือกซื้อเสื้อผ้าของแม่ และน้องพะเพื่อนคือต้องเน้นคุณภาพของการตัดเย็บค่ะ ถ้าการตัดเย็บมีคุณภาพเราก็สามารถใส่ออกมาได้สวย ใส่ได้นาน และยังนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์เป็นลุคต่างๆ ได้อีกด้วย
“และนอกเหนือจากเสื้อผ้า แม่อุ๊และน้องพะเพื่อนจะโชคดีมาก คือเราใส่รองเท้าไซส์เดียวกัน ทำให้เวลาเราซื้อของมา เหมือนได้ซื้อในราคาลด 50% (หัวเราะ) เพราะเราสามารถนำมาใช้ด้วยกันได้ รวมไปถึงกระเป๋าถือต่างๆ ด้วยนะคะ นี่คือข้อดีของการมีลูกสาวช่างแต่งตัวเหมือนกัน เหมือนเราได้เพื่อนที่จริงใจไปช่วยเลือกของ และทำให้การช้อปปิ้งของเราสนุกมากขึ้น เพราะเราต่างรู้แนวการแต่งตัวของกันและกัน ฉะนั้นเราจึงสามารถแชร์ไอเดียกันได้เวลาเลือกซื้อของค่ะ” (ยิ้ม)
YaccoMaricard
“อย่างแรกที่ประทับใจในแบรนด์ YaccoMaricard เพราะเขาเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น ซึ่งโดยส่วนตัวของแม่อุ๊แล้วเสื้อผ้า 90% ในตู้เป็นของญี่ปุ่นทั้งหมดค่ะ (ยิ้ม) เพราะเรารัก และเรามีความเชื่อมั่นในคุณภาพของเขา ส่วนสไตล์เราจะมีแบบเยอะบ้าง น้อยบ้าง หลายคนคงจะคุ้นเคยกับสไตล์เสื้อผ้าที่มีดีเทลเยอะๆ ของแม่ แต่ในบางโอกาสเราก็ต้องการเสื้อผ้าที่เรียบๆ บ้าง แต่ทว่าต้องเหมาะกับเราด้วยนะคะ ซึ่ง YaccoMaricard สามารถตอบโจทย์ของเราได้ เวลาสวมใส่รู้สึกได้ว่ามีความเป็นแม่อุ๊อยู่ ที่สำคัญคัตติ้งของเขาดีมากๆ ในบางชุดแม่สามารถส่งต่อให้น้องพะเพื่อนใส่ต่อได้เลย โดยน้องจะนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์จนเกิดเป็นลุคใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ซึ่งมีความเก๋ไปอีกแบบหนึ่งค่ะ”
