TAG Heuer ได้เริ่มผลิตซีรีส์นาฬิกาหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมในปี 1968 จนถึงรุ่นสุดท้ายที่ผลิตในปี 1983 โดยนาฬิกา TAG Heuer Carrera Skipper ครั้งหนึ่งได้เป็นที่คุ้นตาจากสวมใส่บนข้อมือของนักเดินเรือทั้งระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น และปัจจุบันหลังจากการหายไปจากเปิดตัวบนแค็ตตาล็อกของ TAG Heuer นับเป็นเวลา 40 ปีพอดี นาฬิการุ่น Skipper อันเป็นที่ชื่นชอบนี้ได้กลับมาแล้วอีกครั้ง และแม้ว่านาฬิการุ่น Skipper เวอร์ชั่นต่อมาจะใช้รูปแบบตัวเรือนของนาฬิการุ่น TAG Heuer Autavia แต่อย่างไรก็ตาม ตัวต้นแบบแรกของนาฬิการุ่นนี้ (ซึ่งถูกผลิตประมาณ 300 เรือนเท่านั้น) ได้อ้างอิงมาจากนาฬิกาโครโนกราฟของตระกูล TAG Heuer Carrera อันเป็นที่โด่งดัง
เพื่อคงลักษณะสำคัญตามธรรมเนียมวิถีการเดินเรือของ TAG Heuer นาฬิกาเจเนอเรชั่นใหม่ของรุ่น Skipper นี้ ยังได้อ้างอิงจากนาฬิการุ่น Carrera Glassbox ที่พึ่งเปิดตัวก่อนหน้านี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งการออกแบบนาฬิกาที่สมบูรณ์แบบเหมาะกับการเดินเรือ โดยมาพร้อมกับความภูมิฐานและสามารถใช้งานได้จริง ด้วยหน้าปัดนาฬิกา Glassbox แบบไร้ขอบที่ช่วยขยายความกว้างของตัวเรือนไปจนสุดขอบ และหน้าปัดนาฬิกาแบบหน้าแปลนทรงโค้งที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด รวมถึง การจัดวางหน้าปัดย่อยโครโนกราฟอย่างลงตัว ทั้งหมดนี้ทำให้นาฬิกา TAG Heuer รุ่น Carrera Skipper สามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกสถานการณ์ โดยความสามารถในการอ่านหน้าปัดนาฬิกาในระดับสูงนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรือกำลังลอยอยู่บนผิวน้ำในช่วง ‘Pre-start’ ของการแข่งขันอันแสนสำคัญ ก่อนที่จะยิงปืนเพื่อเป็นสัญญาณให้ออกเดินทาง
นอกจากนี้ นาฬิกา TAG Heuer Carrera Skipper รุ่นใหม่ ยังมาพร้อมกับตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร ที่มีความแข็งแกร่งแต่ยังคงความสง่างามของนาฬิกาตระกูล Carrera และกลไก TH20-06 รุ่นล่าสุดที่หมุนลานในสองทิศทาง พลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง และแน่นอนว่าทางแบรนด์ยังเลือกใช้สายนาฬิกาที่ทำจากผ้าคุณภาพสูง มีความทนทาน และได้กลับมาโชว์ความโดดเด่นและสีสันสดใสอีกครั้ง พร้อมหน้าปัดหลักเคลือบเงาทรงกลมพ่นสีน้ำเงิน (เป็นโทนสีที่ได้รับแรงบันดาลจากสีของน้ำทะเล) ในสไตล์ซิกเนเจอร์ของรุ่น Carrera ตัดกับหน้าปัดย่อยที่แสดงความคอนทราสต์กันอย่างชัดเจน – หน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมงจะมาในสี ‘Intrepid Teal’ และหน้าปัดย่อยจับเวลาสำหรับการแข่งขันเรือแบบ 15 นาที แต่ละส่วนจะมาในสี Intrepid teal, สี Lagoon Green และสี Regatta Orange ยิ่งไปกว่านั้น ฟีเจอร์ต่างๆ ยังได้ถูกถ่ายทอดตามแบบนาฬิกาที่มีความเป็นมาอย่างยาวนานอีกด้วย
