เพราะเชื่อในคุณค่าความงดงามของงานหัตถศิลป์ และต้องการสร้างความสมดุลในการประกอบอาชีพให้กับผู้คนในชุมชนเพื่อไปสู่ความยั่งยืนในการใช้ชีวิต Seire Collective (เสรี คอลเลคทีฟ) แบรนด์ที่นำงานคราฟต์มารังสรรค์เป็นเสื้อผ้า เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่มากกว่าแค่นำมาสวมใส่ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยสถาปนิกสาวคนนี้ คุณแทมมี่ - ธนพร อมรเกษมวงศ์
คุณแทมมี่ สาวเก๋ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคนนี้ เธอเรียนจบด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์จาก Architectural Association School of Architecture ประเทศอังกฤษ เป็นคนชอบเดินทางและเที่ยวในประเทศ และจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่สมัยเรียน เริ่มตั้งแต่ทุกๆ ปิดเทอมสั้นๆ 1 เดือน หรือ 3 เดือน จะเดินทางไปภาคอีสาน ภาคใต้ รวมถึงประเทศใกล้เคียง และจะไปดูงานชุมชนเกือบทุกครั้งที่มีโอกาสได้เดินทาง และยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเธอได้มีโอกาสเดินทางไปในชุมชนต่างๆ และได้เห็นผลงานที่เป็นฝีมือของชาวบ้านในชุมชนนั้นๆ จึงได้เกิดเป็นไอเดีย อยากต่อยอดจากสิ่งเหล่านี้ โดยนำงานคราฟต์ที่ได้สัมผัสมาผสมผสาน และสร้างสรรค์มาเป็นเสื้อผ้าในรูปแบบของเธอ แต่ยังคงไว้ซึ่งเรื่องราว และบอกเล่าถึงที่มาของงานเหล่านั้นได้อย่างครบถ้วน
“จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Seire Collective เกิดจากการชอบเดินทาง บวกกับความรู้เรื่องสถาปัตยกรรม โดยการเรียนสถาปัตยกรรมทำให้เราสนใจความสัมพันธ์ระหว่างการดำรงชีวิตและพื้นถิ่นที่พวกเขาอาศัยอยู่ค่ะ เราจึงเลือกทำในสิ่งที่เราสนใจอยู่แล้วนั่นคือ เกี่ยวกับงานคราฟต์ในประเทศไทย ซึ่งเมื่อเราได้ลงมือทำ เราต้องมีการ Research ว่าผ้าแต่ละอย่างมีที่มาอย่างไร ได้อิทธิพลมาจากใคร ยิ่งพอได้ศึกษาก็รู้สึกว่า ทุกอย่างมีเรื่องราวมีที่มาที่ไป ทำให้เรายิ่งชอบ และยิ่งได้สนับสนุนชุมชนด้วย จึงเกิดเป็นแบรนด์ Seire Collective มาประมาณปีกว่าแล้วค่ะ ซึ่งนอกจากเราจะมีเสื้อผ้าแล้ว ก็เป็นเหมือน research และ storyingtelling platform ด้วยค่ะ แทมมี่คิดว่างานคราฟต์ทุกชิ้นมีคุณค่า และเรื่องราวอยู่ในตัวของมันเองค่ะ ซึ่งแทมมี่ให้ Value กับสิ่งเหล่านี้มากๆ ค่ะ”
นอกเหนือจากการทำงานในสิ่งที่รัก คุณแทมมี่ให้ความสำคัญในเรื่องของลงทุนอีกด้วย ถึงแม้ว่าเธออายุยังน้อย และไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินมากนัก แต่เธอก็มีผู้ช่วยมืออาชีพที่ไว้ใจได้มาช่วยดูแลตรงนี้
“ด้วยความที่แทมมี่เรียนทางด้านศิลปะ ไม่มี Background เรื่องการเงิน แต่โชคดีที่คุณแม่ท่านเป็นนักลงทุนอยู่แล้ว บทสนทนาบนโต๊ะอาหารที่บ้านก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนเสมอ ทำให้แทมมี่ซึมซับมาบ้างในเรื่องการบริหารจัดการการเงินด้วยการลงทุนที่หลากหลาย ”
Legacy Family Wealth Planning
“ในเรื่องการลงทุนตรงนี้ แทมมี่ได้อิทธิพลมาจากคุณแม่ เพราะคุณแม่ทำธุรกิจ และที่สำคัญคุณแม่มีความเชื่อในเรื่องของ Sustainable Growth คือจะเน้นเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืน และไอเดียของ Family Legacy ทางยูโอบีเองให้คุณค่ามากๆ คือ การส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนี่คือสิ่งที่ครอบครัวของเราให้คุณค่าเช่นกัน เพราะคุณแม่ก็บอกเราในสิ่งเหล่านี้ จึงทำให้เราและยูโอบีเชื่อมโยงกันได้ง่ายและเร็วขึ้นค่ะ”
UOB Privilege Banking
“แทมมี่ให้ทาง UOB Privilege Banking เป็นผู้ช่วยดูแลทางด้านการเงิน ที่บ้านตั้งแต่รุ่นอาม่าก็ใช้บริการที่นี่ค่ะ เรียกว่าเป็น Brand Loyalty คือ อยู่ที่นี่นานมาก เรียกว่าตั้งแต่เจเนอเรชั่นอาม่า จนมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 คือรุ่นหลานอย่างพวกเราค่ะ และด้วยความที่ใช้บริการที่นี่มานาน ทำให้เราสนิทกับยูโอบีเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งเวลาที่บ้านมีกิจกรรมพิเศษก็จะเชิญทางยูโอบีมาร่วมตลอด เช่นกันหากทางยูโอบีมีอะไรดีๆ ก็จะนึกถึงพวกเราเสมอเช่นกัน ทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากๆ ค่ะ
“ตอนนี้ที่บ้านเราก็มีช่องทางแชทกรุ๊ปไว้สื่อสารกันในเรื่องการลงทุน โดยมีคุณแม่ พวกเราพี่น้องห้าคนและที่ปรึกษาทางการเงินของยูโอบีคอยให้คำปรึกษาและอัปเดตข่าวสารอยู่เป็นประจำ ซึ่งแม้น้องชายของแทมมี่จะไม่ได้อยู่เมืองไทย เขาก็สามารถจับใจความของการสนทนาได้ว่าตอนนี้มีอะไรเกิดขึ้น เราลงทุนอะไร หรือทำอะไร และคุณแม่เองก็รับรู้ในข่าวสารพร้อมกันกับพวกเรา สำหรับแทมมี่และครอบครัว ยูโอบีดูแลเราอย่างเป็นส่วนตัว Personalised ทุกการลงทุนให้ตอบโจทย์กับครอบครัวของเราจริงๆ นี่คือจุดแข็งที่ UOB Privilege Banking แตกต่างจากสถาบันการเงินอื่นๆ ค่ะ”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UOB Privilege Banking โทร 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking
