สวัสดีครับชาวผู้อ่าน HiSoParty ที่รัก โดยปกติแล้วเดือนนี้ ผมมักนำเสนอเรื่องเทรนด์แฟชั่นสำหรับฤดู Fall/Winter 2018/19 ที่กำลังจะมาถึง แต่ตามประสาผมซึ่งไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ เหมือนที่เคยทำกันทุกปี ปีนี้เลยรีบเขียนเรื่อง เทรนด์ล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เดือนที่แล้ว
จริงๆ เดือนนี้อยากเขียนถึงเรื่อง Fashion Icon หลายๆ คน ที่ผมนิยมชมชอบเพราะรู้สึกอินสปายจากภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับประวัติของ Freddie Mercury แห่งวง Queen ซึ่งจะลงโรงออกฉายในเร็วๆ นี้ พอดูตัวอย่างหนังโฆษณาไปทำให้คิดถึงนักร้องหลายๆ คนที่ต้องบอกว่าเป็นตัวแม่ที่อินสปายเหล่าดีไซเนอร์หลายๆ คนให้สร้างสรรค์งานคอลเลคชั่นตามสไตล์เหล่าศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง เหล่านั้น ก่อนที่เราจะมาถึงยุคที่ใครๆ ก็มักพูดถึง Lady Gaga, Kathy Perry หรือนักร้องอีกหลายๆ คน จริงๆ ต้องบอกว่าสำหรับผมนักร้องรุ่นก่อนๆ เก๋ากว่า เก๋กว่า และเปรี้ยวซ่ากว่าเยอะ เมื่อคิดถึง Freddie ก็ทำให้อดคิดถึง David Bowie หนึ่งใน Style Icon ที่ผมชื่นชมไม่ได้ จริงๆ ถ้าจะให้เขียนถึงเหล่าสไตล์ไอคอนเหล่านี้ ผมคงเขียนได้ไม่มีจบ และเขียนได้หลายภาคผนวกมาก จึงมีความจำเป็นที่ต้องเลือกเป็นคนๆ ไป ไม่อย่างนั้นคงเขียนกันไม่จบสิ้น ลองมาคิดๆ ดูผมขอเลือก Style Icon แบบคลาสสิกๆ เรียบๆ ก่อนเพราะนึกอีกที ไม่ได้เขียนถึงเรื่องหนุ่มๆ หล่อๆ มาดนิ่งๆ มานาน วันนี้จึงอยากเขียนถึงหนุ่มหล่อมาดโก้ สไตล์เนี้ยบบ้างครับ
ถ้าพูดถึงหนุ่มหล่อมาดเนี้ยบที่ผมชื่นชอบที่สุดคนหนึ่ง ผมต้องขอบอกว่าหนุ่มคนนี้ไม่เคยตกสมัย และความไม่ตกสมัยนี้เองที่ทำให้สไตล์ของเขาโดดเด่นมาก นอกจากจะหล่อคลาสสิกดูกี่ปีกี่ชาติก็ไม่เชยแล้ว เขายังดูไม่ประดิษฐ์ ไม่ปรุงแต่ง และไม่พยายามเกินไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการแต่งตัว ไม่ว่าจะชายจะหญิงก็แล้วแต่ วันนี้ผมอยากแนะนำให้คุณหนุ่มๆ (หรือคุณสาวๆ ที่ชอบจับคุณหนุ่มๆ ข้างตัวแต่งตัวให้หล่อไม่ขัดใจอยู่เสมอ) รู้จักกับ Steven McQueen หนุ่มเนี้ยบมาดแมนสุดหล่อ Style Icon ที่ไม่เคยตกสมัยครับ Steven McQueen ได้ฉายาว่า The King of Cool ด้วยลุคที่ดูสบายๆ ไม่ปั้นแต่ง และดูลำลองกว่าพระเอกในยุคเดียวกัน วิธีการแต่งตัวของเขา เป็นต้นตำรับความหล่อแบบหนุ่มอเมริกันที่หล่อแบบไม่เนี้ยบจนเกินไป มีความลำลองสบายๆ ติดปลายหมัดอยู่เสมอ ความหล่อแบบนี้แหละครับที่ผมว่ามันเหมาะกับหนุ่มๆ แทบทุกคน แทบทุกเชื้อชาติ และหลากหลายอายุ เพราะมันไม่มากไปไม่น้อยเกินไป ดูกำลังพอดีสะอาดตา ผมชอบลุคเสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงกากีฟิตสวย กับนาฬิกา Rolex และแว่นดำทรง Aviator ที่ดูกี่ครั้งก็หล่ออยู่เสมอ ผมได้แรงบันดาลใจจากเขาอยู่เสมอในยามคิดถึงลุคของตัวเองและหนุ่มๆ ที่ต้องแต่งตัวให้ ลองมาดูกันว่าทำไมเขาคนนี้ถึงเป็นสไตล์ไอคอนที่ไม่มีใครลืม ซึ่งเอาเข้าจริงหนุ่มๆ ที่แต่งตัวเรียบๆ น้อยๆ ก็มีไม่กี่คนที่โลกไม่เคยลืม เพราะส่วนใหญ่คนมักจดจำคนเล่นใหญ่ แต่งตัวดราม่า แต่เอาเข้าจริงๆ คนแต่งตัวน้อยๆ นิ่งๆ นี่แหละยากกว่า ยิ่งน้อยและนิ่งแต่ทรงพลังนั้น ต้องใช้รสนิยมขั้นเทพเลยทีเดียวครับ
ก่อนไปถึงวิธีการแต่งตัวของหนุ่มหล่อคนนี้ ผมขอเล่าถึงเขาพอสังเขปก่อน เขาเกิดในยุค 1930 แต่มาโด่งดังเป็นพลุแตกสมัยช่วง 1960-1970 ซึ่งในช่วงเวลาที่เขาโด่งดังนี้เองเป็นช่วงเวลาที่สไตล์ของเขาโดดเด่น และเป็นที่จดจำมากที่สุด เพราะเขาแตกต่างจากดาราชายที่โด่งดังในช่วงเวลานั้นอย่างสิ้นเชิง ลุคของเขาดูสบายและเข้าถึงได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ เยอะมาก ทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกสัมผัสได้ถึงตัวตนของเขา นอกจากนั้น เขายังดูเป็นหนุ่มมาดแมนที่แฝงความกวนไว้ได้อย่างลงตัว ผมว่าด้วยเหตุนี้เองหนุ่มๆ ชาวอเมริกันถึงมองเขาเป็นไอดอลและชื่นชอบวิธีการแต่งตัวของเขาอย่างไม่เคยลืม ลองมาดูกันครับว่าเขามีวิธีแต่งตัวอย่างไร
Casual but Smart
Steve ได้ชื่อว่าเป็น King of Cool เพราะเขาไม่เคยดูเป็นงานเป็นการเกินไป เขามักจะอยู่ในลุคสบายๆเสมอ แต่ความสบายนี่แหละตัวปัญหา จะสบายอย่างไรให้ดูดี ดูสะอาดและเนี้ยบ คำตอบคือถึงจะเป็นลุคสบายทุกอย่างต้องเนี้ยบ ทั้งเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ กางเกงกากี ทุกอย่างล้วน Perfect Fit ด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากนั้น รองเท้า แว่นตา ที่เก๋เนี้ยบ ก็ช่วยอัพให้ลุคที่ดูสบาย ดูโก้และแพงเสมอ ฉะนั้นคุณหนุ่มๆ ครับ เรื่องฟิตที่เหมาะและเป๊ะเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
Gentleman Suit
เมื่อยามที่ต้องลุกขึ้นมาหล่อเนี้ยบ เขาก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง เพราะลุคที่เขาเลือกใส่นั้น Tailor มาอย่างดี ที่สำคัญทุกกระเบียดคือความคลาสสิก ไม่เทรนดี้เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้แฟชั่นช่วงนั้นจะเป็นกางเกงทรงขาม้าแบบฮิปปี้ ตัวเขากลับเลือกใส่เสื้อผ้าทรงคลาสสิค ซึ่งทำให้เขาดูเป็นหนุ่มเนี้ยบมาดสะอาดที่ไม่วิ่งตามเทรนด์แม้แต่น้อย ผมว่าสำหรับคุณหนุ่มๆ การวิ่งตามเทรนด์มากทำให้ดูไม่หนักแน่น ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ผมว่าหล่อเรียบเนี้ยบ ไม่เคยตกสมัยจริงๆ ครับ ที่สำคัญถ้าจะใส่สูทต้องเนี้ยบและเป็นสูทที่ Tailor เท่านั้นครับ
Layers
หนุ่มไทยอาจจะไม่คุ้นกับการแต่งตัวแบบ layer หรือแปลเป็นไทยว่าใส่หลายๆ ชั้น เพราะอากาศบ้านเราอาจไม่อำนวย แต่จริงๆ ถ้าเราทำงานในอาคารสำนักงานติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ การมีแจ็คเกตยีนส์ทรงพอดีตัวสวยๆ หรือเสื้อไหมพรมถักสไตล์ Cardigan ก็จะช่วยให้คุณโดดเด่น หล่อแบบอินเตอร์ได้ไม่เลวทีเดียวครับ หรือไม่ก็แจ็คเกตสปอร์ตๆ สักตัวช่วยให้คุณดูหล่อเนี้ยบได้เช่นเดียวกันครับ
Signature Shades
คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่า ทำไมผมถึงชอบ Steve McQueen มาก เพราะเขาชอบใส่แว่นดำ Ray Ban ในสไตล์ Aviator อยู่เป็นประจำ จนเป็นลุคที่ทุกคนจดจำเขาได้ ไม่แปลกใจเลยที่ผมมีภาพนั้นติดตาอยู่เสมอและอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมชอบแว่นทรงนี้ที่สุด และสะสมแว่นทรงนี้ไว้เยอะ เพราะผมว่าใส่อย่างไรก็หล่อ เข้ม และเหนือการเวลาจริงๆ ครับ เพราะฉะนั้นคุณหนุ่มๆ ควรจะหาแว่นที่เข้ากับทรงหน้าและที่สำคัญเข้ากับบุคลิกของเราไว้ เพราะจะเป็นอีกหนึ่งของประดับกาย ที่ช่วยสร้างคาแรกเตอร์ให้กับเราได้เป็นอย่างดีครับ
Khakhi & T-Shirt
ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชอบแต่งตัวสบายๆ เราจึงมักเห็นเขาในลุคเสื้อยืดกับกางเกงกากีอยู่เสมอ แต่กางเกงกากีของเขานั้นต้องบอกว่าฟิตพอดิบพอดี ถึงจะดูลำลองแต่ก็เป็นลำลองที่เนี้ยบมากๆ ครับ เช่นเดียวกับเสื้อยืดเรียบๆ ก็ฟิตกำลังเหมาะ ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณหนุ่มๆ ควรลงทุนโดยเฉพาะเสื้อยืดผมเป็นคนหนึ่ง(อาจจะได้อิทธิพลของ Steve) ที่ต้องมีเสื้อยืดสีดำสีขาว ติดตู้เสื้อผ้าไว้เลเยอร์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะเสื้อยืดขาว ผมมักจะต้องซื้อเปลี่ยนบ่อยๆ เพราะใส่ไปเรื่อยๆ สีจะหมอง และคอจะย้วย ดูไม่หล่อเนี้ยบ ฉะนั้นทุกครึ่งปีก็ต้องเปลี่ยนใหม่ยกเซ็ต เพราะยังไงๆ ก็ต้องได้ใส่ตลอดอยู่แล้วครับ
Good watch
สำหรับผมหนุ่มๆ ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเป็นเครื่องประดับในตัวมาก ไม่ต้องมีแหวนเพชร หัวเข็มขัดดีไซเนอร์หัวใหญ่ ผมว่าแค่นาฬิกาโก้ๆ คลาสสิกสักเรือนกับเสื้อผ้า ไม่ว่าจะชุดเนี้ยบ ชุดลำลอง ผมว่านาฬิกาคลาสสิคไว้ติดตัวสักเรือนใส่ได้กับทุกลุค และที่สำคัญใส่ได้ชั่วลูกชั่วหลานทีเดียวครับ
เห็นไหมครับ ถ้ามองวิธีการแต่งตัวของ Steven McQueen ไม่มีอะไรรุงรัง เกะกะ แบบไม่จำเป็นเลย น้อยชิ้นและเป็นชิ้นสบายๆ แต่ทุกชิ้นต้องเป๊ะทั้งหมด ผมว่าวิธีการแต่งตัวแบบนี้แหละครับ คือศิลปะขั้นสูงของการแต่งตัว จะว่าง่ายก็ไม่ง่ายนะครับ ความพอดีผมว่าหายากที่สุดครับ หวังว่าหนุ่มๆ คงเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปเสริมหล่อกันไม่แพ้คุณสาวๆ นะครับ แล้วพบกันใหม่เดือนหน้าครับ สวัสดีครับ
Story by Polpat Asavaprapha
