สวัสดีครับชาวผู้อ่าน HISOPARTY เราย่างเข้าสู่หน้าฝนสมบูรณ์แบบแล้วครับ ชีวิตชาวกรุงคงต้องทำใจเรื่องฝนตกรถติด ชาวกรุงเทพฯ คงต้องทำใจร่มๆ และให้คุ้นชินกับเรื่องรถติดหน้าฝน ยามหงุดหงิดกับวิถีชีวิตชาวกรุง สิ่งหนึ่งที่น่าจะช่วยทำให้เรารักเมืองไทยหรือกรุงเทพฯ ให้มากขึ้นคือถึงฝนจะตกรถจะติด น้ำจะท่วม (ซึ่งผมเองติดอยู่ในรถกับการจราจรที่แสนติดขัดอยู่ 3 ชั่วโมงเพื่อจะขยับตัวไปในอีกแค่ไม่เกิน 5-6 กิโลเมตร) ประเทศไทย และกรุงเทพมีข้อดีอยู่มากมาย ปัจจุบันจะให้ย้ายไปอยู่ประเทศอื่นก็คงจะไม่มีความสุขเหมือนอยู่บ้านเรา อย่างไรก็แล้วแต่ ดีใจและภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และอยากใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ฉะนั้นถ้าคุณๆ คิดเหมือนกัน คงต้องมาช่วยให้เมืองไทยนั้นน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ช่วยๆ กันคนละไม้คนละมือนะครับ ทำให้เมืองไทยเป็นเมืองที่กลับมามีรอยยิ้ม มิตรภาพ และน้ำใจเหมือนดั่งซึ่งสมญานาม ‘สยามเมืองยิ้ม’ ครับ
ครั้งนี้จึงขอยกแง่มุมต่างๆ ของความเป็นไทยที่เราต่างภูมิใจมาแบ่งปันกันครับ ก่อนจะไปถึงเรื่องใหญ่ๆ ขอกล่าวชื่นชมน้องสาวที่รักกันมานาน @Pearypie น้องแพรี่พาย Fashion Influencer ที่โด่งดังมาจากเรื่อง Make up ซึ่งปัจจุบัน ผันตัวเองมาสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเรื่องการสวมใส่ผ้าไทย ผมขอชื่นชมน้องเขาด้วยความจริงใจ ที่เป็นกระบอกเสียงให้คนรุ่นใหม่สนใจสวมใส่ผ้าไทย ท่องเที่ยววิถีไทยและภูมิใจกับความเป็นไทย อยากให้ลองติดตามกันดูนะครับ น่าชื่นชมจริงๆ ครับ เข้าเรื่องกันเลยนะครับ ผมขอพูดถึงความเป็นไทย ซึ่งในปัจจุบันคงไม่ได้จำกัดความอยู่แต่มรดกเชิงอนุรักษ์อีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นจากมันสมอง และฝีมือคนไทยล้วนจัดเป็นวิถีไทยด้วยกันทั้งสิ้น การรณรงค์ให้คนไทยภูมิใจในอุตสาหกรรมของคนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ครับ
Thai Brands
แบรนด์เสื้อผ้าไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะใช้ผ้าไหมไทย ผ้าฝ้ายไทยหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากมันสมองคนไทย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่มากมายหลายแบรนด์ แบรนด์กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ บางแบรนด์ อาจจะมีกลิ่นไทยอย่างเข้มข้นอย่างแบรนด์เครื่องประดับ @Sarranofficial ที่นำเอาวัฒนธรรมไทยมาต่อยอดเป็นเครื่องประดับที่สวยวิจิตร หรือจะเป็นแบรนด์กระเป๋าสุดฮิปอย่าง @nasha_official ที่ได้แรงบันดาลใจจากเถาปิ่นโตอย่างไทยๆ หรือจะเป็นแบรนด์กระเป๋าไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Boyy ที่อาจจะดูเป็นแหม่มแสนแหม่ม แต่ก็เป็นแบรนด์สัญชาติไทย 100% ใครอยากติดตามแบรนด์เสื้อผ้าของไทย ลองหาข้อมูลได้จาก Bangkok Fashion Society ที่เป็นแหล่งรวมของเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดังหลายๆ แบรนด์ทั้งชายและหญิง บางแบรนด์ก็โกอินเตอร์โดยใช้ผ้าไหมไทยในการออกแบบคอลเลกชั่น อย่างแบรนด์ ASAVA ที่ใช้ผ้าไหมจากปักธงชัย โคราชมาสร้าง Collection ที่สวยงามทันสมใยและนำไปโชว์ที่เซี่ยงไฮ้แฟชั่นวีค หรือจะเป็นแบรนด์ @Wisharawish ที่นำเอาเทคนิคผ้ามัดย้อมจากภาคใต้ของไทย มาสร้างสรรค์ลุคแนวสตรีทสุดคูล นอกจากนั้นยังมีแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายที่เราชาวไทยต้องช่วยกันสนับสนุนนะครับ ประเทศไทยเป็นประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ประเทศเดียวที่มีสังคมนักออกแบบที่เข้มแข็งในทุกๆ สาขาเทียบได้เท่ากับประเทศใหญ่ที่มีอิทธิพลเชิงดีไซน์ เราควรรีบปักมุดให้กับอุตสาหกรรมการออกแบบอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายไปครับ การช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือการหันมาใช้สินค้าจากคนไทยด้วยกันเอง ผมเห็นดีไซเนอร์ต่างชาติเอาผ้าไทยไปใช้และได้รับการชื่นชมจากคนทั่วโลก แถมขายราคาแพงอีกต่างหาก จริงๆ สิ่งเหล่านั้นที่คนต่างชาติทำอยู่ก็ไม่แตกต่างจากสิ่งที่นักออกแบบชาวไทยทำไว้แล้ว แต่พอเป็นชาวต่างชาติทำกลับฮือฮากันเหลือเกิน ช่วยๆ กันนะครับของเราดีออกจะตาย ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพงด้วยซ้ำ สมัยนี้ของสวยๆ โดยฝีมือคนไทยขายไม่แพงมีมากมาย หากรู้จักแต่ง รู้จักแมทช์ดีๆ ออกจะดูดี ดูสวย แตกต่าง และมีเอกลักษณ์ด้วยครับ
วิถีไทย
คำว่า ‘วิถีไทย’ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราควรนำมาใช้เป็นจุดเด่น ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว การกิน การอยู่ ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มี Street food อันดับ 1 ของโลก จาก CNN แถมการท่องเที่ยวของไทยก็เป็นอันดับ 3 ของโลกที่คนอยากมามากที่สุด นี่ยังไม่นับรวมถึงอาหารไทยที่ได้รับความนิยมทั่วทุกมุมโลก เดี๋ยวนี้เดินเข้าเซเว่นที่ไต้หวันก็ซื้อข้าวหน้ากะเพราไก่ไข่ดาวได้แล้ว ผมดีใจที่ได้เห็น ร้านอาหารไทยทั้งแบบ Classic แบบ Street food และแบบฟิวชั่นได้ติดดาวมิชลินกันทั่วโลก ล้วนตื่นเต้นชื่นชมกับรสชาติอาหารไทยและวิถีไทยกันทั้งสิ้นแม้แต่ Disney ยังผลิตการ์ตูน Mickey mouse และ Minnie mouse กับ Chip กับ Dale มาเที่ยวตลาดน้ำเลยครับ ผมว่าเราต้องเลิกเห่อประเทศเพื่อนบ้าน และเริ่มทำความรู้จักเมืองตัวเองประเทศตัวเองให้มากขึ้น ผมว่าเรายังมีของดีน่าค้นหาอีกเยอะ โดยเฉพาะลูกๆ หลานๆ รุ่นใหม่ไม่อยากให้ลืมวิถีไทย เดี๋ยวนี้ทุกคนเรียนอินเตอร์ อยากเป็นฝรั่ง อยากเอาอย่างชาติตะวันตกกันหมด ผมว่าที่ประเทศเรารุ่งเรือง เพราะเรามีรากเหง้าที่เจริญ งดงาม และเข้มแข็ง แต่ถ้าเราไม่ตอกย้ำรากเหง้าเราให้แข็งแรงเช่นเดิม เราจะถูกกลืนด้วยวัฒนธรรมต่างชาติและสุดท้ายเราจะขาดเอกลักษณ์อันเป็นจุดเด่นของประเทศไทยครับ
มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน มีน้องสอนน้อง อย่ามัวเห่อคนชาติอื่นอยู่เลยครับ เรามีหน้าที่เห่อกันเองครับ วัฒนธรรมดีๆ ต้องช่วยกันอวย ส่วนวัฒนธรรมแย่ๆ ก็ต้องช่วยกันกำจัดออกไป ขอเอาคำโบราณที่ไม่เคยตกยุคตกสมัยมาบอกกล่าวกันครับ ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ’ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ
Author By : Polpat Asavaprapha
