counters
hisoparty

‘ร้อยสิบเอ็ดปี เอสเจซี’ สายใยความรักความผูกพันที่ไม่มีวันเลือน

5 years ago

หลังจากที่ทีมงาน HISOPARTY ได้เก็บภาพบรรยากาศสุดแสนประทับใจของบรรดาศิษย์เก่าจากรั้วเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ที่ทุกคนได้มารวมพลังกันในงาน #111SJC  ‘ร้อยสิบเอ็ดปี เอสเจซี’ ฉลองครบรอบ 111 ปี การก่อตั้งโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์  เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นถึงสายใยความรักความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนพี่น้อง ลูกศิษย์และคุณครู คอลัมน์ Living My Style ครั้งนี้ จึงไม่พลาดที่จะรวบรวมบทสัมภาษณ์ของเหล่าเซเลบริตี้สาวเก่ง ซึ่งทุกท่านได้ให้เกียรติมาบอกเล่าถึงความรักความประทับใจสมัยวันวาน

“สมัยเรียนจะเป็นประธานนักเรียน ประธานรุ่น หัวหน้าห้อง เด็กเรียนดี และชอบทำกิจกรรมกีฬามากค่ะ คือเป็นทั้งนักกีฬาโรงเรียน และตัวแทนเยาวชนทีมชาติบาสเก็ตบอล นอกจากนี้ก็จะพาเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องไปเชียร์กีฬาชิงแชมป์ตลอด เรารู้สึกภูมิใจและรู้สึกขอบคุณที่เป็นศิษย์เซนต์โยเซฟ เพราะได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้ ก็มาจากคุณครูและโรงเรียน ที่สำคัญที่สุดได้เพื่อนที่รู้ใจและเพื่อนดีๆ มากมาย ที่รักและผูกพัน คบหากันมาอย่างเหนี่ยวแน่นจนถึงปัจจุบัน การกลับไปโรงเรียนอีกครั้ง เหมือนได้ย้อนอดีตในวันเด็ก ความสุข ความสนุกมันวิ่งกลับเข้ามาในหัว และเมื่อเดินไปทุกมุมทุกที่ในโรงเรียน ก็เจอแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุขของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ตั้งแต่อายุ 18 – 99 ปี เป็นภาพที่ประทับใจอยู่ในความทรงจำอย่างไม่ลืม โดยเฉพาะเพื่อนในแต่ละรุ่น ที่บางคนไม่เคยเจอกันมา 30 – 40 ปี ก็ได้กลับมาเจอกันในงานนี้ค่ะ”

“ตุ้มเป็นเด็กกิจกรรมสุดๆ ชอบหนีเรียนอยู่ตามซอกมุม ซ้อมลีด รำไทย คือจะร่วมกิจกรรมทุกสิ่งอย่างเลยค่ะ ซึ่งก็ทำให้เรามีความทรงจำมากมาย คุณครูและมาเซอร์สอนให้เราทุกคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น คำสั่งสอนของท่านทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ รวมถึงทุกคนในแต่ละรุ่นนอกจากจะรักใคร่กลมเกลียวกันแล้ว ยังมีความรักให้กับรุ่นใกล้ๆ กันอีกด้วย หรือรุ่นอื่นๆ ถึงแม้ไม่รู้จักกันมาก่อน พอบอกว่าเซนต์โยฯ ใจก็ให้ไปเกินครึ่งแล้วค่ะ วันนี้เมื่อมีโอกาสได้กลับมาโรงเรียนอีกครั้งก็รู้สึกมีความสุขสุดๆ ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้วชื่นใจมากๆ เลยค่ะ”

 

“โรงเรียนแห่งนี้มีประวัติยาวนานนับร้อยปี เป็นโรงเรียนที่ให้ความรู้กับตุ๊กตั้งแต่ยังเขียน ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก ไม่ได้ ซึ่งนอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้ว ตุ๊กก็มีโรงเรียนเป็นเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งค่ะ และที่ตุ๊กเรียนจบปริญญาเอก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตั้งแต่เด็กตุ๊กเห็นความทุ่มเทของมาเซอร์และคุณครูที่จะสอน และอบรมเด็กในทุกด้านของชีวิต เลยทำให้รู้สึกว่า เราต้องขยัน ต้องตั้งใจเรียนให้ดี เรียนให้สูง เพื่อจะตอบแทนความเหนื่อยยากของท่าน นอกจากนี้โรงเรียน มาเซอร์ และคุณครูที่นี่ ยังสอนให้รู้จักการใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ มีความสามัคคี รักเพื่อน รักพี่ รักน้อง รวมถึงด้วยความที่ทั้งโรงเรียนมีแต่เด็กผู้หญิง ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องจึงค่อนข้างสนิทกัน เดินไปไหนก็คุยกันได้หมด และถึงแม้บางคนอาจจะไม่เคยคุย แต่แค่รู้ว่าเป็นเด็กเซนต์โยฯ ก็จะต่อติดโดยอัตโนมัติ”

“ปกติเวลาโรงเรียนมีงาน ตุ๊กต้องไปร่วมด้วยทุกครั้ง เพราะไปทีไรก็รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมือนได้กลับไปบ้านที่เรารัก ที่เราอยู่มาตั้งแต่เด็ก ยิ่งมาปีนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นปีที่เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ และพิเศษมากๆ เพราะเป็นงานครบรอบ 111 ปี การก่อตั้งโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการรวมตัวของศิษย์เก่าทุกรุ่น รวม 70 กว่ารุ่น กว่า 6,000 คน เพื่อรวมพลังแห่งความรักความผูกพันที่มีต่อกันอย่างเหนียวแน่นแล้ว ยังได้ถ่ายภาพร่วมกันบนสแตนด์ในหอประชุมทรินิตี้ และที่สำคัญจะได้ร่วมถ่ายภาพกับคณะมาเซอร์ และครูที่เกษียณแล้วกว่า 100 ท่าน ซึ่งนับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโรงเรียน เพื่อให้ศิษย์ได้รำลึกถึงพระคุณของมาเซอร์และคุณครู จึงไม่ใช่โอกาสง่ายๆ ที่จะเกิดเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะทุกคนร่วมแรงร่วมใจและมีความรักความผูกพันต่อโรงเรียนอย่างเหนียวแน่นเช่นนี้ค่ะ”

“จำได้ว่าตอนที่แอนนาเข้ามาเรียนเซนต์โยฯ พูดภาษาไทยไม่ได้เลยค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกค่ะ เลยต้องไปอยู่อนุบาล 3 ซึ่งจริงๆ แล้วต้องอยู่ ป.1 ค่ะ และต่อมาพอเริ่มพูดไทยได้ คุณครูจะจับให้กลับไปอยู่ชั้น ป.2 เราก็ไม่ยอมกลับไปค่ะ เพราะเริ่มติดเพื่อนแล้วค่ะ สมัยเด็กๆ ค่อนข้างจะเรียบร้อย ใครจะเชื่อว่าเรียนรำไทย ได้รับรางวัลมารยาทงาม และสมัยนั้นกลุ่มเราชอบทำกิจกรรมค่ะ ก็เลยทำให้สนิทกับพี่หนก (ดร. กนกวรรณ ว่องวัฒนะสิน) และพี่ตุ้ม (คุณเมตตา ตันติสัจจธรรม) มีอะไรก็ช่วยเหลืองานกันมาตลอดค่ะ แล้วสำหรับเพื่อนๆ เซนต์โยฯ เป็นความผูกพันที่จริงใจ ไม่มีอะไรซับซ้อนค่ะ เจอกันทีไรก็พูดคุย กันอย่างสบายใจ ยิ้มกัน หัวเราะกัน และพอได้มาเจอรุ่นพี่ๆ เขาก็ยังเอ็นดูเราเหมือนเดิม โดยเฉพาะงาน ‘ร้อยสิบเอ็ดปี เอสเจซี’ ในครั้งนี้ ทำให้เห็นเลยว่าพลังของนักเรียนเซนต์โยฯ ทุกรุ่นนี้เหนียวแน่น สุดยอดมากค่ะ ใครจะไปคิดนะคะว่าทางสมาคมฯ มีเวลาทำงานไม่ถึง 3 เดือนเต็ม แต่สามารถรวมพลังศิษย์เก่ากว่า 70 รุ่น มาถ่ายรูปกว่า 6,000 คน และยังรวบรวมคณะคุณครูเกษียณ คณะมาเซอร์ & มาแมร์ อีกเป็นร้อยร้อยคนมาร่วมงานนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะคะ ต้องบอกเลยว่านายก & ทีมสุดยอดมากๆ ค่ะ แล้วเราได้มีส่วนร่วมในการจัดงานนี้ ได้มาร่วมถ่ายรูปประวัติศาสตร์ ครั้งนี้... รู้สึกภูมิใจที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเซนต์โยฯ ค่ะ”

“โรงเรียนจะปลูกฝังเรื่องความขยัน อดทน มีระเบียบและมีวินัยมากๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่มเพาะทำให้หญิงเติบโตและประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ รวมทั้งทำให้เรามีความสุขและความทรงจำที่ดีมากมาย สำหรับหญิงโรงเรียนเป็นเหมือนบ้านที่กลับไปเมื่อไหร่ก็จะรู้สึกอบอุ่นใจ รู้สึกถึงความรักและความผูกพันที่ทุกๆ คนมีให้แก่กัน เพื่อนเซนต์โยไม่เคยลืมกัน เรายังคงช่วยเหลือเกื้อกลูกันจนถึงทุกวันนี้ และสำหรับงานครบรอบ 111 ปี การก่อตั้งโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ หญิงรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจมากค่ะ ที่ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการศิษย์เก่า ได้ช่วยเหลืองานของโรงเรียน ซึ่งถือเป็นงานครั้งประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นการรวมตัวศิษย์เก่ากว่า 70 รุ่น กว่า 6,000 คน และถือเป็นโอกาสพิเศษที่ทำให้ทุกคนได้มาเจอกัน มาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อนๆ หลายคนร่วมกันออกร้าน ระทมทุนเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือสังคม รวมถึงระทมทุนเข้ากองทุนให้กับคุณครู เป็นวันที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความอบอุ่น และความรักที่ทุกคนมีให้แก่กันอย่างแท้จริง”    

“อ๋อเป็นเด็กกิจกรรมค่ะ กิจกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องอยู่ในห้องเรียน ชอบหมดค่ะ คุณครูที่โรงเรียนจะรู้เลยว่า ถ้ามีกิจกรรมต้องเจ้าอ๋อ (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเป็น จัดพานไหว้ครู จัดบอร์ดเทศกาลต่างๆ ประกวดโน่นนี่ ไปเต้นไปร้องไปรำ อ๋อชอบหมด อย่างตอนอยู่ชั้น ม.6 เคยโดดเรียนไปเดินเล่นที่ชาญอิสสระกับเพื่อนๆ แต่ไปด้วยถุงเท้าเปล่าๆ นะคะ ทิ้งรองเท้านักเรียนไว้ที่โรงเรียนเพราะกลัวโดนคุณครูจับได้ จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นเรื่องเล่าสนุกๆ กับกลุ่มเพื่อนในรุ่น อ๋อว่าคาแรกเตอร์เด็กเซนต์โยฯ ชัดเจนนะคะ รักกัน เข้ากับคนง่าย ปรับตัวเก่ง ที่สำคัญคือรู้จักแบ่งปัน เพราะตั้งแต่เด็กๆ จะมีเก็บเงินทำบุญทุกวันศุกร์ เราจะถูกปลูกฝังเรื่องการช่วยเหลือคนอื่น และเป็นสิ่งที่อยู่กับเราจนโต ดีใจค่ะที่จะได้กลับไปโรงเรียน กลับไปที่ที่เรามีความสุข ความทรงจำมากมาย และได้เจอคุณครูผู้มีพระคุณกับเราหลังจากที่จบมาหลายสิบปีค่ะ”

“สมัยเรียนนกเป็นคนเงียบๆ เพื่อนบอกว่าเรียบร้อยค่ะ เพื่อนๆ เคยเลือกให้เป็นหัวหน้าห้องเพราะใจดีมาก ตามใจเพื่อนตลอด มีเพื่อนหลายกลุ่มเข้ากับคนง่าย แล้วนกก็ชอบช้อปปิ้งมาก ชอบแฟชั่นตั้งแต่เด็ก เคยชวนเพื่อนหนีเรียนไปเดินเล่นที่ชาญอิสระแบบไม่ใส่รองเท้านักเรียน เพราะถ้าเราหยิบรองเท้าออกจากชั้นวางคุณครูจะทราบว่ามีนักเรียนหายไป (หัวเราะ) แล้วก็เคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของรุ่นด้วยค่ะ นกภาคภูมิใจมากที่เป็นเด็กเซนต์โยฯ ได้เรียนที่ SJC ตั้งแต่อนุบาล ได้รับการอบรมสั่งสอน ปลูกฝัง Mindset ให้เป็นคนเสียสละต่อส่วนรวม ช่วยเหลือสังคม มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีน้ำใจต่อผู้อื่น เด็กเซนต์โยฯ จะเคารพ Seniority มาก เราจะรีบยกมือไหว้เมื่อเจอรุ่นพี่ ความเป็น SJC อยู่ในสายเลือดของพวกเรา ไม่ว่าเดินทางไปไหนรอบโลกก็จะเจอแต่เพื่อนพี่น้อง SJC และถึงแม้จะไม่เจอกันนาน แต่ความเป็น SJC เราจะต่อกันติดง่ายมากเพราะเราอยู่ด้วยกันมา 13 ปี เปรียบเสมือนพี่น้องกัน ซึ่ง SJC เป็นบ้านหลังที่ 2 ของพวกเรา”

“นกรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสกลับมาโรงเรียนอีกครั้ง ได้มากราบท่านอธิการ มาเซอร์ และคุณครูทุกท่านที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้พวกเรามาตั้งแต่เด็กๆ นึกถึงวัยเยาว์ที่วิ่งเล่นอยู่ในรั้วโรงเรียน ทานอาหารจานหลุมในโรงอาหาร ต้องเดินปาแตงขัดพื้นห้องทุกวัน สวดมนต์เช้า กลางวัน เย็น ความทรงจำดีๆ ตอนเด็ก กำลังใจที่คุณครูหลายท่านที่ให้เราตอนเด็ก Support เราทุกๆ ด้านไม่ใช่แค่เรื่องการเรียน ตระหนักในพระคุณของมาเซอร์ คุณครูทุกท่าน ที่ทำให้นกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงแบบทุกวันนี้ และจะสืบทอดคำสอน Mindset ที่ได้มาจาก SJC ให้กับรุ่นลูกๆ หลานๆ ของนกสืบต่อไปค่ะ”

“พลอยอยู่โรงเรียนตั้งแต่เตรียมประถมศึกษา (อนุบาล) จนจบมัธยมปลาย เป็นคาทอลิกเลยผูกพันกับโรงเรียนเป็นพิเศษ พลอยชอบร้องเพลงศาสนาและร้องในโบสถ์ของโรงเรียนประจำค่ะ สิ่งที่พลอยประทับใจมากๆ คือ วัดน้อย เวลาได้เดินทางไปต่างประเทศจะได้เห็นโบสถ์สวยๆ หลายแห่ง เห็นทีไรก็นึกถึงวัดน้อยที่โรงเรียนเสมอ พลอยเป็นเด็กหลังห้องในห้องเด็กเรียน คือ เป็นเด็กเรียนนะคะแต่แบบแก่นๆ หน่อย และชอบทำกิจกรรมทั้ง รำไทย เต้น ไปประกวดร้องเพลง และโต้วาทีข้ามโรงเรียนได้รางวัลด้วย มาคิดย้อนกลับไปยังอดขำตัวเองไม่ได้ว่าพลังเยอะมากค่ะ หนึ่งในหลายๆ สิ่งที่โรงเรียนสอนมา คือ เรื่องระเบียบวินัย ทำให้เรามีความรับผิดชอบและมีความเคารพในระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง เวลาเจอรุ่นพี่รุ่นน้อง แม้ไม่รู้จักกันเราจะมีความเคารพให้กันและกัน และผูกพันอย่างอัตโนมัติเลยค่ะ”

 

“รุ่นยุ้ยเป็นรุ่นที่หอประชุมใหญ่ทรินิตี้เพิ่งสร้างเสร็จค่ะ จำได้ว่าตื่นเต้นกันทั้งโรงเรียน เพราะเป็นหอประชุมที่ใหญ่มากและสวยมาก ใครๆ ก็อยากเข้าไป โชคดีที่ยุ้ยเป็นเด็กกิจกรรมและเรียนบัลเล่ต์ด้วย จึงได้รับเลือกให้แสดงบัลเล่ต์ในหอประชุมบ่อยๆ เป็นความภูมิใจสมัยเด็กมากเลยค่ะ ที่สำคัญเซนต์โยฯ เป็นโรงเรียนหญิงล้วน เรื่องการวางตัว ความสุภาพ และมารยาทจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ และสิ่งนี้ก็ฝังอยู่ในตัวเราตั้งแต่สมัยเด็กๆ ต้องขอบคุณโรงเรียนที่บ่มสอนเรา ทำให้ยุ้ยเป็นยุ้ยในทุกวันนี้ค่ะ”

“เกดอินเทรนด์ตั้งแต่สมัยเรียนนะคะ ที่โรงเรียนจะมีแฟชั่นหวีสับ เด็กเซนต์โยฯ สมัยเกดมีแทบทุกคน และต้องเป็น Evita ด้วย ไม่รู้ทำไมต้อง Evita เสื้อนักเรียนก็ต้องตัวใหญ่ๆ กระโปรงสั้นพับเอว ติดโบว์ใหญ่ๆ ด้วย เรียกว่าแต่งตัวผิดระเบียบตลอด จนคุณครูเชิญผู้ปกครองไปพบ แต่สมัยนั้นคือ มันเท่มากค่ะ (หัวเราะ) จนโตมาก็ได้มาทำงานสายแฟชั่น อย่างหนึ่งที่เห็นและสัมผัสได้คือ ระบบพี่น้องเซนต์โยเหนียวแน่นมาก คือด้วยอาชีพเกดมีโอกาสเจอคนเยอะมากๆ ค่ะ พอแนะนำตัว คุยกันพักนึง แล้วรู้ว่าจบเซนต์โยฯ เหมือนกัน จะเกิดความรู้สึกผูกพันเป็นพี่น้องอัตโนมัติเลยค่ะ แม้จะเรียนไม่ทันกัน ไม่เคยเจอกันที่โรงเรียนนะ เกดเชื่อว่าเป็นแบบนี้แทบทุกคนค่ะ และพอรู้ว่าจะมีการจัดงานครบรอบโรงเรียน รีบเคลียร์คิวทันทีเลยค่ะ”

“นึกถึงโรงเรียน ต้องเรื่องของกิน โรงอาหารของเรามีของกินอร่อยๆ เพียบเลยค่ะ ทั้งข้าวเหนียวจิ้มเปรี้ยว (เด็กเซนต์โยรุ่นก่อนๆ รู้จักทุกคน!) หมูปิ้ง ไข่นกกระทาทอด มาม่าร้าน 3 อร่อยแทบทุกอย่าง ขนาดจบมาแล้วยังต้องแวะเวียนกลับไปซื้อทานอยู่เรื่อยๆ ค่ะ อีกอย่างที่จำได้คือ เปิ้ลชอบอยู่บนเวที (หัวเราะ) ชอบรำไทย ชอบเต้น ชอบแสดง ที่ประทับใจคือ จะได้เต้นได้รำกับรุ่นพี่ที่สวยๆ ค่ะ ตอนเรียนแก๊งเปิ้ลจะเป็นแก๊งใหญ่ ชอบแฟชั่นตั้งแต่มัธยม อะไรฮิต พวกเราต้องมี มีกระจกและหวีไม้ของ Body Shop ชุดต้อง Pena House ที่โรงเรียนมีกฎเรื่องชุดนักเรียน ต้องตัวเล็กพอดีตัว กระโปรงยาวคลุมเข่า เปิ้ลก็ไม่ทำผิดกฎนะคะ แต่จะมีชุดนักเรียน (ที่ผิดระเบียบ) อยู่ในกระเป๋าอีกชุด เสื้อตัวใหญ่ๆ ใส่เท่ๆ หลังเลิกเรียนค่ะ นึกแล้ว ยิ้ม และหัวเราะกับเพื่อนๆ ตลอดเวลาที่พูดถึงสมัยเด็กๆ ค่ะ ได้กลับมาโรงเรียนอีกครั้ง 5-6 ตุลานี้ ดีใจค่ะ เพราะจะได้เจอคุณครู มาเซอร์ ที่เราไม่ได้เจอหลายสิบปี ได้ไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ บนเวทีของโรงเรียนอีกครั้งค่ะ”

“แป้งอยู่รุ่นโบว์ส้ม O3 เป็นเด็กกิจกรรม โรงเรียนมีงานอะไรก็ร่วมทำหมดค่ะ ทั้งเต้น เชียร์ลีดเดอร์ เป็นประธานสี เป็นหัวหน้าห้องด้วย แต่ก็แอบมีวีรกรรมแสบๆ บ้างค่ะ แป้งเป็นเด็กประจำ อยู่หอที่โรงเรียนค่ะ โรงเรียนจะมีกฎห้ามมีเพจเจอร์ และโทรศัพท์มือถือ แต่ก็เคยแอบซุกไว้ใต้หมอนมั่ง ใต้เตียงมั่งค่ะ แอบคุณครูออกไปกินขนมแถวหน้าโรงเรียนกับเพื่อนแล้วย่องกลับเข้ามา นึกๆ ไปแล้วยังขำตัวเองอยู่เลยค่ะ และด้วยความที่อยู่โรงเรียนหญิงล้วน เรื่องมารยาทสำคัญมากค่ะ เวลาอยู่โรงเรียนเดินผ่านคุณครู มาเซอร์ จะต้องก้มโค้ง คุกเข่า หรือคลานผ่านไป พอโตขึ้นมามันเลยติดตัวมาด้วยค่ะ เวลาเจอพี่ๆ หรือผู้ใหญ่จะก้มโค้งอัตโนมัติเลย เรียกว่าความนอบน้อมเป็นเอกลักษณ์ของเด็กเซนต์โยฯ แทบทุกคน ดีใจค่ะที่ได้กลับโรงเรียนไปเจอเพื่อนๆ และรุ่นพี่รุ่นน้องอีกมากมายค่ะ”

“เตยพยายามคิดว่าตัวเองเรียบร้อย... แต่ความจริงที่คุณครูและเพื่อนบอกคือ... เฮี๊ยวซ่า หลังห้องแถวสุดท้ายบ่อยครั้งที่ถูกคุณครู (ไล่) เชิญให้ยกโต๊ะเรียนออกไปนั่งเรียนที่ระเบียงนอกห้อง หวังให้เวลารุ่นพี่รุ่นน้องเดินผ่านเราจะได้อาย... แต่กลายเป็นว่าใครๆ เดินผ่านเราก็ทักทายพูดคุยไปเรื่อยค่ะ นอกจากนี้ปกติเตยจะไม่ใส่รองเท้านักเรียนลงไปโรงอาหารและชั้นล่าง ชอบใส่ถุงเท้าเดินเที่ยวเล่นไปทั่วโรงเรียนตกเย็นพื้นถุงเท้าเหนอะดำเหนียวทุกวัน... ซึ่งความประทับใจเตยเลือกออกมาพูดได้เพราะ 13 ปี ในรั้วเซนต์โยฯ แต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปีมีเรื่องราวมากมายเหลือเกิน รู้เพียงว่าชีวิตในเซนต์โยฯ คือความหมายของคำว่า ความสุขความทรงจำที่ยังวนเวียนอยู่จนถึงวันนี้ นึกถึงเมื่อไหร่จะยิ้มเองทุกครั้งค่ะ และสำหรับการที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ เตยรู้สึกความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข น้ำเงิน-เหลือง (สีประจำโรงเรียน) พลุ่งพล่าน ขาดแต่เอาชุดนักเรียนมาใส่ก็จะเหมือนกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง... มีความสุขที่เจอคุณครูและคุณครูเรียกชื่อต่อด้วยเอ่ยถึงเรื่องราวในความทรงจำของคุณครูแต่ละท่านเกี่ยวกับเราออกมา... สนุกได้กรี๊ดกร๊าดเจอะเจอเพื่อนๆ ตื่นเต้นได้เจอรุ่นพี่รุ่นน้อง (เป็นอันรู้กัน) สรุป... มีความสุขล้นที่ได้กลับมาอีกครั้งค่ะ

“ลิซ่าเกิดที่อเมริกาค่ะ ย้ายกลับมาไทยตอน 8-9 ขวบ มาเข้าเตรียมประถมที่เซนต์โยฯ ค่ะ อยู่ที่นี่พูดภาษาไทยไม่ได้ซักคำ คุณครูต้องให้พี่ ม. 6 สายศิลป์ภาษามาสอนช่วงพักทุกวัน และมีเรียนพิเศษภาษาไทยทุกวันตอนบ่าย จะได้ตามคนอื่นเขาทันค่ะ อดเล่นเลย (ยิ้ม) ตอนเป็นเด็กค่อนข้างเรียบร้อย เรียนดีแต่ชอบทำกิจกรรมมากกว่าค่ะ โดยเฉพาะรำไทย ร้องเพลง เล่นละคร จะแสดงทุกปีเลยค่ะ เคยไปแข่งร้องเพลงภาษาอังกฤษต่างโรงเรียน ได้รางวัลชนะเลิศ ไปแข่งร้องเพลงฝรั่งเศสกับเพื่อนๆ ก็ได้รางวัลค่ะ สนุกดี และก็มีช่วงเกเรพักนึงค่ะ ช่วง ม. ต้น แอบเล่นไพ่หลังห้องกับเพื่อน โดนคุณครูจับได้ เรียกผู้ปกครองมาพบ แม่ร้องไห้ใหญ่เลย กลัวโรงเรียนไล่เราออก เลยต้องโดนทำความดีแก้ตัวค่ะ แล้วลิซ่าก็มีน้องสาวและลูกพี่ลูกน้องรวม 4 คน เรียนโรงเรียนเซนต์โยฯ ทุกคนค่ะ แถมคุณแม่ก็เคยเป็นคุณครูภาคภาษาอังกฤษ หัวหน้าหมวดวิทยาศาสตร์ด้วย ทำให้เรายิ่งผูกพันกับโรงเรียนมากขึ้น โรงเรียนเป็นเหมือนบ้าน มาแมร์ มาเซอร์ คุณครู และเพื่อนๆ ทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ของเรา คอยช่วยเหลือกัน พึ่งพากัน ดูแลกัน มีความปรารถนาดีให้กันเสมอ เพื่อนๆ ดีกันบ้าง งอนบ้าง ทะเลาะกันบ้างตามประสาโรงเรียนหญิงล้วน แต่สุดท้าย เราก็รักกันค่ะ... เรียน 13 ปี มีเพื่อนร่วมรุ่นกว่า 5,000 คน ดีใจ ภูมิใจ และรู้สึกขอบคุณที่ได้เป็นศิษย์เซนต์โยฯ ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ค่ะ”

Photo By : Pae, Ton, Boom
Author By : Daruwan.C

SHARE