counters
hisoparty

Escape to Macedonia

5 years ago

ชื่อของมาเซโดเนีย (Macedonia) อาจทำให้หลายคนขมวดคิ้วซ้าย และขวาเข้าหากัน เพราะไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหนของทวีปยุโรป

ก็แน่นอนล่ะ มาเซโดเนียเป็นยุโรปที่ไม่แมสก็ว่าได้ ไม่ได้ป็อปเหมือนปารีส ไม่ได้บูมเหมือนลอนดอน ไม่ได้แรงเหมือนปราก ไม่ได้ฮอตเหมือนโรม ไม่ได้ฮิตเหมือนสวิสฯ ต้องเป็นนักเดินทางสายเอ็กซอติกเท่านั้นล่ะ ถึงจะมุ่งหน้าไปหามาเซโดเนีย

นี่คือแผ่นดินเกิดของอเล็กซานเดอร์มหาราช และแม่ชีเทเรซา นั่นอาจจะเป็นข้อมูลที่หลายคนพอจะรู้กันบ้าง

แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนคือ ความสวยงามของเมืองหลวงอย่างสก๊อปเปีย (Skopje) ที่หน้าตาจิ้มลิ้มไม่เบาเลยทีเดียว

ยิ่งรถเคลื่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองเท่าไหร่ สก๊อปเปียก็ค่อยๆ เริ่มสวยขึ้นๆ ทั้งท้องถนน อาคารบ้านเรือน สวนสาธารณะ สวยสะอาดหมดจด

สก๊อปเปียอาจไม่ได้สวยฉูดฉาด หรือสวยจนอ้าปากค้าง แต่กลับไม่ใช่เมืองขี้เหร่อย่างที่หลายคนคิดไว้ ยิ่งเมื่อยืนอยู่กลางจัตุรัสมาเซโดเนีย (Macedonia Square) แล้วชอนไชสายตาไปรอบตัว จะรู้เลยว่า ที่นี่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

ถ้าจัตุรัสมาเซโดเนียเป็นสะดือเมือง นี่คือสะดือที่สวยได้รูป ขนาดกำลังดี และมีองค์ประกอบแต่งแต้มให้ลานกว้างแห่งนี้น่าขลุกอยู่ด้วยเป็นที่สุด

กลางจัตุรัสเป็นลานน้ำพุที่มีสิงโตเป็นเหมือนบอดี้การ์ดอยู่รายรอบน้ำพุ ไฮไลท์อยู่ที่รูปปั้นของอเล็กซานเดอร์มหาราชขี่ม้าที่ตั้งอยู่อย่างเด่นตระหง่าน เกี่ยวสายตาทุกคู่ให้หยุดมอง

รายรอบจัตุรัสอาจจะมีรูปปั้นกระจายอยู่ทั่ว ซึ่งโดยมากก็เป็นรูปปั้นของพวกนักต่อสู้ นักปฏิวัติ แต่รูปปั้นของเล็กซานเดอร์มหาราชถือว่าโดดเด่นที่สุด นี่คือหนึ่งในนักรบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ทั้งเรื่องความสามารถทางการรบ และชั้นเชิงทางยุทธวิธีที่จัดว่าเยี่ยมยุทธ์ จนเป็นจอมทัพที่เผยแพร่อารยธรรมกรีกไปยังดินแดนทางตะวันออกอันไกลโพ้น

จะเรียกว่าเป็นมุมสุนทรีย์ของชาวเมืองก็ได้ เพราะมีเสียงดนตรีคลอเคลียไม่ขาดหู บางมุมเป็นจุดนัดพบของวัยรุ่นสก๊อปเปียที่มาเล่นโรลเลอร์เบลดกันอย่างเอาจริงเอาจังตรงริมแม่น้ำวาร์ดาร์

ใครที่นิยมบริโภคความสุนทรีย์ ลองหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ริมจัตุรัส นั่งนิ่งชายตามองทุกความเคลื่อนไหวอย่างนักสังเกตการณ์ แล้วจะพบว่าสก๊อปเปียมีความน่าชังอยู่หลายประการ

เมืองไหนก็ตามที่มีสองล้อปลิวว่อนไปทั่ว เมืองนั้นน่าอยู่ เมืองไหนมีเสียงเพลง จะมาจากนักดนตรีเร่หรือจากไหนก็ช่าง เมืองนั้นรื่นรมย์ สก๊อปเปียมีทุกอย่างที่ว่ามา ขาดอยู่อีกอย่างคือเมืองเก่า (Old Town) ไม่ใช่ไม่มี แต่เพียงแค่ข้ามสะพานหิน (Stone Bridge) ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ไปก็เจอแล้ว

เสียงอาซานที่เรียกให้มุสลิมปฏิบัติศาสนกิจ ผู้คนก้มลงละหมาด ตลาดที่อวลไปด้วยไมตรี นี่คือภาพที่ไม่คิดว่าจะเจอในสก๊อปเปีย

เพราะมาเซโดเนียที่หลายคนรับรู้ คือประเทศที่แยกตัวมาจากยูโกสลาเวียมาได้ราว 20 ปี ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์

เพื่อยืนยันว่า มาเซโดเนียมีผู้คนนับถือคริสต์เป็นส่วนใหญ่ ลองไปที่ศาสนสถานประจำเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่าเท่าไหร่ ที่นั่นคือมหาวิหารเซนต์ คลีเมนต์ แห่งออริด (St.Kliment of Ohrid Cathedral) เป็นมหาวิหารของนิกายออร์โธดอกซ์ ที่สร้างมาได้แค่ 40 ปี เพื่อให้เกียรติกับนักบุญ คลีเมนต์แห่งออริด ในวันครบรอบวันเกิด 1150 ปี

ที่จริงในสก๊อปเปียมีโบสถ์สำคัญๆอยู่ 2-3 แห่ง แต่ถ้าโดดเด่นและสำคัญที่สุดก็ต้องที่นี่ ด้วยรูปทรงหลังคาที่ถูกออกแบบอย่างแปลกตาก็ทำให้โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นอยู่แล้ว เพราะหลังคาสร้างทรงครึ่งวงกลมเป็นโค้งที่ออกแบบให้เข้ากับหลังคาของมหาวิหาร

ด้านนอกว่าแจ่มแล้ว ด้านในก็น่าตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะตกแต่งด้วยภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ที่พูดได้คำเดียวว่าวิจิตรและเข้มขลัง

การเดินทางสู่สก๊อปเปียคงสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ไปถึงบ้านของแม่ชีเทเรซ่า ตามลายแทงบอกให้ยึดถนนมาเซโดเนียเป็นที่ตั้ง ถนนสายนั้นมีคาเฟ่ตั้งเป็นแนวยาว แต่แทบไม่ต้องเสียเวลาหา เพราะรูปปั้นของแม่ชีรอทุกคนอยู่หน้าบ้าน

ชาวมาเซโดเนียภูมิใจมากที่แม่ชีเกิดที่นี่ แต่ตำแหน่งบ้านที่เธอเกิดในปัจจุบันไม่ได้เป็นบ้านแล้ว ตัวแม่ชีเองก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนถึง 18 ปีก็ออกเดินทางไปยังไอร์แลนด์และอินเดีย ใช้ชีวิตจนวาระสุดท้ายที่เมืองกัลกัตตา

ใครที่ชอบตามหารสชาติความแปลกใหม่ของการเดินทาง เมืองสก๊อปเปียแห่งมาเซโดเนียน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลิ้มลอง เพราะนี่คือหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่น่าทำความรู้จักอย่างยิ่ง

Story & Photo by กาญจนา หงษ์ทอง

SHARE