เพราะไม่เคยนึกรังเกียจแสงแดด มีใจให้คลื่นลม และนิยมเกาะประเภทสุดเอ็กซอติก ก็ไม่น่าแปลกถ้าฉันจะดิ้นรนไปหามอริเชียส (Mauritius) ประเทศที่ว่ากันว่าเป็น เพชรเม็ดงามกลางมหาสมุทรอินเดีย
แต่จะว่าไปก็ไม่ง่ายนักหรอก เพียรพยายามอยู่หลายปีเต็มที กว่าจะได้พาสองเท้าไปจุ่มน้ำทะเลที่เกาะมอริเชียสก็เกือบจะถอดใจ
ความจริงก่อนมาถึง ฉันได้ยินเสียงร่ำลือถึงความโรแมนติกของ มอริเชียส มานานเต็มที ว่าเป็นมุมที่หลายคู่นิยมใช้เป็นที่ฮันนีมูน ที่นี่จึงถูกโหวตจากหลายสำนักให้เป็นหนึ่งในมุมโรแมนติกของโลก คู่ไหนที่น้ำต้มผักเริ่มไม่หวานเขาแนะให้จูงมือคนรักมาที่นี่
ชายหนุ่มผิวสีกาแฟหอบอาคันตุกะจากขวานทองออกจากสนามบินที่อยู่ด้านใต้ของเกาะ มุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะมอริเชียส ผลจากการสนทนากับเขา ทำให้รู้ว่าคนบนเกาะนี้ พูดกัน 3 ภาษา อังกฤษ ฝรั่งเศส และครีโอล แล้วแต่ว่าจะพูดกับใคร ที่ไหน ดินฟ้าอากาศของเกาะใต้เส้นศูนย์สูตรดูไม่ปกติเอาซะเลย เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน สลับกันไปมาทุกสิบนาทีกระทั่งมาถึงเรือนพักในช่วงบ่ายนั่นแหละ แดดถึงสะบัดเปลวร้อนลงห่มทั้งเกาะ
ช่างเป็นเกาะที่อุดมไปด้วยแสงแดดอันเผ็ดร้อน และมีความสุนทรีย์ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ที่นี่ไม่มีใครทำท่าอารมณ์เสียหรือเพลียใส่โลก บนเกาะที่เป็นหมุดหมายของคู่รักและนักผจญภัยแบบนี้ ต่อให้แดดจัดจ้านแค่ไหน ผู้คนก็ออกไปเริงร่าท้ายูวีกันอย่างสนุกสนานกลางผืนน้ำ หรือไม่ก็นอนเกลือกกลิ้งปิ้งตัวบนชายหาดกันอย่างเบิกบาน
จากแกรนด์ เบย์ ฉันมุ่งหน้าไปหาพอร์ต หลุยส์ (Port Louis) เมืองหลวงที่อยู่กันแบบหลวมๆ โปร่งๆ ลืมภาพของเมืองหลวงประเภทที่แออัดไปด้วยตึกสูงระฟ้าไปซะเถอะ เพราะพอร์ต หลุยส์ ไม่ใช่แนวนั้น ที่นี่คือเมืองหลวงริมทะเลแห่งนี้น่าเที่ยวไม่เบา มุมที่เป็นท่าน้ำกลางเมือง มีผู้คนมาเดินเตร็ดเตร่กันทั้งวัน ยิ่งเป็นช่วงเย็นย่ำชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจะพากันมาเดินเล่นรับลมทะเล นักเดินทางบางคนหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ริมทางนั่งผึ่งแดดอย่างมีความสุข ส่วนชาวมอริเชียสเองก็ออกมาเดินโต๋เต๋กันอย่างคุ้นเคยกับแสงแดด
ที่จริงทั่วทั้งเกาะมอริเชียสมีชายหาดให้นอนผึ่งแดดมากมาย แต่ชายหาดที่จัดว่าเป็นมุมยอดฮิตของประจำเกาะคือแกรนด์ เบย์ (Grand Bay) ที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ นอกจากเวิ้งอ่าวอันสวยงาม ยังมีโรงแรมสุดหรูที่ตั้งเรียงรายริมทะเลไปตลอดแนว สำหรับนักช้อป มุมนี้เป็นสวรรค์ของพวกเขา แต่ถนนเลียบชายหาดในช่วงกลางวันอาจจะเงียบไปบ้าง เพราะส่วนใหญ่ผู้คนไปนอนผึ่งแดดบนชายหาดของแกรนด์ เบย์ พวกเขานอนเอกเขนกบนชายหาดอย่างโหยหิวแสงแดด แต่พอตกกลางคืนพวกเขาพากันแปลงร่างเป็นนักท่องราตรี ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นฉ่ำฟังเพลงคูลๆ กันอย่างมีความสุข
นอกจากแกรนด์ เบย์แล้ว อีกหาดหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่างดงามไม่แพ้กัน ที่นั่นคือบลู เบย์ (Blue Bay) ที่อยู่ด้านใต้ของเกาะบลูเบย์ ค่อนข้างเงียบสงบ ใครอยากปลีกวิเวกหรือหลีกหนีจากความอึกทึกของ แกรนด์ เบย์ มาบลู เบย์ รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับวันพักผ่อนอย่างแสนสงบอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากเป็นที่ทางของความสงบแล้ว มาละแวกนี้นักเดินทางมักจะหาโอกาสลงไปดำดิ่ง ในโลกใต้น้ำกันไม่ว่าจะแค่สนอร์กเกลลิ่ง หรือสคูบาไดวิ่ง ก็ประทับใจกับสวนสวรรค์ใต้น้ำอย่างแน่นอน
ช่วงที่เดินทอดน่องท่องเมืองหลวงอยู่ ฉันเพิ่งสังเกตว่าที่นี่มีทั้งโบสถ์ สุเหร่า และวัดฮินดู เพราะที่นี่คือศูนย์รวมความหลากหลายของผู้คน และแน่นอนว่า ถ้าอยากดูความหลากหลายแล้วล่ะก็ มุมเดียวที่จะเผยให้เห็นภาพนั้นอย่างคมชัด คงต้องไปตลาดประจำเมือง ฉันจึงมุ่งหน้าไปที่ตลาดประจำเมืองที่มีอายุเกือบ 200 ปี ที่นี่มีทั้งมุมขายผักปลา เสื้อผ้า เครื่องเทศไปยันของที่ระลึก
สีสันและชีวิตชีวา คือสิ่งที่ไม่เคยขาดแคลนไปจากตลาดแห่งนี้ ลองมาเดินทอดน่องดูเถอะ แล้วจะพบว่ามันช่างน่าสนุก และเพลิดเพลินกว่ามุมไหนๆ ของ มอริเซียส ระหว่างนั่งรถกลับเรือนพัก ฉันเพิ่งสังเกตุว่าถนนที่นี่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างแคบๆ แต่สิ่งที่สัมผัสได้ทันทีคืออากาศดีมาก เพราะความที่เป็นเกาะสีเขียว อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ มีเทือกเขาโอบล้อมเมืองอยู่รอบทิศทาง อยู่ที่นี่จึงเหมือนถูกธรรมชาติกอดกระหวัดรัดเกี่ยวอยู่ตลอดเวลา
ที่จริงมอริเชียสยังมีอีกหลายโหมด เป็นต้นว่า ใครอยากผจญภัยก็มีให้เลือกทำกันไม่หวาดไม่ไหว นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว ยังมีอุทยานแห่งชาติ ให้เข้าไปชมธรรมชาติ มีเส้นทางเดินเท้า ปีนเขา และน้ำตกสวยๆ ให้ดื่มด่ำธรรมชาติกันอย่างจุใจ ทั้งหมดนี้รอคุณอยู่ที่เกาะมอริเซียส Romance Island ที่เหมาะจะไปเติมโรแมนซ์ไดออกไซด์ให้ชีวิตรัก เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่ชายหาด ริ้วน้ำ แผ่นฟ้า และทิวเขา เพราะแบบนี้ ความโรแมนติก เลยปักหลักอยู่ที่นี่ ไม่ยอมพรากจากมอริเชียสไปไหน แม้แต่วันเดียว หลายวันบนเกาะมอริเชียส ฉันดื่มกินแสงแดดและความรื่นรมย์อย่างสบายอารมณ์ นึกกระหยิ่มในใจที่ไม่เคยอ่อนข้อให้อุปสรรค ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ได้เห็นเกาะสวยอีกแห่งหนึ่งของโลกอย่างมอริเชียส
• สายการบินเอมิเรตส์ มีเที่ยวบินจากกรุงเทพไปเกาะมอริเชียส แต่ต้องแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบก่อน ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นบินต่อไปเกาะมอริเชียส ใช้เวลาอีกประมาณ 6 ชั่วโมง โทรสอบถามรายละเอียดเที่ยวบินได้ที่ 0-2664-1040-5 หรือคลิกไปสำรวจได้ที่เว็บไซต์ www.emirates.com
• ที่พักส่วนใหญ่อยู่แถวแกรนด์ เบย์ และพอร์ต หลุยส์ แต่ทั่วทั้งเกาะมอริเชียส มีที่พักให้เลือกเยอะมาก คลิกไปสำรวจได้ที่เว็บไซต์ เอ็กซ์พีเดีย (www.expedia.co.th )
• เกาะมอริเชียสเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอด ทั้งปี ภูมิอากาศเป็นแบบร้อนชื้น ฤดูร้อนระหว่าง เดือนพฤศจิกายน -พฤษภาคม ฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน เช็คสภาพก่อนเดินทางได้ที่ www.wunderground.com
• มอริเชียสใช้เงินสกุลรูปี 1 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 35 มอริเชียน รูปี
• บนเกาะมีแท็กซี่ให้บริการ แต่ราคาค่อนข้างแพง หากต้องการท่องเที่ยวบนเกาะตามจุดต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติ อาจจะต้องซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทัวร์จะราคาถูกกว่า
Story and Photo by กาญจนา หงษ์ทอง