counters
hisoparty

ทำความรู้จัก 'เป๊ก – เศรณี ชาญวีรกูล' ทายาทรุ่นทื่ 3 ซิโน - ไทย หวานใจ 'น้องเพลง'

6 years ago

หลายคนอาจมองภาพลักษณ์ของ คุณเป๊ก – เศรณี ชาญวีรกูล กับการเป็นเพียงทายาทบริษัทรับเหมารายใหญ่ของประเทศไทยอย่าง ซิโน – ไทย เอ็นจิเนียริ่ง หรือในฐานะลูกชายคนเดียวของ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ทว่าหากได้เข้ามาสัมผัสวิธีคิดและตัวตนของเขาแล้ว คุณจะเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้มีดีอะไร ชวนติดตามได้ใน Living My Style ครั้งนี้เลยค่ะ

“ตอนนี้เป๊กเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ อินเตอร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ครับ เพิ่งจบหมาดๆ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตอนนี้รอรับปริญญาช่วงเดือนตุลาคม แต่ระหว่างนั้นกลางเดือนกันยายน เป๊กก็ต้องไปเริ่มเรียนปริญญาโททางด้านบริหารที่ Queen Mary University of London ครับ”

“ตอนแรกเป๊กอยากเรียนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะที่บ้านทำก่อสร้าง เราคิดว่าเราอยากทำอะไรที่มันแปลกใหม่ แต่คิดไปคิดมาเรียนอะไรที่กว้างๆ ดีกว่า ไม่ได้จำกัดแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เลยตัดสินใจเลือกเรียนบริหารเพราะสุดท้ายการที่เรามีองค์กร การบริหารสำคัญที่สุด ทั้งการบริหารพนักงาน หรือ Source ที่เรามี อันนี้สำคัญกว่า ก็เลยหันไปทางด้านบริหาร ครับ”

Style

“เป๊กเป็นคนพิถีพิถันเรื่องการใส่สูท อย่างกางเกงเอวสูงไม่มีใครใส่เลย ต้องมีเบลท์ เป๊กจะไม่ใส่กางเกงเอวสูงแล้วมีเข็มขัด เพราะเป็นคนขาสั้นต้องใส่เอวสูงครับ”

Lifestyle

“เป๊กชอบออกกำลังกายครับ ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ออกกำลังกายเป็นลำดับต้นๆ ที่ต้อง fill in ให้ได้ ไม่ว่าวันนั้นเป๊กจะยุ่งแค่ไหน อย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน เราต้องเข้ายิม เล่นกีฬา อะไรซักอย่างก็ได้ให้เหงื่อเราออก เป๊กเล่นประมาณ 3-4 วันต่ออาทิตย์ พักประมาณ 3 วัน การออกกำลังกายเหมือนเป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว วันไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกายจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่สบายตัว เหงื่อไม่ออก รู้สึกกล้ามฟีบ แต่จริงๆ ไม่ใช่นะ คนที่เล่นฟิตเนสเยอะๆ จะรู้สึกไปเอง มันเป็นเหมือนจิตวิทยาในตัว รู้สึกเหมือนตัวเล็กลง แต่จริงๆ แล้วถ่ายรูปมาเท่าเดิม มันรู้สึกไปเอง แต่ถ้าวันไหนได้ออกกำลังกายอารมณ์ดีทั้งวัน เคยไม่ออกกำลังกาย 2 อาทิตย์ ตอนไปเที่ยวยุโรป รู้สึกไม่สบายตัว กลับมาพอลงจากเครื่องก็ตรงไปเข้าฟิตเนสก่อนเลย ปรากฏว่าหายเลยรู้ว่ามาจากอะไร สุดท้ายมันไม่ได้ดีต่อใครมันดีต่อตัวเอง เวลาเราเห็นตัวเองมีรูปร่างที่ดี ใส่เสื้อออกมาสวย ใส่สูทออกมาสวย สุดท้ายคือ ตัวเราเองที่มีความสุข นั่นแหละคือความสุขของชีวิต เล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ในทุกๆ วันต้องหาความสุขให้กับตัวเองครับ”

Work

“ช่วงนี้เป๊กจะไปตามไซต์งานต่างๆ ไปศึกษางาน ค่อยๆ ไปทีละนิด คือ เป๊กไม่ใช่พวกที่ชอบนั่งอยู่ในออฟฟิศ เป๊กว่าไม่ได้อะไร ไม่ได้เห็นของจริง ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้ถามผู้รู้ที่เขาอยู่ตรงไซต์งาน เสียเวลาชีวิต ทุกวันนี้เรามีเวลา 2 เดือนก่อนมหาวิทยาลัยเปิด เป๊กก็ทำตรงนี้ให้เต็มที่ พอกลับมาเราไม่มีอะไรที่ต้องปรับตัว เพราะเราได้เรียนรู้ระบบงานไปพอสมควรว่ามีอะไร เพราะในบริษัทมีหลายฝ่าย ไม่ใช่แค่ก่อสร้าง ถึงก่อสร้างก็มีหลายแบบ ทั้งอาคาร โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้า สะพาน มอเตอร์เวย์ เพราะฉะนั้นมีอะไรให้ศึกษาเยอะมากๆ

“ทุกวันนี้เวลายังมีเหลือไม่พอเลย ทุกวันนี้เป๊กจะบอกคนที่บริษัทว่าอย่างน้อยต้องให้เป๊กออกไปดูไซต์งานอย่างน้อย 1 ไซต์ต่ออาทิตย์ เขาก็จะจัดให้ ก็จะมีไซต์โน้นไซต์นี้เตรียมต้อนรับ แล้วก็จะให้ไปเดินดูงาน ศึกษางาน สุดท้ายก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเวลาพ่อถามอะไร เป๊กตอบได้หมด โพรเกรสกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ทำไมถึงช้า อะไรยังไม่เสร็จ งานนี้จะส่งมอบเมื่อไหร่ อันนี้อยู่ในหัวเราหมดแล้ว ถ้าเราอยู่ในออฟฟิศเราไม่รู้หรอก แต่ถ้าเราออกไปสถานที่จริง เราบอกได้ว่าปัญหาคืออะไร 2 เดือนที่จบมาก็ลุยตรงนี้เต็มที่เลยครับ”

Sport

“ที่เล่นหนักๆ เลย มี 3 อย่าง ฟุตบอล เทนนิส เล่นประจำ สำหรับขี่ม้าเป็นกีฬาที่เล่นมาตั้งแต่เด็ก เป๊กจะไปขี่ม้าที่สนามกอล์ฟที่เขาใหญ่ ขี่ม้าเป็นกีฬาที่อยู่กับธรรมชาติ มันจะแยกไปจากฟุตบอลกับเทนนิส เพราะทั้งสองอย่างนี้เล่นในเมืองก็ได้ ขี่ม้าต้องอยู่กับธรรมชาติเป็นวิธีรีแลกซ์ การเล่นกีฬาของเป๊ก คือ ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด เวลาเหงื่อออกเราจะไม่คิดถึงเรื่องที่เครียดเลย ทุกอย่างหายไปหมด เป๊กว่าคนที่เล่นกีฬาแล้วอายุยืนขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะร่างกายเราแข็งแรงขึ้น แต่เป็นเพราะสมองเราไม่เครียด ความเครียดมันลดน้อยลง นี่คือสิ่งที่เป๊กเชื่อนะ สุขภาพกายดี แล้วสุขภาพจิตต้องดี สุขภาพจิตดีเมื่อไหร่มันจะดีทั้งตัว ส่วนฟุตบอล กับเทนนิส อย่างน้อยๆ อาทิตย์ละวัน ก็คือวันที่เราไม่ได้ไปฟิตเนส แต่จะไปเล่นกีฬา 2-3 อย่างนี้ครับ”

“Sleeping Mask ของ Laneige เป็นมาส์กที่ใช้มานานพอสมควร เป๊กชอบมาส์กที่ไม่ต้องโปะหน้า ไม่ใช่มาส์กแบบชีท แค่ทาแล้วก็นอน อันนี้เป็นวอเตอร์เบส จะซึมเข้าหน้าได้เร็ว แค่ทาตื่นมาแล้วล้างออกด้วยน้ำ หน้าก็นิ่ม ชุ่มชื้น ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่น ที่สำคัญไม่เหนอะหนะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ชาย แล้วก็มีกลิ่นหอม ผมใช้ทาก่อนนอนทุกคืน อย่างช่วงอาทิตย์ไหนใช้หน้าหนักมาก ก็จะทาทุกวัน แต่ถ้าช่วงไหนหน้าไม่ได้เหนื่อยล้าก็ใช้แค่ 3 วันครับ ผมไม่กล้าบอกว่ามันดีหรือเปล่า แต่สำหรับผมมันเหมาะสมกับหน้าครับ ส่วน Moisture Essence ทาทุกวัน เช้า-เย็น เพิ่มความชุ่มชื้นให้หน้า เป๊กเป็นคนผิวแห้ง แต่อันนี้จะอยู่ระหว่างคนผิวมันกับผิวแห้ง ใช้ได้ทั้งคู่ มันเป็นวอเตอร์แบงค์ เป็นเบส เป็นน้ำ เหมือนกันคือไม่เหนอะหนะ ทาปุ๊บ ซึม แล้วอยู่ทั้งวัน มั่นใจได้เลยว่าหน้าไม่ลอก ใช้ทุกวันเห็นผล หน้าเราใสขึ้น เพราะผมเป็นคนชอบอาบน้ำร้อนผิวก็จะแห้ง บางวันนอนน้อยผิวก็แห้ง หรือวันไหนที่ดื่มน้ำน้อยผิวก็จะแห้ง ก็จะทาอันนี้มันก็ช่วยได้เยอะ”

“เป็นคล้ายๆ ออยล์เบส มันเหนอะหน่อยแต่ทำให้หน้าชุ่มชื้น ทาเป็นเบสก่อนจะทามอยซ์เจอร์ ผสมกันเลย คือเหยาะประมาณ 3 หยดบนมือ แล้วก็โปะหน้า ถ้าเยอะไปจะรู้สึกมันหน้า ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ก็ประมาณ 3 หยดเล็กๆ บนมือ ใช้มาประมาณ 4-5 เดือนแล้วครับ กระปุกแค่นี้ก็ยังอยู่ แต่ว่าใช้เช้าเย็นเหมือนกัน”

“Bleu de CHANEL เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างจะฮิตในหมู่ผู้ชาย เป๊กพยายามจะหากลิ่นน้ำหอมที่มันบ่งบอกถึงตัวเอง เป็นกลิ่นที่เจ้าเล่ห์ มีเสน่ห์ดึงดูด แล้วก็สปอร์ต 3 อย่างรวมกันอยู่ในขวดเดียว ใช้แล้วมันคือเราเลย เป๊กใช้มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว ตั้งแต่มัธยมตอนเป็นนักเรียนที่อังกฤษ ใช้กลิ่นนี้มาตลอด ไม่เคยเปลี่ยน จนกลายเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของเรา สมมติว่าเราเดินไปไหนคนได้กลิ่นก็จะรู้เลยว่าเป็นเรา ไม่เคยเปลี่ยนน้ำหอม ไม่เคยเปลี่ยนเลย เริ่มแรกคุณแม่ซื้อให้ คุณแม่บอกว่าได้กลิ่นแล้วนึกถึง แปลกที่น้ำหอมเป็นแค่กลิ่น ได้กลิ่นแล้วเห็นถึงคาแร็คเตอร์ว่าคือเราเลย เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ มันเบลนกับสภาพกลิ่นตัวของเป๊กได้ดีครับ”

“เพิ่งเริ่มใช้ อันนี้เขาเรียกว่าเป็น POMADE ซึ่งทรงผมเป๊ก ทรงนี้รับกับใบหน้ามากที่สุดแล้ว เคยลองตัดมาทุกแบบทั้งสั้น ยาว สกินเฮด ช่วงเป็นเด็กลองมาแล้วทุกอย่างเลย สุดท้ายแล้วก็มาจบที่ทรงนี้ ทำทรงนี้มาประมาณ 7-8 ปี เค้าเรียกกึ่งสลิคแบค ซึ่ง POMADE ตอบโจทย์ผมทรงนี้ได้ดีมาก มันจะให้ความเงา แต่ไม่แข็ง อันนี้เป็นกึ่งเวทลุคแต่หัวไม่เปียก ยังมีความเงาที่ไม่เงามาก ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ทั้งวัน เป๊กเคยลองใช้จัดทรงตั้งแต่ 7 โมงเช้าอยู่ได้ถึงเที่ยงคืน แล้วก็ไม่ต้องมาคอยพะวงว่าผมเราจะชี้ อันนี้ยิ่งเจออากาศยิ่งอยู่ทรง แต่ก็อยู่ที่การเซ็ท และทรงผมของเราด้วย ต้องลองผิดลองถูกถึงจะรู้ว่าอะไรเหมาะกับเรา พอเราเจอแล้วจะไม่เปลี่ยนครับ”

“เป็นนาฬิกาเรือนที่ชอบ รุ่น Royal Oak ที่มีโครโนกราฟ คือตัวจับเวลา สามารถใส่ได้ทุกงาน กลางคืนก็พอได้ ระหว่างวันก็ได้พอดีเลย เป็นแนวสปอร์ต ใส่ไปเที่ยวทะเล ภูเขาได้หมด เป๊กเป็นคนออกแนวลุยๆ แล้วก็สปอร์ตๆ ครับ นาฬิกาเรือนนี้ตอบโจทย์ แล้วก็เรฟ พรีเซนต์ความเป็นตัวเป๊กมากๆ เลย ที่จริง Audemars Piguet เป๊กซื้อรุ่นที่มีจับเวลา เพราะมันจะเพิ่มความสปอร์ตให้นาฬิกา พอมีหน้าปัดจับเวลาเพิ่มขึ้นมันก็จะดูสปอร์ตทันที สำหรับเป๊กนาฬิกาเป็นเหมือนเครื่องประดับ ที่ผู้ชายทุกคนต้องใส่ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกว่าข้อมือเราว่าง ทุกวันนี้ถ้าไม่ใส่นาฬิกาเราจะไม่มั่นใจ เพราะข้อมือเราจะเบาหวิวๆ แล้วการที่เลือกนาฬิกาได้เหมาะกับตัวเอง มันเป็นการบอกเทสของตัวเองด้วย ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด หรือหรูที่สุด แค่เลือกนาฬิกาที่เหมาะกับคนใส่ที่สุด ก็พอละ บางทีการเลือกนาฬิการาคาสูงการันตีแค่ยี่ห้อ แต่ไม่ได้การันตีว่าจะเหมาะกับเรา ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ครับ”

“Turnbull & Asser เป็นแบรนด์เก่าแก่ของอังกฤษ ที่ราชวงศ์อังกฤษใส่ นักแสดงอย่าง ฌอน คอนเนอรี่ ผู้รับบทเจม บอนด์ คนแรกก็ใส่ บ่งบอกความคลาสสิกของแบรนด์ ตอนนี้เป๊กมี Pocket Square ประมาณ 20-30 ผืน เวลาเป๊กซื้ออะไรจะต้องมีกิมมิค หรือประวัติมีที่มาที่ไป ซึ่ง Pocket Square ทุกวันนี้ผู้ชายไทยอาจจะยังไม่ค่อยเข้าถึงในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่ามันเป็นกฎมั้ย มันไม่ใช่กฎเหล็กในการใส่สูท แต่การใส่ Pocket Square ทำให้การใส่สูทของคุณดูเต็มขึ้น จากสูทที่ดูไม่มีอะไร ไม่ต้องใส่เนคไทก็ได้ พอใส่ Pocket Square ทำให้ดูสมบูรณ์แบบ แล้วก็ดูเป็นทางการมากขึ้นด้วย นอกจากนั้นยังเป็นลูกเล่นอีกแบบนึง ที่สามาถจะเล่นสีกับสูทได้ สมมติสูทโทนเข้มเราสามารถจะเบรกได้ด้วยการใส่ Pocket Square สีอ่อน เหมือนกันถ้าสูทสีอ่อนก็ใส่ Pocket Square สีเข้ม มันทำให้มู้ดการแต่งตัวเปลี่ยนไป บางทีใส่สูทเหมือนกันทุกวัน ตัวเดียวกันเลย แค่เปลี่ยน Pocket Square กับเนคไทก็กลายเป็นลุคใหม่แล้ว การใส่ Pocket Square จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับเป๊ก ทุกวันนี้ใส่สูท แจ็คเก็ต แต่ไม่มี Pocket Square เป๊กไม่มั่นใจ รู้สึกมันขาดอะไรไปสักอย่างครับ”

TIPS

“บางคนเข้าใจว่า Pocket Square มีไว้เช็ดปาก ไม่ใช่ มันเป็นเครื่องประดับ การแมทช์สีก็ทำได้หมด ทำให้การแต่งตัวสนุกมากขึ้นอีกเยอะเลย เพราะ Pocket Square ไม่ได้พับวิธีเดียว มันเป็นอาร์ตในตัว พันยังไงก็ได้ ต่างคนต่างสไตล์ของตัวเอง ต่อให้พับวิธีเดียวกันแต่ความบางของผ้า หรือเท็กซ์เจอร์ของผ้าก็ทำให้ Pocket Square ต่างกันออกไป มันเล่นได้หลายอย่างมากๆ”

Photo By : Prayuth
Author By : Lady K.

SHARE