ด้วยในปีนี้ HISOPARTY เล็งเห็นถึงพลังของสุภาพสตรี และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่องและส่งเสริมผู้หญิงทุกคน เราจึงได้จัดทำคอลัมน์พิเศษ พร้อมบทสัมภาษณ์คุณแม่สุดแกร่ง ที่ทั้งทำงานเก่ง และจัดสรรเวลาได้ดีในการดูแลลูก ซึ่งคุณแม่ทุกคน ยังได้ควงลูกชาย ทั้งหล่อเล็ก หล่อใหญ่ มาถ่ายทอดความอบอุ่นและสนุกสนานกันถึง 4 ครอบครัว
RIKA DILA, SETHANANT RAPHAEL TEJAVIBULYA
คุณริก้า ดีล่า
“ย้อนไปสมัยตอนลูกยังเป็นเด็ก พูดได้เลยว่าเราเป็นแม่ที่ติดลูกมาก ไม่ว่าไปไหนจะหอบลูกไปด้วยแทบทุกที่ บางคนมองสิ่งที่เราทำว่าคือการเห็นแก่ตัว แต่จริงๆ เราว่ามันอบอุ่น จากนั้นพอลูกเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มรู้เรื่อง เขาเห็นแม่ทำงาน ทำให้เขามีความรู้สึกเห็นใจ เริ่มรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มาจากสิ่งที่แม่ทำให้ ช่วงที่ผ่านมาตอนเรามีปัญหาไม่รู้จะคุยกับใคร เราโทรหาลูก เล่าโน่นนี่ให้เขาฟัง และเขาพูดในสิ่งที่เราคิดไม่ถึง คือเขาบอกว่าแม่ไม่ต้องเครียดแล้ว พอแล้ว เดี๋ยวลีโอมาเลี้ยงแม่เอง อันนี้คือตัวอย่างหนึ่งที่เราฟังแล้วประทับใจ คือที่ผ่านมาเราเป็นแม่ที่ทำเพื่อลูก สามารถทำให้เขาได้ทุกอย่าง ใครอาจจะมองว่าเราเป็นแม่ที่สปอยล์ลูก แต่ความสปอยล์นั้นเขาได้เห็นคุณค่าที่เรามอบให้ ทำให้บางครั้งที่เราเหนื่อยจากเรื่องต่างๆ เรามีเขามาซัพพอร์ตและทำให้เรามีกำลังใจสู้ขึ้นมาใหม่”
คุณแม่ VS ลูกชาย
“ด้วยความที่เราดูแลลูกอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด แบบใกล้ชิดมาก เราจึงไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งตอนนี้ลูกชายคนเล็กกลายเป็นคนมาคุมเรา (หัวเราะ) ดุมาก แม่ไปไหนคอยโทรตาม พอเที่ยงคืนปุ๊บ โทรถามแล้ว mom อยู่ไหน และเขาจะคุยกับคนรถของเราตลอด เพื่อให้คนรถแอบบอกว่าแม่อยู่ไหน อยู่กับใคร (หัวเราะ) คือตอนนี้เขาเป็นห่วงเรามาก คอยดูแลเราทุกอย่าง
ความต่างของลูกชายแต่ละคน
“คนโต (คุณแก๊บบี้-ฉัตรเมธ เกรเบรียล เตชะวิบูลย์) จะเป็นแนวอาร์ตๆ ง่ายๆ เขาไม่เหมือนกันเลย คนละสไตล์ ส่วนคนเล็ก (คุณลีโอ - เสฏฐนันท์ ราฟาเอล เตชะวิบูลย์) จะเป็นคนเจ้าระเบียบ มีความเข้มงวด เขาค่อนข้างต่างกันมาก ทั้งๆ ที่เราเลี้ยงเขามาเหมือนกัน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน รองเท้าสีเดียวกัน เลี้ยงเขามาเหมือนกันเลย แต่พอโตขึ้นแล้วเป็นคนละแนว
กฎเหล็กสำหรับลูกชายบ้านนี้
“กฎเหล็กเราไม่มีนะ แต่เขาจะรู้ว่าเขาควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ส่วนใหญ่ไม่ว่ามีเรื่องอะไรลูกไม่เคยปิดบัง มีอะไรบอกเราหมด เขาไม่โกหก เวลาเขาทำอะไรผิดเขาจะมาบอกเราเลย คงเพราะเราเลี้ยงเขาอย่างใกล้ชิด และอีกอย่าง ซึ่งเป็นอย่างเดียวที่เขากลัว คือ เขาไม่อยากให้แม่เสียใจ (ยิ้ม) เขาเป็นห่วงความรู้สึกของเรามาก”
ความคาดหวัง
“จริงๆ คำตอบเปลี่ยนตลอด ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วเราจะตอบว่า ให้เป็นคนดี ซึ่งตอนนี้นอกจากให้เขาเป็นคนดีแล้ว ยังอยากให้เขาเป็นคนจิตใจดีด้วย อยากให้เขามีเมตตา ให้ช่วยเหลือคนอื่น เพราะเขาอยู่ในฐานะที่ช่วยได้ เราจะสอนเขาตลอด ว่ายูมีโอกาสที่จะช่วยคนนะ เราควรต้องให้โอกาสคนอื่นด้วย ซึ่งตอนนี้เขาก็ทำอยู่”
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกชาย
“อย่าเข้มงวดเกิน หากเราตีกรอบให้เขามากไป เขาจะตีออกมา แต่ถ้าเราปล่อย และคอยมองเขา คอยดูว่าเขาทำอะไร คอยดูเพื่อนเขา ดูว่าเขาอยู่กับใคร ถ้าไม่ดีเราก็ดึงเขากลับมาได้ แต่อย่าไปห้าม ไปวางกรอบ ไม่มีใครชอบค่ะ”
“อยากจะขอบคุณ คุณแม่ที่คอยเลี้ยงดูผมมาตลอด คอยดูแลผม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเรียน และเรื่องเพื่อนต่างๆ เขาคอยห่วงใยผมตลอดเวลา แต่ไม่เคยบังคับเลย แม่เขาสอนให้ผมลองผิดลองถูก สอนให้เรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่ง ณ วันนี้ผมโตพอที่จะดูแลคุณแม่ได้แล้วครับ และผมจะดูแลในวิธีของผม เพราะผมรู้ใจแม่ผมดีที่สุด ผมเข้าใจแม่ที่สุด สิ่งที่ผมจะทำให้แม่ คือ หนึ่งให้เขาปลอดภัย สองให้เขามีความสุข สามคือดูแลให้แม่อยู่กับผมไปนานๆ” คุณลีโอ - เสฏฐนันท์ ราฟาเอล เตชะวิบูลย์
Orranart Churdboonchart, Vich - Pich - Arin Smutharaks
คุณอ๋อ – อรนารถ เชิดบุญชาติ
“ตอนนี้อ๋อ ดูแลธุรกิจของครอบครัวอยู่ค่ะ ล่าสุดเพิ่งเปิดร้านอาหารใหม่ชื่อว่าทำสวนทำครัว เป็นร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ อาหารไทย เพื่อตอบโจทย์คนที่ทำงานย่านสีลม ทำให้คลายเหงาไปได้บ้าง เพราะว่าตอนนี้ลูกๆ ไปเรียนที่ต่างประเทศหมดแล้ว หากย้อนไปตอนพวกเขาเด็กๆ เวลาทั้งหมดของเราจะเป็นของลูกหมดเลยค่ะ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับลูก ดูแลเขาทุกอย่างตั้งแต่ไปส่งโรงเรียน ไปดูเขาเล่นกีฬา อยู่กับเขาทุกกิจกรรม โชคดีว่างานที่ทำเป็นของเราเอง ทำให้เราไม่ต้องแบ่งเวลา คือเราสามารถให้เวลากับลูกได้ทั้งหมดถ้าเขาต้องการค่ะ”
คุณแม่ VS ลูกชาย
“ลูกชายคนแรกเขาง่าย เราแทบไม่ต้องไปยุ่งกับเขาเลย ซึ่งเมื่อมีเรื่องอื่นๆ ถ้าเป็นเรื่องของผู้ชายกลายเป็นว่าเขาคุยกันเอง พี่สอนน้องกันไป เท่ากับว่าเราได้ลูกชายคนโตมาช่วย ถึงแม้เขาอาจจะไม่ได้รู้อะไรมากมายนัก แต่คือเขาได้ลองผิดลองถูกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยวเรื่องแต่งตัว ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ที่คอยบอกน้อง เขาจะคุยกันเองค่ะ คนที่ 1 กับคนที่ 2 ห่างกัน 20 เดือน แต่คนที่ 2 กับคนที่ 3 ห่างกัน 4 ปี เพราะฉะนั้นคนโตกับคนเล็กนี่ห่างกัน 6 ปี แต่ว่าเขาสนิทกันมากเป็นคู่หูกัน ส่วนลูกๆ ทั้งสามคนกับอ๋อ เราสนิทกันหมด เราคุยกันทุกเรื่อง ไม่มีความลับต่อกัน”
ความต่างของลูกชายแต่ละคน
“น้องเอท เป็นเด็กที่มีหัวทางศิลปะ ซึ่งตอนแรกไม่รู้เลยนะคะ จนเขาได้ทุนจากทางโรงเรียน และคุณครูเขียนมาชมบ่อยมากทำให้ได้ทราบ และเขาจะค่อนข้างอ่อนไหว อ่อนโยน เป็นที่รักของพี่ๆ ที่ทำงานในบ้าน เพราะเขาใจดีและมักคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ และไม่ใช่แค่คนนะคะ อย่างน้องหมาที่บ้านก็จะรักเขา เวลาเขาอยู่บ้านน้องหมาจะติดเขามากจะคอยเดินตามเป็นเงาตลอดเวลา (ยิ้ม)
“น้องเอิบ เป็นคนที่เข้มแข็ง มีความสามารถทางดนตรี เวลาที่เขาตั้งใจจะทำอะไรก็ตามเขาจะต้องทำให้ได้ มีความมุ่งมั่น มีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบริเริ่มทำโน่นทำนี่ และจะลงลึกมากในเรื่องที่เขาสนใจ
“น้องอริน น้องคนเล็กเขาเป็นคนที่ไม่ชอบให้ไปยุ่งเรื่องของเขา (หัวเราะ) ซึ่งเขาเป็นคนที่เนี้ยบมาก เนี้ยบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือการจัดข้าวจัดของ เขาเป็นคนที่มีระเบียบที่สุด”
เคล็ดลับการเลี้ยงลูกชาย
“ให้ความรักค่ะ รักเขาอย่างเดียวแล้วเขาจะรู้ว่าเรารักเขามาก แบบมองหน้าก็รู้แล้ว เขาทุกคนจะรู้ว่าแม่ใจดี ซึ่งเขาจะไม่ค่อยทำให้เราผิดหวัง แค่เราทำหน้าเศร้าเขารู้แล้ว เขาจะรู้ว่าแม่ไม่อยากให้เขาทำในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ไม่ว่าจะดื้อหรือซน เขาจะรู้ตัวแล้วเขาก็จะไม่ทำ”
ความเป็นห่วง (หวง) ลูกชาย
“ไม่หวงเขากับสาวๆ ค่ะ รักแฟนของเขาทุกคน เขาพาสาวไหนมาเราก็รักเขาหมด เพราะเราอยากมีลูกสาวไงคะ และเด็กผู้หญิงมักน่ารัก เวลามาเล่นมาคุยอะไรอย่างนี้เราก็ชอบ” (ยิ้ม)
กฎเหล็กสำหรับลูกชายบ้านนี้
“พี่น้องห้ามทะเลาะกัน น้องต้องดูแลพี่ พี่ต้องดูแลน้อง ทั้งสามคนคือแพ็คเดียวกัน จะแตกกันไม่ได้ค่ะ”
“ผมอยากจะขอบคุณคุณแม่มากๆ ที่เลี้ยงเรามา 20 ปี ขอบคุณคุณแม่มากๆ รักแม่มากครับ” คุณเอิบ – พิชญ์ สมุทรักษ์ (อายุ 20 ปี)
“ผมต้องขอบคุณคุณแม่ที่ทำให้ผมเชื่อใน ความดี ความรัก เชื่อในสิ่งที่โลกวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ความรักที่คุณแม่ให้ผมมามันมากที่สุดในโลกจนประเมินค่าไม่ได้” คุณเอท – วิชย์ สมุทรักษ์ (อายุ 22 ปี)
“ผม และพี่อีกสองคนเป็นผู้ชายหมดเลย และคุณแม่เขาเป็นผู้หญิง เขาเลี้ยงเรามาได้ แม่เขาเก่งมาก และไม่ว่าเราจะไปเล่นกีฬาอะไร เขาก็จะมาคอยซัพพอร์ตเราตลอด แม้ในบางเรื่องที่คุณแม่ไม่เห็นด้วยกับเรา หรือไม่รู้เรื่องในสิ่งที่เรากำลังจะทำ แต่ที่สุดแล้วคุณแม่เขาก็จะหาวิธีมาช่วยเราอยู่ดีครับ ขอบคุณแม่มากครับ” คุณอริน สมุทรักษ์ (อายุ 17 ปี)
Nadhawan – Taan – Taas Tanyongmas
คุณก้อย – ณัฏฐวรรณ ตันหยงมาศ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพัฒนา พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
“ปัจจุบันก้อยทำงานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถนะคะ เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพัฒนา หน้าที่คือดูแลเรื่องทั่วไปของพิพิธภัณฑ์ฯ อย่างเช่นการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ การบริหารจัดการภายในค่ะ แต่ถ้าย้อนไปตอนลูกยังเล็กๆ ก้อยทำงานอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ คือ ช่วงนั้นด้วยหน้าที่ของเราทำให้มีการเดินทางค่อนข้างบ่อย ถึงจุดหนึ่งก็คิดว่าเราเริ่มจะไม่ค่อยมีเวลาแล้ว และเรารู้สึกว่า สำหรับลูกยิ่งเป็นลูกชายด้วย เราควรต้องให้เวลาเขามากกว่านี้ เพราะเมื่อเขาเป็นวัยรุ่นเขาก็จะมีชีวิตของตัวเอง ซึ่งด้วยความคิดเรื่องเวลาประกอบกับโครงการนี้เริ่มขึ้น ก้อยจึงได้ย้ายมาทำงานที่นี่ เพราะพิพิธภัณฑ์คือเปิด-ปิด เป็นเวลา และด้วยเนื้องานเราไม่จำเป็นต้องเดินทางมากนัก ทำให้เราสามารถแบ่งเวลาดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ค่ะ”
คุณแม่ VS ลูกชาย
“การเลี้ยงลูกชายสำหรับก้อย จริงๆ แล้วไม่ยากเลย เพราะก้อยเป็นคนนิสัยเหมือนผู้ชาย แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายค่อนข้างเยอะ ก้อยเป็นคนแบบลุยๆ มีอะไรก็พูดตรงๆ เพราะฉะนั้นเวลาอยู่กับลูกเราเข้ากันได้ดี ถึงตอนนี้ยังกอดหอมกันทุกวันนะ แต่เขาเริ่มไม่ค่อยอยากให้หอมเท่าไร (หัวเราะ) แม้ว่าเราจะเลี้ยงเขามาอย่างใกล้ชิด แต่ก้อยไม่ได้เลี้ยงให้ลูกติดนะคะ คือย้อนไปตอนสมัยก้อยเป็นเด็กๆ คุณแม่ก็เป็นคนทำงาน ถ้าถามว่าเราใกล้ชิดคุณแม่ไหม เราใกล้ชิด แต่เราไม่ได้ตัวติดกันตลอดเวลา การเลี้ยงลูกของก้อยเหมือนกัน คือเราให้เขามี Space ของตัวเอง แต่ว่าไม่มี Gap ระหว่างเรา ถ้าถามว่าทั้ง ธรรม์ และ ธรรศ มีอะไรน่ากลุ้มใจไหม ไม่มีค่ะ เขาซนตามวัยของเขา เฮี้ยวไหม ก็ไม่ค่อยนะ” (ยิ้ม)
ความต่างของลูกชายแต่ละคน
“พี่ธรรม์เป็นคนเซนซิทีฟ เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนชอบวาดรูป คือเขามีความสนใจที่ค่อนข้างชัดเจน เวลาเขาทำอะไรเขาจะมุ่งมั่น เป็นคนทำอะไรจริงจัง แต่ถ้าเป็นอะไรที่เขาไม่อยากทำ ต่อให้เคี่ยวเข็ญอย่างไรก็ยากค่ะ
“น้องธรรศเป็นคนที่ยังอยู่ในกรอบ ความเป็นตัวของตัวเองเขาก็มี เป็นคนมีระเบียบ เขาเป็นคนที่ชอบให้พูดกับเขาดีๆ ถ้าแม่พูดไม่ดีเขาจะไม่ชอบ ความสนใจของเขาคือ เล่นฟุตบอล เล่นดนตรี และตอนนี้มีไปเต้นด้วย”
ความเป็นห่วง (หวง) ลูกชาย
“แม่ที่มีลูกชายส่วนใหญ่จะบอกว่ากังวลเรื่องแฟน แต่สำหรับก้อย เรารู้ว่าเขายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ชีวิต คือ เขาจะมีแฟนหรืออะไรก็เป็นช่วงเวลาของเขา เรายังไม่กลุ้มใจจุดนั้นนะ แต่ว่าด้วยความที่เป็นวัยรุ่นพลังมันเยอะ มีความคึกคะนองตามวัยจะเป็นห่วงเรื่องเพื่อนมากกว่า และสิ่งล่อใจต่างๆ ที่เข้าหาเขาง่ายมากในยุคดิจิตอล”
กฎเหล็กสำหรับลูกชายบ้านนี้
“มีแฟนต้องให้แม่ดูก่อน (ยิ้ม) เวลาใครถามมักจะบอกแบบนี้ แต่จริงๆ คือ จะบอกเขาเสมอว่าเวลาทำอะไร ต้องคิดว่าพ่อแม่จะเสียใจรึเปล่า ซึ่งมันจะครอบคลุมหลายด้านมากค่ะ”
ความคาดหวัง
“ก้อยเป็นคนไม่คาดหวังนะ อย่างถ้าเราคาดหวังไว้อย่างหนึ่งแล้วเราไม่ได้ มันก็เสียใจ ตอนนี้รู้สึก Happy กับเขาทั้งคู่ ทุกวันนี้เขามีความรับผิดชอบของเขาเองโดยที่เราไม่ต้องไปพูดว่าเขาต้องทำอะไร คือเรื่องสำคัญในชีวิตของเขา เขารับผิดชอบได้ อย่างเช่นเรื่องเรียน เราไม่ต้องไปคอยถามเรื่องงานเรื่องการบ้านอะไรเลย คือเขาจัดการตัวเองได้โดยไม่ต้องกังวลแล้ว หรือถ้าตอนนี้เขาจะมีสาวๆ ก็ไม่เป็นไรนะ แค่ขอให้แม่ดูก่อน” (หัวเราะ)
“ขอบคุณที่เลี้ยงผมมาครับ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วงมากแล้วนะครับ ผมโตแล้ว ผมจะดูแลตัวเองให้ดี” คุณธรรม์ ตันหยงมาศ (อายุ 16 ปี)
“ขอบคุณคุณแม่ ที่เลี้ยงดูธรรศมาอย่างดีตลอด 15 ปี ให้อยู่สบาย ไม่ต้องลำบาก” คุณธรรศ ตันหยงมาศ (อายุ 15 ปี)
SIRIN CHATVICHAI, PASAWUT – PASAWIT LERTVORAPREECHA
คุณตุ๊ก – สิริน ฉัตรวิชัย Managing Director, Degree Lighting
“ปัจจุบันนอกจากธุรกิจโคมไฟที่ทำอยู่แล้ว ก็มีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค่ะ ที่กำลังปลุกปั้นอยู่ และหากจะถามเรื่องการแบ่งเวลาในการดูแลลูกและแบ่งเวลาทำงานว่าเป็นอย่างไร สำหรับเราจะบอกว่า ไม่ได้แบ่งเลย เพราะเวลาของลูก คือ Anytime เมื่อไรก็ได้ ตลอดเวลาค่ะ สำหรับลูกทุกคน ไม่ว่ามีเรื่องอะไรสามารถติดต่อคุณแม่ได้ตลอดเวลา เราจะเป็นคนไม่ปิดโทรศัพท์มือถือเลย เผื่อลูกต้องการคำปรึกษา เราพร้อมเสมอ แม้ทุกวันนี้ลูกชายจะโต ทำงานแล้ว เราจะตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่เขากลับมาจากที่ทำงานแล้วมีเรื่องงานมาเล่าให้ฟัง คือเราสนิทสนมกันเหมือนเดิม เราเป็นบ้านที่ลูกชายสนิทกับแม่มากค่ะ”
ความต่างของลูกชายแต่ละคน
“สำหรับลูกชายคนโต โชแปง (คุณเลิศวริศ เลิศวรปรีชา) เรา Surprise มาก ตั้งแต่เด็กเขาเรียนอาร์ตมา วันหนึ่งเขาเดินมาบอกว่า เขาอยากรับราชการ และเขาตั้งใจมาก ซึ่งเราโอเคทุกอย่าง อะไรก็ได้ที่ลูกทำแล้วมีความสุข สนับสนุนทุกอย่างค่ะ ตอนนี้เขาเป็นคนที่มีระเบียบวินัย ทำให้เราดีใจมากนะคะ เพราะว่าเราเป็นแม่ที่สปอยล์ลูกมาตั้งแต่เด็ก(หัวเราะ) ซึ่ง ณ วันนี้ภูมิใจในตัวเขาที่เขารู้แล้วว่าเขาอยากไปทางไหน
“ส่วนฝาแฝด น้องปก เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เราได้คุยกับเขาว่า อยากเรียนอะไร ปกเขาเลือกเรียนเชฟ ซึ่งพอเขากลับมาเขาได้แรงบันดาลใจ และขอเรียนด้านนี้ต่อเลย เขาชัดเจนแล้ว เราดีใจที่เขาหาตัวเองได้เร็ว เพราะถ้าเขาหาตัวเองได้เร็ว เขาจะได้พัฒนาไปเรื่อยๆ และมีความสุขในการเรียน ซึ่งส่วนตัวเขาเป็นคนเงียบๆ ในพี่น้องสามคนเขาจะโดนพี่ชาย คือโชแปง และน้องป้องใช้บริการตลอด
“ต่อมาน้องป้อง เขาจะเป็นคนซนๆ นิดหนึ่ง ถึงแม้ปกป้องเขาจะเป็นฝาแฝดกัน แต่เขาชอบไม่เหมือนกันเลย ชอบต่างกันมากค่ะ แต่โชคดีว่าลูกทุกคนเลี้ยงง่าย ไม่มีใครสร้างความลำบากใจให้เราเลย”
คุณแม่ VS ลูกชาย
“ด้วยความที่เราเป็น Single Mom สิ่งที่เรากังวล คือ กลัวลูกจะคิดมาก เราเป็นห่วงความรู้สึกเขา ซึ่งโชคดีที่เขาเข้าใจ เพราะเราทำหน้าที่ของแม่อย่างเต็มที่ และด้วยความที่ลูกเป็นลูกชาย เราใช้ความเป็นเพื่อนอยู่กับเขา จะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับเขามาก เราต้องรู้จังหวะ บางเรื่องเราลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่เขาได้ บางเรื่องเราต้องดู ส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา เพราะเราเป็นคนที่สังเกตลูกตลอด เขาชอบไม่ชอบอะไร เราจะรู้ ถ้าเขารู้สึกอึดอัดเราต้องถอยออกมาสเต็ปหนึ่ง และตอนนี้โชแปงเขาดูแลน้องได้ เขาห่างจากน้องๆ 6 ปี บางเรื่องที่ลึกซึ้งเราจะบอกให้เขาสอนน้องนะ เพราะถ้าน้องมาคุยกับแม่อาจจะเขิน ซึ่งน้องๆ รักเคารพพี่ทั้งคู่”
กฎเหล็กสำหรับลูกชายบ้านนี้
“ห้ามโกหก เพราะการโกหกเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่ไม่ดีค่ะ”
ความคาดหวัง
“ถ้าในเรื่องการใช้ชีวิต อยากให้เขาดูแลตัวเองได้ มีความสุข มีคู่ชีวิตที่เขาอยู่ด้วยและ Happy ค่ะ”
“19 ปี ที่ผ่านมาของปก อยากจะบอกว่า มามี้คือกำลังใจหลักในทุกๆ อย่างที่ปกทำ คอย Support ทุกเรื่องที่ทำ และผลักดันให้ปกไปในทางที่ดีที่สุด ถึงแม้ปกอาจจะทำผิดบ้างในเรื่องการเรียน และทำให้มามี้เสียใจแต่มามี้ก็ให้อภัยตลอด มามี้สอนให้ตั้งหลัก และเริ่มใหม่ และมามี้ก็เป็นแบบอย่างในการทำงาน ทำให้รู้ว่าทุกอย่างมันไม่ง่ายที่จะประสบความสำเร็จ ปกรักมามี้มากๆ นะครับ” คุณปก – ภาสวุฒิ เลิศวรปรีชา (อายุ 19 ปี)
“19 ปี ที่ผ่านมา อยากจะขอบคุณที่คอย Support ทุกอย่าง แล้วก็อยากขอโทษเวลาป้องทำอะไรผิด มามี้ไม่เคยว่าแต่จะสอนและอธิบาย อย่างสุดท้ายอยากจะบอกว่าถึงจะไม่ใช่ลูกที่ดีที่สุดของมามี้ แต่ป้องก็รักมามี้มากที่สุดนะครับถึงแม้จะไม่ค่อยได้บอก” คุณป้อง –ภาสวิชญ์ เลิศวรปรีชา (อายุ 19 ปี)
Story by Arunlak
Photo by Veerapo
Stylish by K_Wondrous