counters
hisoparty

คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช - Khunying Chodchoy Sophonpanich

4 years ago

คนเราทุกคนมีความสุขในการที่จะดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว แต่หากเราพอจะมีกำลังมากพอ ก็ต้องพยายามที่จะหาวิธีการในการที่จะช่วยเหลือสังคม คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ มูลนิธิชิน โสภณพนิช หลักสูตรโรงเรียนไทยสู่ความเป็นเลิศมูลนิธิชิน โสภณพนิช / กรรมการของมูลนิธิหอศิลป์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ / กรรมการของมูลนิธิบัวหลวง / นายกสมาคมสร้างสรรค์ไทย / นายกกิตติมศักดิ์ของสมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย / นายกสมาพันธ์บริดจ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก

“ตอนนี้เพิ่งเรียนคอร์สใหม่ Wellness & Healthcare Business Opportunity for Executives (WHB) โดยสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โครงการให้ความรู้ด้านการแพทย์ การพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่ โดยนำนวัตกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่มาใช้ในธุรกิจบริการเกี่ยวกับ Wellness & Health มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีชื่อเสียงเป็น Medical Hub อยู่แล้ว มีคนไข้จากทั่วโลกมาใช้บริการการแพทย์อยู่แล้วแต่โลกกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัย จึงควรสนใจเรื่องการพัฒนา Retirement และ Wellness Tourism คู่ไปกับ Medical ด้วย หลักสูตรนี้ให้ความรู้และชี้โอกาสให้เกิดธุรกิจที่คงจะสร้างรายได้มหาศาลให้ประเทศไทยในอนาคต”

ทำไมคุณหญิงยังรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้อยู่เสมอ
          “ชอบค่ะ เป็นคนที่ชอบหาความรู้ และในหลักสูตรที่เรียนเรายังได้เจอคนที่หลากหลาย มีนักศึกษาเข้าอบรมประมาณ 120 คน ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอาชีพ เป็นอาจารย์ เป็นแพทย์ เป็นนักธุรกิจ ฯลฯ หลากหลายวัย ท่านที่มีอายุมากที่สุดคือ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ดร.กระแส ชนะวงศ์ อายุ 88 ปีแล้วยังสุขภาพดี น่ารัก ถึงจะมีนักศึกษาช่วงอายุ 30 ปี ก็เป็นพี่เป็นน้องกันหมด เราไม่รู้สึกมีช่องว่าง ไม่เคยนึกถึงอายุตัวเอง แต่เขาอาจจะคิดก็ได้นะ อาจจะเกรงใจ (ยิ้ม)”
          “และเราก็ชอบอ่าน ชอบท้าทาย เช่นเล่นกีฬาบริดจ์ แม้ตอนนี้ไม่ได้แข่ง ก็ยังอ่านหนังสือบริดจ์ตลอด เพิ่มความรู้ เพิ่มทักษะศึกษาทฤษฎีใหม่ๆ เพราะเคยได้เหรียญทอง Sea Games และเหรียญเงิน Asian Games เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นนักกีฬาที่อายุมากที่สุด ตอนนั้นสถานีโทรทัศน์ NHK WORLD-JAPAN ของญี่ปุ่นให้ความสนใจมากและทำข่าวลงเยอะ ด้วยเป็นสังคมสูงวัยอยู่แล้ว และปีที่แล้วเราก็ยังเริ่มเรียนปิงปิอง และพิลาทิสค่ะ”

จากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น คุณหญิงมีการปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่
          “เราโชคดีที่ในบ้านมีลูกมีหลานอยู่ (ลูก 3 คน หลาน 2 คน) และในบ้านเราก็มีสระว่ายน้ำ โต๊ะปิงปอง มีเครื่องพิลาทิส เพราะฉะนั้น ก็เหมือนกับว่าเราอยู่ในบ้านได้ คือไม่ค่อยรู้สึกได้รับผลกระทบเท่าไร เพราะว่าเราเป็นได้ทั้งคนที่กระโดดโลดเต้นเวลาออกไปข้างนอกได้ แต่เราก็ยังอยู่บ้านเฉยๆ ได้ จึงไม่ค่อยมีปัญหา เหมือนเรามีความสุขด้วยที่ได้อยู่ท่ามกลางครอบครัว ส่วนลูกคนโต และหลานอีก 4 คน อยู่อีกที่ แต่ติดต่อคุยกันอยู่ตลอด แล้วปกติออฟฟิศก็อยู่ในบ้านอยู่แล้วซึ่งก็ยังสามารถทำงานเพื่อสังคมได้จากที่บ้านด้วย”

เคล็ดลับในการดูแลตัวเองของคุณหญิง
          “ออกกำลังกาย มีกิจกรรมลับสมอง ครอบครัวอบอุ่น สุขภาพจิตดี หลับสบาย ทานได้ดี”
          “เราโชคดีที่เป็นนักกีฬาตั้งแต่เด็กตอนอยู่โรงเรียนประจำที่ออสเตรเลีย พอแต่งงานมีลูกก็พาเขาทั้ง 4 คน ออกไปตีเทนนิสเกือบทุกวัน (สนับสนุนให้ลูกๆ เป็นนักกีฬา) ก็เลยไม่เคยอ้วน ยิ่งช่วงนี้อยู่บ้านก็จะเดินลู่ ส่วนครูสอนปิงปองและพิลาทิสไม่ได้มาก็มีเครื่องที่ซ้อมได้ ที่สำคัญเราเลือกทานอาหารดี ซึ่งจะเรียกว่าเป็นนิสัยตั้งแต่เด็กก็ได้ คือที่บ้านทานอาหารแต้จิ๋วที่มีรสชาติจืดมาก เน้นผัก ปลาสดแล้วตอนเรียนโรงเรียนประจำที่ออสเตรเลีย 9-10 ปี ก็ทานอาหารจืด โรงเรียนไม่ให้ทานขนมจุกจิกเป็นนิสัย ให้ทานอาหารเป็นเวลา จึงไม่ค่อยทานขนมจุกจิก แต่เรื่องของเวลานอนก็แก้ไม่ได้ คือนอนตี1 ตี2 ตั้งแต่สาวๆ แต่ก็นอนได้ 7-8 ชั่วโมง และเป็นคนชอบอยู่บ้าน ชอบความสงบ แต่ก็ชอบสังคมกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะเพื่อนเก่าแก่ ชอบสังสรรค์ ทานอาหาร ร้องเพลง เต้นรำ สนุกกับเพื่อนสนิทค่ะ”

ข้อคิดที่คุณหญิงยึดถือในชีวิต
          “เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีความสุขกับตัวเอง กับครอบครัว กับเพื่อนฝูง แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้ามีความสามารถมากพอ เราก็คิดว่าควรที่จะให้คนอื่น พยายามที่จะช่วยคนอื่นและสังคมด้วยค่ะ (ยิ้ม)”


SHARE    

SHARE