เพราะเห็นถึงคุณค่าในทุกช่วงเวลาที่มีอยู่ สุภาพสตรีท่านนี้จึงให้ความสำคัญและทุ่มเทเวลาให้กับการดูแลลูกๆ และครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งนี่เองคือหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ภาพของเธอห่างหายจากแวดวงสังคมบ้านเราไปพักใหญ่ กับ ม.ล.ตรีนุช สิริวัฒนภักดี ซึ่งสำหรับคุณนุชเอง เรียกได้ว่าเป็น Friends of HiSoParty ลำดับต้นๆ ของเรา เพราะได้มีโอกาสร่วมงานกันตั้งแต่ก้าวแรกๆ ของ HiSoParty จนถึงวันนี้ ที่เรากำลังก้าวเข้าสู้ปีที่ 21 เธอก็ได้ให้เกียรติมาร่วมถ่ายแฟชั่น ณ โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) เมกะโปรเจคท์ระดับโลก หนึ่งในธุรกิจของครอบครัว ที่อีกไม่นานคนไทยทุกคนจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้เธอยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมภาษณ์พูดคุยอัปเดทเรื่องราวชีวิต ณ ปัจจุบันของเธออีกด้วย
“ช่วงนี้ยังเดินทางไปกลับสิงคโปร์อยู่นะคะ เพราะลูกๆ ไปเรียนตั้งแต่ปี 2017 ช่วงปีแรกที่ย้ายไปค่อนข้างยากนิดนึง ทั้งตัวลูกๆ และตัวแม่เองที่ต้องปรับตัว เพราะเราเปลี่ยนที่อยู่ แรกๆ จะวุ่นวายนิดหน่อย แต่หลังจากผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นค่ะ จากนั้นก็มีช่วงที่เราย้ายกลับมา คือช่วงโควิด19 ประกอบกับช่วงนั้น คุณพ่อ (ม.ร.ว.ตราจักร จักรพันธุ์) ท่านป่วยและจากไป และก็เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่คุณแม่สามี (คุณหญิง วรรณา สิริวัฒนภักดี) ท่านป่วย ครอบครัวเราจึงย้ายกลับมาเพื่อให้เด็กๆ ได้มาใช้เวลากับคุณย่าให้เต็มที่ค่ะ”
Family Comes First
“ในเรื่องของการจัดสรรเวลาสำหรับเรา จะให้แบ่งเป๊ะๆ คงไม่ได้ ด้วยนอกเหนือจากลูกๆ ทั้ง 4 คน (น้องเทมส์ - ด.ช.โรจนะ, น้องแพม - ด.ญ.ชุติภัค, น้องพรีม - ด.ญ.ทักษนท และ น้องพีช - ด.ญ.สุพจนารถ) ยังมีสามี (คุณยอด - ปณต สิริวัฒนภักดี) มีครอบครัวคุณแม่เรา และครอบครัวของสามีด้วย บ้านเราให้ความสำคัญกับครอบครัวมากๆ ค่ะ ซึ่งลูกๆ ทุกคน เขาจะซึมซับสิ่งนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เพราะคุณยอด เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ ถ้าพูดในเรื่องของความกตัญญู ถ้ามี 100 คะแนน คุณยอดคือ 110 คุณพ่อคุณแม่ต้องมาก่อนทุกอย่าง เด็กๆ เขาได้เห็นในสิ่งที่คุณพ่อทำมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะคุณยอดจะชอบทำอาหารให้กับคุณพ่อคุณแม่ทาน และลูกๆ ก็จะได้เห็นภาพนี้มาตลอด เขาได้เห็นว่าคุณพ่อ ดูแลคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายอย่างไร ฉะนั้นช่วงเวลาที่เป็นวันหยุด เราจะกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวที่เมืองไทย ซึ่งลูกๆ ทุกคนก็เข้าใจ และเขาก็มีความสุขที่จะทำ ย้อนไปในช่วงที่คุณหญิงไม่สบาย และต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เราก็พาลูกๆ ไปหาท่านที่โรงพยาบาลทุกวัน ไปเดินในสวนที่โรงพยาบาล เขาทุกคนได้ใช้เวลากับคุณย่าอย่างเต็มที่ และวันหนึ่งลูกเขาก็มาพูดกับเราว่า เขารู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่ได้ใช้เวลากับคุณตา และกับคุณย่า ในช่วงที่ผ่านมาก่อนที่ท่านจะเสียไป ซึ่งเขาก็ได้เห็นคุณค่าของเวลาเหมือนกันกับเรา เหมือนลูกเขาได้เรียนรู้ไปกับเราด้วย
“ในช่วงที่ลูกๆ กลับไปเรียนที่สิงคโปร์ เราจะไปอยู่กับลูก แต่ว่าคุณยอดจะอยู่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ซึ่งเขาก็พยายามที่จะไปเจอลูกทานข้าวด้วยกันอาทิตย์ละครั้ง และจะ FaceTime กันทุกวัน บอก Goodnight กันทุกคืน คุณยอดเขาแบ่งเวลาเก่งมาก เพราะ โครงการ One Bangkok ก็ใกล้จะเปิดแล้ว ฉะนั้นงานเขาจะยุ่งมากแต่ก็ยังจัดเวลาให้กับลูกๆ ได้เสมอ ในส่วนตัวเราเอง ถือว่าโชคดี เพราะได้ไปอยู่กับลูกๆ ที่โน่น ทำให้ได้ใช้เวลากับเขาแบบเต็มที่มากๆ คือเต็มตัวเลย และหากมีอะไรที่เราต้องทำที่กรุงเทพฯ เราก็บินกลับมา ทำให้เวลาส่วนใหญ่เราได้ใช้กับลูกๆ ทั้งหมดค่ะ”
A Legacy of Gratitude
“ในครอบครัวเรา สิ่งที่อยากให้ลูกๆ ทุกคนยึดถือ และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องความกตัญญูรู้คุณคน อันนี้คือเราปลูกฝังเขามาตั้งแต่เล็กๆ และทำให้เขาเห็นด้วย ที่สำคัญพ่อของพวกเขา คือตัวอย่างที่ดีมาก คุณยอดเขาคือแบบอย่างที่ประพฤติให้เห็นเลย สิ่งที่เราสอนไม่ใช่แค่การกตัญญูต่อพ่อแม่ แต่หมายถึงคนที่มีบุญคุณกับเราด้วยค่ะ”
Cherish the Moment...
“ตอนนี้สิ่งที่โฟกัสหลักๆ คือ ครอบครัวเลยค่ะ ย้อนไปช่วงหกเจ็ดปีที่ผ่านมาเราผ่านช่วงเวลาที่ยากมาก คือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ตั้งแต่คุณพ่อของตัวเราเองป่วยและท่านเสีย จนมาถึงคุณแม่ของสามีไม่สบายและจากไป ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลา คุณค่าของการมีอยู่มากๆ จากที่เราไม่เคยตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้มาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น และในวันที่อายุเราขึ้นเลขสี่แล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปตามพรหมลิขิตจริงๆ คำนี้เป็นสิ่งที่คุณแม่สามีจะพูดเสมอ ว่าทุกอย่างตามพรมลิขิตมันกำหนดมาแล้ว ถึงเวลาต้องไปก็คือต้องไป เมื่อเราได้ผ่านเหตุการณ์สูญเสียมาสองครั้งแล้ว และเป็นสองครั้งที่สำคัญมากมันทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลา จึงพยายามอยู่กับสิ่งที่เป็นความสุขที่อยู่ตรงหน้า อยู่กับความสุข ณ ปัจจุบันทุกวันนี้อาจจะทำยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จะพยายามไม่มองไปไกลๆ หรือย้อนไปคิดมากในเรื่องอดีต พยายามจะใช้ชีวิตในปัจจุบัน ให้ดีและมีความสุขที่สุดค่ะ”
The Supporter
“ด้วยการทำงานของคุณยอด ค่อนข้างที่จะหลากหลาย เขามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก ทั้งที่นี่เองรวมถึงขยายงานทางฝั่งยุโรปด้วย ในหลายๆ ครั้งเขาก็อยากให้เราเดินทางไปด้วย เพราะเขาคิดว่าอย่างน้อยคู่สามีภรรยา ควรต้องได้รับรู้เกี่ยวกับงานที่เขาทำ ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลย อยากให้เราพอจะจับใจความได้บ้าง เราก็พยายามที่จะจัดสรรเวลาไปเท่าที่ทำได้ พยายามซัพพอร์ตเขาให้ได้ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งถ้ากะทันหันมากๆ ก็จะต้องยกเวลาให้กับลูกๆ ก่อน แต่เราก็พยายามสนับสนุนในทุกๆ อย่างที่เขาทำค่ะ”
One Bangkok
“สำหรับ One Bangkok โครงการนี้ คุณยอดใช้เวลากับโครงการเท่ากับอายุของลูกชายคนโตเลย คือตั้งแต่ศึกษาพื้นที่ เริ่มคิดว่าจะพัฒนาอะไร จนถึงยื่นซองประมูล ทุกอย่างมาเป็นกระบวนการที่เหมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่ง คุณยอดเขาทุ่มเทและใช้เวลากับตรงนี้มาก เรารู้สึกภูมิใจกับเขามาก และตรงไหนที่เราสามารถซัพพอร์ตหรือมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นได้ เราก็เต็มที่ ซึ่งในฐานะของแม่ลูกสี่คน ทำให้เรารู้ไลฟ์สไตล์ของแม่ๆ และเด็กๆ ว่าพวกเขามีความต้องการอะไร ในเรื่องของเอ็นเทอร์เทนเมนต์ต่างๆ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง เวลาผู้หญิงช้อปปิ้งมีความต้องการอย่างไรบ้างเราก็ได้แชร์ไป และในเคสของคนทำงาน ส่วนใหญ่คนต้องการสถานที่ Hangouts มีร้านอาหาร มีโรงหนัง ซึ่งที่นี่ทุกอย่างมันครบวงจรอยู่แล้ว ทุกอย่างจบในที่เดียว
“จุดประสงค์ของการพัฒนาโครงการจะไม่มุ่งเน้นถึงคอมเมอเชียลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนาที่นึกถึงส่วนรวมด้วย เช่น การที่โครงการมีพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวที่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าห้าสิบเปอร์เซนต์ จะทำให้เกิดการเข้าถึงของผู้คนโดยรอบ และจะทำให้พื้นที่และชุมชนมีการพัฒนาและปรับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นค่ะ”
Author By : Arunlak
