เพื่อรำลึกถึง 120 ปีชาตกาลของ ‘ศรีบูรพา’ หรือ กุหลาบ สายประดิษฐ์ นักเขียนผู้เปี่ยมอุดมการณ์ ผู้ฝากผลงานทางปัญญาไว้ให้กับวงการวรรณกรรมและสังคมไทย แบรนด์สิ่งทอระดับแนวหน้าอย่าง PASAYA จึงร่วมกับ ‘กองทุนศรีบูรพา’ จัดงานเสวนา ‘120 ปี ศรีบูรพา Young Today’ ณ PASAYA Flagship Store ชั้น 3 สยามพารากอน พร้อมเปิดตัว ‘กระเป๋าศรีบูรพา’ รุ่นพิเศษ ภายใต้แนวคิด ‘ผืนผ้าที่บอกเล่าเรื่องใจ’ ถ่ายทอดวลีอมตะจากบทประพันธ์ของศรีบูรพาลงบนเนื้อผ้าอย่างประณีต สะท้อนจิตวิญญาณของนักเขียนผู้ไม่เคยล้าสมัย
บรรยากาศภายในงานอบอวลไปด้วยพลังทางความคิดจากนักเขียน นักคิด และสื่อมวลชนที่มาร่วมรับฟังเสวนา โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณชมัยภร แสงกระจ่าง, คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์, คุณโตมร ศุขปรีชา, คุณกษิดิศ อนันทนาธร และคุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย พร้อมการอ่านบทกวี ‘รำลึกศรีบูรพา’ โดย คุณอาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ และคุณอัศวุธ อุปติ กรรมการกองทุนศรีบูรพา โดยแต่ละท่านได้ถ่ายทอดความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อชีวิตและผลงานของศรีบูรพา ทั้งในฐานะนักประพันธ์และนักต่อสู้เพื่อความยุติธรรม โดยชี้ให้เห็นว่า วรรณกรรมของเขาไม่เพียงเป็นงานเขียน แต่คือกระจกสะท้อนสังคม และเครื่องมือในการจุดประกายความคิดให้คนรุ่นใหม่กล้าตั้งคำถาม และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง
“ศรีบูรพาเขียนถึง ‘ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์’ ผ่านความรัก”
คุณชมัยภร แสงกระจ่าง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2557 เล่าถึงตัวละครอย่าง ‘ม.ร.ว. กีรติ’ และ ‘นพพร’ ในนวนิยาย ข้างหลังภาพ ที่สะท้อนความรักอันลึกซึ้งและความเข้าใจในคุณค่าของความเป็นมนุษย์
“ศรีบูรพาแสดงให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องครอบครอง แต่เป็นการเข้าใจและยินดีในความสุขของอีกฝ่าย... คุณหญิงกีรติเลือกที่จะเก็บงำความรู้สึกไว้ ไม่ใช่เพียงเพราะจารีต แต่เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตนเองและของคนที่เธอรัก ตัวละครของท่านมีชีวิตที่เลือกได้ แม้ในกรอบของสังคมที่จำกัด และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผลงานของท่านมีความเป็นสากล”
“ศรีบูรพาคือ ‘นักสู้ทางความคิด’ ที่ใช้ปากกาเป็นอาวุธ”
คุณวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการ Thai PBS และนักเขียนเจ้าของรางวัลศรีบูรพาคนที่ 23 เผยว่า
“เรามักจดจำศรีบูรพาในฐานะนักเขียน แต่เบื้องหลังความอ่อนโยนของภาษา ท่านคือ ‘นักสู้ทางความคิด’ ที่มีปากกาเป็นอาวุธต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม... อุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ต้องแลกมาด้วยการเสียสละอันใหญ่ยิ่งเช่นเดียวกัน”
“คำว่า ‘แลไปข้างหน้า’ คือการตั้งคำถามกับปัจจุบันอย่างกล้าหาญ”
คุณโตมร ศุขปรีชา นักคิดและนักเขียนชี้ให้เห็นถึงพลังของวรรณกรรมในการขับเคลื่อนสังคม
“นวนิยาย แลไปข้างหน้า คือการปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อสภาวะที่เป็นอยู่... ถ้าศรีบูรพายังมีชีวิตอยู่ ท่านจะตั้งคำถามกับ New Normal กับโครงสร้างอำนาจ และท้าทายให้เรามองไปข้างหน้าเพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่า”
“จากนวนิยาย ‘สงครามชีวิต’ สู่นักเขียนผู้เป็นแรงบันดาลใจ”
คุณกษิดิศ อนันทนาธร นักวิชาการและกรรมการสภาคณาจารย์ ม.รามคำแหง กล่าวว่า
“หนังสือเล่มแรกของศรีบูรพาที่ผมอ่านคือ สงครามชีวิต ทำให้ผมตกหลุมรักการใช้ภาษา... ศรีบูรพาคือต้นแบบของนักอ่านที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้ และใช้ความรู้ที่ได้มาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง”
“เสน่ห์ในงานของศรีบูรพาคือ ‘ความตรงไปตรงมา’ ในการสื่อสาร”
คุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์วรรณกรรม กล่าวอย่างชัดเจนว่า
“ท่านไม่ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำจนเข้าไม่ถึง แต่ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและสวยงาม ทว่าทรงพลัง เพื่อบอกเล่าความจริงที่ซับซ้อนของชีวิตและสังคมได้อย่างลุ่มลึก”
งานเสวนาครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงนักเขียนระดับตำนาน แต่ยังเป็นการส่งต่อแนวคิด อุดมการณ์ และจิตวิญญาณของศรีบูรพาสู่คนรุ่นใหม่อย่างสง่างาม เพราะบทเรียนจากศรีบูรพาไม่ใช่แค่วรรณกรรม แต่คือบทเรียนของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและกล้าหาญ
Woven Art Bag: ‘กระเป๋าศรีบูรพา’ ผืนผ้าที่ถักทอจิตวิญญาณของนักเขียนผู้เปลี่ยนโลกด้วยปากกา
PASAYA ได้รังสรรค์ Woven Art Bag หรือ ‘กระเป๋าศรีบูรพา’ รุ่นพิเศษขึ้นเพื่อรำลึก 120 ปีศรีบูรพา พร้อมสนับสนุนโครงการ ‘ยังศรีบูรพา’ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์
จุดเด่นของกระเป๋าอยู่ที่การเลือกถ้อยคำจากวรรณกรรมของศรีบูรพามาถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ได้แก่
• “ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน … แต่ฉันก็อิ่มใจว่า ฉันมีคนที่ฉันรัก”
• “แม้เป็นดวงอาทิตย์ไม่ได้ ก็จงเป็นดวงดาวเถิด”
• “ผู้ใดเกิดมาเป็นสุภาพบุรุษ ผู้นั้นเกิดมาสำหรับคนอื่น”
• “สิ่งที่เรียกว่าความรักนั้น ควรจะตั้งต้นจากจุดของการสละให้”
• “ความทุกข์โศกย่อมเป็นครูเรา ดีกว่าความสำราญ”
• “ความยากลำบากย่อมสอนมนุษย์ดีกว่า ความเพลิดเพลินจะพึงสอน”
• “พึงจำกัดความทะนง ด้วยการเพาะความถ่อมตัว”
• “ไม่มีใครจะทำงานสาธารณะหรืองานการเมืองให้สำเร็จได้ ถ้าขาดคุณสมบัติที่จำเป็น คือ...ความไม่เห็นแก่ตัว”
กระเป๋าศรีบูรพา ขนาด M (33 x 31 x 15 ซม.) ราคา 1,400 บาท โดยรายได้ส่วนหนึ่งจำนวน 680 บาทต่อใบ มอบให้โครงการ ‘ยังศรีบูรพา’ (Young Sriburapha) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ที่ร้าน PASAYA ทุกสาขา และทางออนไลน์ www.facebook.com/PASAYA.shop