ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบความคลาสสิคของเมือง มีความสุขทุกครั้งที่ได้พาสองเท้าเหยียบย่างไปตามตรอกแคบๆ ที่ปูด้วยหิน และรื่นใจทุกครั้งที่ได้นั่งละเลียดจิบกาแฟตามคาเฟ่ริมจัตุรัส แสดงว่าคุณเป็นพวกนิยมเมืองเก่าเข้าแล้วล่ะ ทุกวันนี้ในยุโรปมีเมืองเก่าที่น่าเดินเยอะมาก แต่เราเฟ้น 5 เมืองเก่าในยุโรปที่อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป
เมืองเก่าของปรากแห่งสาธารณรัฐเชก เป็นเมืองที่อาจทำให้คุณต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง ‘ความเก่า’ ‘ความสุนทรีย์’ ‘ความงาม’ และ ‘ชีวิตชีวา’ เพราะเมืองเก่าของปรากมีทุกอย่างที่ว่ามา
สำหรับคนเคยไปปรากคงพอจะเดาออกว่าไม่มีมุมไหนของปรากที่น่าปักหลักเท่าเมืองเก่าอีกแล้ว เมืองเก่าในยุโรปอาจจะร่วงโรย เพราะถูกพิษภัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 ชะล้างความงดงามหมดจดไปซะเยอะ
แต่ปรากโชคดี แม้จะเคยถูกฮิตเลอร์นำกองทัพเข้ามารุกราน ขณะที่เมืองอื่นๆ ในยุโรปถูกถล่มอย่างแสนสาหัส แต่อาคารใจกลางปรากกลับแคล้วคลาดจากระเบิดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เลยเหลือความงามเอาไว้อวดชาวโลกจนถึงทุกวันนี้
จัตุรัสกลางเมืองเก่าของเมืองเดรสเดนแห่งเยอรมัน ถูกประดับไว้ด้วยร้านรวงที่มาเปิดท้ายขายของช่วงวันหยุด คาเฟ่ที่อยู่รายรอบจัตุรัส ถูกก้นคนเมืองเบียร์จับจองที่นั่งแน่นไปหมด เดินโต๋เต๋แถวเมืองเก่าคุณจะรู้สึกถึงกลิ่นหอมของความงดงาม เพราะทั่วทั้งเมืองเก่ามีทั้งปราสาท ราชวัง และโบสถ์
ว่ากันว่า ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะระเบิดขึ้น เดรสเดนเป็นเมืองที่ทั้งร่ำรวยที่สุด และสวยงามมาก แต่ถูกพิษภัยของสงครามทำลายล้างไปซะเยอะ แต่พอผ่านการขัดสีฉวีวรรณ และบูรณะชุดใหญ่ หน้าตาของเมืองเก่าเดรสเดนเลยกลับมาไฉไลอีกครั้ง
ถึงลิสบอนจะเป็นเมืองหลวงไซส์เล็กของโปรตุเกส แต่ย่านไบช่าหรือเมืองเก่าของเขาคุณภาพคับแก้ว เพราะมีหลายมุมที่น่ารักน่าชัง และมีชีวิตชีวา ทั้งย่านไบช่า-ชิอาโด, ไบโร-อัลโต, รอสซิโอ และอัลฟามา และมีรถรางโบราณวิ่งผ่าใจกลางเมืองเก่า
แต่ละมุมก็จะคึกคักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แค่สายหน่อยก็มีผู้คนมานั่งแฮงก์เอาท์กันตามคาเฟ่ กินลมชมบรรยากาศกันไปเรื่อย บ่ายๆ ก็จะเริ่มมีการแสดงของพวกนักแสดงเร่ทยอยมาวาดลวดลาย และดัชนีความคึกคักจะค่อยๆ ขยับขึ้นเรื่อยๆ พอราตรีเดินทางมาถึงยิ่งอึกทึกขึ้น นักดนตรีจะเวียนหน้ามาเปิดการแสดงเพื่อแยกเศษเงินยูโรทุกค่ำคืน
นี่แหละเสน่ห์ของเมืองเก่าแห่งลิสบอน
แดดอุ่นอ่อน เสียงหัวเราะ เสียงสนทนาอย่างเอร็ดอร่อย เสียงชนแก้ว เพลงจังหวะบอสซ่าที่ชวนให้เคลิบเคลิ้ม และเครื่องดื่มเย็นๆ ทำให้คาเฟ่ริมน้ำในเมืองลูบเบลียน่าแทบไม่มีเก้าอี้ว่าง ศิลปินหอบผลงานที่ละเลงเอาไว้มาวางขายริมแม่น้ำ จักรยานโฉบเฉี่ยวไปมาบนถนนแคบๆ ร่มไม้ทิ้งตัวลงเรี่ยไร่บนชายน้ำที่ไหลเอื่อยเหมือนคนขี้เกียจ คู่รักโอบไหล่กันอย่างแผ่วเบา
ในอาณาบริเวณของเมืองเก่าของลูเบลียนา มีสถานที่หลายแห่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทาวน์ฮอลล์ โบสถ์เซนต์ นิโคลัส มุมสงบที่ชาวคริสต์แวะเวียนกันมาเป็นระยะ สุดทางของเมืองเก่ามีโบสถ์เซนต์เจมส์ คอยทุกคนอยู่อย่างเปลี่ยวเหงา
แต่หากเทียบทุกโบสถ์ในลูเบลียนา คงไม่มีโบสถ์ไหนน่ามองเท่าสีชมพูสดปลั่งสไตล์อาร์ตนูโวของโบสถ์อันนันชิเอชั่นโบสถ์อายุ 300 กว่าปีแห่งนี้ซ่อนห้องสมุดโบราณเอาไว้ด้วย
ทุกจังหวะ ทุกอริยาบถ ที่อยู่ริมสายน้ำลูเบลียนิกาในเมืองเก่าของลูบเบลียน่า แห่งสโลวีเนียเป็นแบบนั้นจริงๆ เป็นชีวิตที่เบาสบายไร้เรื่องทุกข์ร้อน
ดูบรอฟนิคแห่งโครเอเชียอาจไม่โด่งดังเท่าเวนิส เสน่ห์อาจรุนแรงไม่เท่าฟลอเรนซ์ ความยิ่งใหญ่ถึงจะสู้กรุงโรมไม่ได้ แต่ดูบรอฟนิคจิ้มลิ้ม น่าเอ็นดูเป็นบ้า โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าที่เดินแล้วทำให้นักท่องเที่ยวกลายเป็นพวกแวะกระปริบกระปรอยโดยไม่รู้ตัว เพราะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยมุมน่ารักๆ และสถานที่อันเก่าแก่ กำแพงเมืองโบราณที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
แค่เดินเข้ากำแพงเมืองเก่าเข้ามาก็จะเจอกับลานน้ำพุ โอโนฟริโอ (Onofrio) ตั้งแต่สายไปจรดค่ำรอบๆ ลานน้ำพุจะแน่นขนัดไปด้วยมนุษย์ ละจากลานน้ำพุเป็นถนนคนเดินที่เรียกว่าพลาคา (Placa) ที่มีแต่สองเท้าของนักเดินทางพากันมาเหยียบย่ำบนถนนสายคลาสสิคแห่งนี้ เช้าๆ อาจจะยังว่างโล่ง แต่พอแดดเริ่มทำงานก็ปลุกให้ถนนสายนี้คึกคักไปยันค่ำ
ค่อยๆ เนิบนาบไปในเมืองเก่าแห่งนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าเมืองริมทะเลอะเดรียติกแห่งนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดเมืองคลาสสิคที่น่าทำความรู้จัก
นี่คือ 5 เมืองเก่าแสนคลาสสิคที่ต้องพาสองเท้าไปย่ำดูจะได้รู้ว่าความสุนทรีย์ในเมืองเก่านั้นมีอยู่จริง
Story & Photo by กาญจนา หงษ์ทอง