หากจะมองหาแผ่นดินที่อบอวลไปด้วยวัฒนธรรม และศรัทธาที่หนักแน่นของผู้คน ชื่อของศรีลังกาต้องเป็นหนึ่งในลิสต์ของจุดหมายปลายทางที่คุณกำลังมองหาอยู่แน่นอน ที่นี่มากมายไปด้วยสถานที่และมุมเมืองที่น่าค้นหา บางมุมเป็นโบราณสถาน บางที่เป็นเมืองเก่าแก่ แต่ทุกที่ล้วนมีเสน่ห์และความคลาสสิกรอให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกัน
สิกิริยา (Sigiriya)
หนึ่งในมรดกโลกของศรีลังกา คือสิกิริยา สถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องไต่บันไดราว 1,200 ขั้น เพื่อขึ้นไปชมซากเมืองเก่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของภูเขา
ก่อนจะขึ้นไปถึงซากเมืองเก่า มีหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือภาพเขียนสีเฟรสโก ของเหล่านางอัปสร ที่ส่วนใหญ่จะวาดเพียงครึ่งตัว มีทั้งที่สวมเสื้อและไม่สวมเสื้อ และถือดอกไม้เหมือนกำลังจะไปไหว้พระ ซึ่งเป็นอิริยาบถในชีวิตประจำวันของชาวศรีลังกานั่นเอง
นอกจากนี้ ตรงทางขึ้นเมืองเก่ายังมีหน้าผาเป็นหินสลักเท้าขนาดใหญ่ 2 ข้างของสิงโต ตรงกลางเป็นบันไดทางขึ้นไปสู่ยอดสูงสุดของภูเขาสิกิริยา ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนก็จะเห็นว่ามีคูน้ำล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน และมองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามที่อยู่รอบด้าน
โปโลนนารุวะ (Polonnaruwa)
โปโลนนารุวะคือเมืองประวัติศาสตร์แห่งแรกของศรีลังกาที่ได้ตำแหน่งมรดกโลกเมื่อปี 1982 ที่นี่คือเมืองหลวงแห่งที่สองของศรีลังกา และแน่นอนว่าเมื่อมีป้ายมรดกโลกมาประดับเมือง ที่นี่จึงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว
ไฮไลท์ของโปโลนนารุวะมีหลายโซน เริ่มจากพระราชวังที่แม้วันนี้จะเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง ก็ยังพอจะเห็นเค้าโครงของความงดงามได้ ยังมีศิวะเทวาลัยที่มีอายุราว 800 ปีเศษ ว่ากันว่าสมัยก่อนหากยังสมบูรณ์อยู่จะเห็นฝีมือการแกะสลักหินที่งดงามมากกว่านี้
แต่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ยอมพลาดคือวิหารกัลป์ วิหารหินอายุกว่า 800 ปี ที่สลักบนวิหารหินแกรนิต โดยสลักเป็นพระพุทธรูป 4 องค์เรียงอยู่ในแนวเดียวกัน
องค์แรก เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่นั่งสมาธิ ที่ฐานของพระพุทธรูปสลักเป็นรูปสิงห์ ส่วนองค์ที่สอง เป็นพระพุทธรูปนั่งปางสมาธิ องค์ที่สามเป็นพระพุทธรูปยืนในท่าที่ใช้พระหัตถ์ทั้งสองขึ้นไขว้กันในระดับหน้าอก ส่วนองค์ที่สี่ เป็นพระพุทธรูปนอน ปางปรินิพพานที่มีขนาดใหญ่
แคนดี้ (Kandy)
ในปี 1988 แคนดี้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นอันรู้กันในหมู่นักเดินทางว่า สำหรับชาวพุทธแล้ว แคนดี้คือเมืองที่ควรมาเยือนสักครั้งในชีวิต
ที่นี่เป็นเมืองหลวงสุดท้ายของพระเจ้าแผ่นดินสิงหล ซึ่งมีทั้งโปรตุเกส ดัตช์ และอังกฤษ ต่างเข้ามาหาแคนดี้เพราะอยากจะยึดครองแคนดี้กันทั้งนั้น แต่ในที่สุดอังกฤษก็เป็นฝ่ายยึดครองแคนดี้ได้สำเร็จ
ปัจจุบันแคนดี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชนในศรีลังกาและทั่วโลก เพราะเป็นที่ตั้งของวัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งประดิษฐานพระทนต์ของพระพุทธเจ้า
ดัมบุลลา (Dambulla)
วัดถ้ำดัมบุลลามีดีกรีเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ปี 1991 ที่นี่จึงจัดว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับศรีลังกามาก ทุกวันนี้ชาวศรีลังกาเองก็ยังขึ้นมากราบไหว้พระพุทธรูปในถ้ำเหล่านี้
ด้านในของวัดซ่อนถ้ำเล็กถ้ำน้อยเอาไว้ 5 ถ้ำ ทั้งหมดนี้ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี ซึ่งแต่ละถ้ำนั้นมีทั้งพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่แกะสลักจากหินอ่อน บางถ้ำใหญ่ขนาดมีเจดีย์อยู่ด้านในได้และมีพระพุทธรูปล้อมรอบเจดีย์ รวมถึงมีภาพเขียนบนฝาผนังและตามเพดานถ้ำที่งดงามและเข้มขลังมาก
และเมื่อมาถึงเมืองพุทธทั้งที สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือไปวัด ในกรุงโคลัมโบมีวัดที่น่าไปหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือวัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) วัดที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ว่าศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวศรีลังกานั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาวพม่า
ชาวศรีลังกานั้นทำบุญปฏิบัติธรรมเป็นกิจวัตร ยิ่งถ้าไปตรงช่วงวันพระ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน จะมีแต่คนนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดปฏิบัติธรรมกัน วัดคงคารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่นี่สงบ ขนาดเล็กๆ และไม่อลังการงานสร้างเหมือนบ้านเรา รอบๆ วัดมีคนนำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ไปตั้งเรียงรายอยู่บนกำแพงวัด
โคลัมโบ (Colombo)
ทุกวันนี้โคลัมโบอาจกำลังเร่งพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด บางมุมแน่นไปด้วยตึกสูงระฟ้า หากแต่บางมุมยังคงฉายภาพให้เห็นความสงบงามแห่งดินแดนพุทธศาสนา
ที่นี่เคยเป็นฐานที่มั่นของเจ้าอาณานิคมตะวันตกทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นโปรตุเกส ฮอลแลนด์ หรือว่าอังกฤษ โคลัมโบที่เห็นในวันนี้ จึงไม่เพียงเป็นเมืองหลวงที่มีการจัดวางผังไว้ดีเยี่ยม แต่ยังมีตะกอนและริ้วรอยแห่งอดีตเหลือทิ้งไว้จากผู้ล่า นอกจากสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรมจากซีกโลกตะวันตกที่พบเจอ ตามถนนหนทางในกลางกรุงโคลัมโบ ยังมีรูปปั้นบุคคลสำคัญมากหน้าหลายตาที่มักพบเห็นในยุโรป
นี่คือ 5 มุมในศรีลังกาที่จะทำให้นักเดินทางทุกคนเห็นว่าแผ่นดินที่ไม่เคยแห้งแล้งศรัทธาของผู้คนอยู่กลางมหาสมุทรอินเดียนี่เอง
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง