ถ้าจะมองหาเมืองสุดคูลในอเมริกากลาง เชื่อแน่ว่าแอนติกัว (Antigua) น่าจะเป็นหนึ่งในกัวเตมาลา (Guatemala) ติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน
แอนติกัวเป็นแบบนั้นจริงๆ ทั้งคูล ทั้งเอ็กซอติก ทั้งน่าเที่ยว ทั้งน่าทำความรู้จัก เรียกว่าครบเครื่องเรื่องเสน่ห์จัดจ้าน
เบื้องต้นขอให้ทำความเข้าใจแอนติกัวก่อนว่า ที่นี่ไม่มีแบรนด์เนมให้ช้อปปิ้ง ไม่มีกลิ่นน้ำหอม และศิลปะลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเหมือนบางเมืองในยุโรป
เอาเป็นว่า ถ้าคุณเป็นสาวกลัทธิบูชาแบรนด์เนม หรือเป็นพวกต้องมีแบรนด์เนมประดับเรือนกายเป็นเครื่องรางของขลัง มาที่นี่คุณอาจไม่สนุก เพราะแอนติกัวเป็นดินแดนที่ไม่ได้ถูกประดับไว้ด้วยแบรนด์เนม แต่ถูกประพรมไว้ด้วยบรรยากาศแบบดิบๆ เดิมๆ
มองไปรอบๆ ก็จะเจอแต่พวกกระเป๋าผ้าปัก สร้อยคอทำมือ ผ้าทอมือ ข้าวของแฮนด์เมด อาร์ทๆ เก๋ๆ พาดไว้บนแผงขายของเคลื่อนที่ที่สะกดตามรอยนักท่องเที่ยวไปทุกหนทุกแห่ง
แต่เชื่อเถอะว่า ลองได้รู้จักมักคุ้นกับแอนติกัว เมืองนี้จะทำให้นักเดินทางทุกคนตกหลุมรักอย่างแน่นอน สำหรับนักเดินทางชาวไทย บอกไว้ก่อนเลยว่า คนไทยไปเที่ยวกัวเตมาลา ต้องทำวีซ่า แต่ถ้าใครที่มีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้เลย
จากเมืองกัวเตมาลา ซิตี้มีรถโดยสารไปแอนติกัวออกทั้งวัน ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แต่หากไปหลายคนแชร์ค่ารถแท็กซี่จะสะดวกและรวดเร็วกว่า ค่าแท็กซี่เหมาะประมาณ 30 ดอลลาร์ มาถึงที่นี่แล้ว จะพบว่าไม่ว่าจะซอกแซกไปมุมไหน คุณจะพบว่าแอนติกัวคือเมืองที่โรยไว้ด้วยสีสัน ที่ไม่ใช่พาสเทลซะด้วยสิ แต่บางมุมค่อนไปทางสีเจ็บๆ ฉ่ำๆ สีขาวเป็นของหายากของแอนติกัว ราวกับว่า หากบ้านไหนทาสีขาวจะเป็นเรื่องผิดขนาดคอขาดบาดตาย
นักท่องโลกที่โปรดปรานเมืองประเภทคัลเลอร์ฟูล ซิตี้ อย่างบัลพาไรโซแห่งชิลี ซิงกเว แตร์เรแห่งอิตาลี
และกรานาดาแห่งนิคารากัว เจอแอนติกัวเข้าไปอาจจะเผลอกรี๊ดได้ ข้อหาที่เป็นเมืองอาณานิคมของสเปนมาก่อน แอนติกัวเลยมีมรดกตกทอดเป็นอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโลเนียลกระจายไปทั่วเมือง
ถ้าจะพูดว่า นี่คือ One of The Best Colonial City ของโลกใบนี้ ก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าถนนสายไหนไม่เคยแห้งแล้งนักท่องโลก ถนนปูด้วยหินเป็นร่องเป็นหลุมคือตัวตนของแอนติกัว บางคนบอกว่า แค่พาสองเท้าเดินย่ำไปบนถนนปูด้วยหินก้อนใหญ่ๆ ในแอนติกัวก็สัมผัสได้ถึงความคลาสสิคของเมืองนี้แล้ว
ใครคิดจะเดินซอกแซกในตัวเมืองแอนติกัวเพื่อซึมซับกับบรรยากาศโคโลเนียล ซิตี้แล้วล่ะก็ ไม่มีมุมไหนเหมาะจะใช้ออกสตาร์ทได้ดีเท่าพลาซา มายอร์(Plaza Mayor) อีกแล้ว นี่คือจัตุรัสกลางเมืองที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเมือง
มุมหนึ่งของจัตุรัสคือมหาวิหารประจำเมือง (Antigua's Cathedral) ที่มีมุมสงบเอาไว้ให้คริสตศาสนิกชนทุกคนได้เข้ามาพึ่งพิงในสถานที่ๆ อวลไว้ด้วยศรัทธา
โบสถ์สีขาวแห่งนี้สร้างตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 16 เหตุที่ดูใหม่แบบนี้ เพราะผลพวงจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยครึ่ง ร้ายแรงที่สุดก็เป็นช่วงปี 1773 ซึ่งปีนั้นแอนติกัวทั้งเมืองพังพินาศไม่มีชิ้นดี โบสถ์แห่งนี้ก็ต้องบูรณะกันใหม่อีกรอบ
นักเดินทางที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงแอนติกัว เมื่อเสร็จสิ้นการท่องจัตุรัสมายอร์ มีสถานที่แห่งหนึ่งที่พวกเขาพากันถามหา นั่นคือ ประตูโค้งซานตา คาทาลินา (Santa Catalina Arch) ที่เป็นเหมือนโลโก้ของแอนติกัว หาไม่ยาก หันไปทางทิศเหนือของจัตุรัสมายอร์ เดินไป 3 บล็อก ซุ้มประตูแห่งนี้รอคอยทุกคนอยู่ตรงเกือบสุดถนน เดิมทีประตูนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิหารซานตา คาทาลินา แต่ที่เหลือแค่ซุ้มประตูเพราะถูกแผ่นดินไหวเขย่าเมืองพินาศจนเหลือซุ้มประตูเท่าที่เห็น
มาถึงมุมนี้ ใครๆ ก็มายืนจับซุ้มประตูเข้าเฟรมกันใหญ่ แต่สองฟากฝั่งของถนนละแวกนี้ มีแต่ร้านรวงท่าแวะทั้งสิ้น หากเดินสุดถนนสายนี้ เลี้ยวซ้ายไปนิดเดียว จะเจอโบสถ์งามอีกแห่งหนึ่งของแอนติกัวอย่างลา เมอร์เซ็ด (La Merced) สีเหลืองอร่ามของโบสถ์แห่งนี้สะกดทุกคนให้ยืนนิ่ง ยิ่งใครไปเยือนในช่วงบ่ายที่แดดหวานลงห่มโบสถ์ คุณจะยิ่งพบว่า นี่คือหนึ่งในสถานที่อันงดงามที่ทำให้แอนติกัวถูกยกให้เป็นเมืองมรดกโลก ที่จริง ยังมีโบสถ์ซานฟรานซิสโก(San Francisco el Grande)อีกแห่งหนึ่ง ที่ชาวเมืองบอกว่าเป็นโบสถ์ที่งดงามและเก่าแก่ปักหลักอยู่ใจกลางเมืองแอนติกัว หรือหากใครมีเวลาเหลือเฟือให้แอนติกัว ลองไต่เขาขึ้นไปบนจุดชมวิวที่มิราดอร์ ลา ครูซ(Mirador la Cruz) มุมที่สามารถมองเห็นแอนติกัวในองศาเดียวกับวิหค
และนักช้อปท่านไหนที่อยากสำรวจตลาดของแอนติกัว รอบๆ จัตุรัสจะเป็นแหล่งช้อปชั้นดีที่มีไว้ให้คุณได้เดินสอดส่องและจับจ่ายกัน แต่ถ้ารอบๆ จัตุรัสประจำเมืองยังทำให้คุณช้อปไม่อิ่ม ลองไปที่เมอร์คาโด ตลาดนัดประจำเมือง ที่ใหญ่ขนาดมีทั้งโซนขายข้าวของเครื่องใช้และโซนของที่ระลึก รับรองว่า มาถึงที่นี่ ได้หิ้วอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน
เดินเอ้อระเหยไปให้ทั่วแอนติกัว แล้วคุณจะพบว่านี่คือเมืองหลวงเก่าของกัวเตมาลาที่น่าเพลิดเพลินเจริญอารมณ์อย่างยิ่ง ภัยธรรมชาติทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหว อาจจะถามโถมใส่แอนติกัว แต่แอนติกัวก็ยังหลงเหลือสถาปัตยกรรมอันโบราณคลาสสิคเอาไว้อวดชาวโลก
หากคุณคือนักเดินทางที่ตามล่าเมืองน่าเที่ยวระดับเอลิสต์ของโลก ปักหมุดเมืองแอนติกัวไว้บนแผนที่โลก เพราะนี่คือเมืองที่นักเดินทางผู้รักความดิบๆ เดิมๆ ทุกคนควรพาสองเท้าไปเดินบนถนนปูด้วยหินอันแสนคลาสสิค
แล้วคุณจะรู้ว่า โลกนี้ช่างน่าอยู่เพราะมีเมืองอย่างแอนติกัว
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง