นักเดินทางสายจิวเวลรี่รู้กันดีว่า แอนท์เวิร์ป (Antwerp) คือเมืองที่ถูกยกย่องว่าเป็นเพชรเม็ดงามของแคว้น บางคนอาจจะรู้จักแอนท์เวิร์ปจากคำว่า `เมืองท่า’ แต่ถ้ามาสายเครื่องประดับแล้วล่ะก็ จะรู้กันดีว่าแอนท์เวิร์ปเป็นศูนย์กลางเพชรชั้นนำของโลก ว่ากันว่า เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเพชรในตลาดโลก ผ่านการเจียระไนไปจากที่นี่ ใครมาถึงแอนท์เวิร์ปกันแล้ว จึงมักไปเดินป้วนเปี้ยนสำรวจร้านเพชรแถวสถานีรถไฟกัน แล้วจะพบว่าที่นี่เขาขายเพชรกันเป็นล่ำเป็นสันจริงๆ
แต่ถ้าใครหลงรักกลิ่นหอมๆ ของวาฟเฟิล มีความสุขทุกครั้งที่ช็อกโกแลตนุ่มลิ้นอยู่ในปาก และเพลิดเพลินเจริญใจเสมอที่ได้ลิ้มลองเฟรนช์ฟรายร้อนๆ จิ้มกับมายองเนส ชอบนั่งชิลล์อยู่ตามคาเฟ่ริมจัตุรัสแสนสวยทอดสายตามองทุกอิริยาบถที่เคลื่อนผ่านไปมา ฟังเสียงสนทนา เสียงหัวเราะ และเสียงชนแก้วของผู้คนอย่างไม่นึกเบื่อหน่าย ก็น่าจะหลงรักแอนท์เวิร์ปได้เหมือนกัน
และใครที่มาถึงแอนท์เวิร์ปด้วยรถไฟก็จะพบว่า สถานีรถไฟแห่งนี้อลังการงานสร้างมาก โอ่อ่า และคลาสสิคอย่าบอกใคร ที่นี่จึงเป็นสถานีรถไฟที่ทั้งสวยและทันสมัย แถมมีความโก้ซ่อนไว้ในความใหญ่ ใครผ่านไปผ่านมา เป็นต้องแวะลั่นชัตเตอร์กันจ้าละหวั่น และถ้าจะเดินจากสถานีรถไฟเข้าสู่ใจกลางเมืองเก่าจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็น
ประสาเมืองริมแม่น้ำ แอนท์เวิร์ปอยู่ใกล้แล้วรื่นรมย์ และอบอุ่นเสมอ แอนท์เวิร์ปทอดตัวอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสเกลด์ทจึงเป็นเมืองท่าและเมืองศูนย์กลางทางการค้าและอุตสาหกรรมของยุโรปตะวันตกมาแต่โบราณ แม้กระทั่งทุกวันนี้แอนท์เวิร์ปก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองค้าเพชรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อีกด้านหนึ่งของแอนท์เวิร์ป คือเมืองแฟชั่นชั้นนำแห่งหนึ่งของยุโรป พวกดีไซเนอร์ชื่อดังของยุโรป ต่างๆมาร่ำเรียนวิชาการออกแบบในแอนท์เวิร์ปกันไม่น้อย นั่นทำให้เรื่องแฟชั่นดีไซน์ แอนท์เวิร์ปจึงไม่รองใคร ไม่เชื่อไปใช้ตาพิสูจน์ด้วยตัวเองที่ริมสองฟากฝั่งของถนนแมร์ (Mier)
แมร์เป็นถนนคนเดิน ผู้คนเลยพากันออกมาเดิน สวนกันไปโฉบกันมา ใครที่เคยจินตนาการว่าแอนท์เวิร์ปสวยเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ ดูไปดูมา ไหงเป็นสาวเปรี้ยวไปซะแล้ว ทันสมัยกว่าบรูจเยอะ ไฮโซกว่าบรัสเซลส์หลายช่วงตัว
ถนนแมร์ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมข้างถนนคนเดิน และนักดนตรีเร่ที่เปิดหมวกกันเป็นระยะ
ถึงความใหญ่จะเป็นรองเมืองหลวงอย่างบรัสเซลส์ แต่ชื่อเสียงของแอนท์เวิร์ปก็ติดกลุ่มอยู่ในโผของศูนย์กลางแฟชั่นของโลก สาวๆ ที่สวนไปมาบนถนนแมร์ เลยเหมือนจรดปลายเท้ากันบนแคทวอล์ค แต่ละนางเดิร์นเด้งเหมือนเดินอยู่ปารีส ดัชนีความทันสมัยของแมร์กับชองเอลิเซส์ เลยหายใจรดต้นคอใส่กัน
อย่าแปลกใจ ถ้าเจอคนหนุ่มสาวที่แต่งตัวแปลก แต่ดูดีมีดีไซน์ เพราะเรื่องแฟชั่นดีไซน์แอนท์เวิร์ปก็ไม่น้อยหน้าชาติไหนในยุโรป พวกดีไซเนอร์ชื่อดังของยุโรปก็มาร่ำเรียนกันตามสถาบันออกแบบในแอนท์เวิร์ปกันเยอะ
ผละจากถนนแมร์มาไม่ไกล มาถึงเกรินปลาตส์ (Greonplaats) ที่นี่มีอนุสาวรีย์รูเบนส์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางลานเกรินปลาตส์ เขาเป็นศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของยุโรปในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 แต่นั่นไม่เท่ากับถูกขึ้นทำเนียบว่าเป็นจิตรกรที่ร่ำรวยที่สุดของยุโรป
ลานกว้างแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยร้านอาหาร เลาะตรอกซอกซอยไปบนถนนที่ปูด้วยหินโบราณ และไม่ไกลจากมุมนี้ยังมีมหาวิหารแห่งแอนท์เวิร์ป (Cathedral of our Lady) ที่อวดความงดงามของวิหารแบบโกธิกที่ใหญ่สุดในเบลเยียม
จากด้านหน้ามหาวิหาร เราเดินเลาะเลี้ยวไปตามตรอกหินโบราณ ที่มีแต่คาเฟ่หน้าตาไฉไล ร้านอาหารอันแสนมีชีวิตชีวา แล้วไหนยังจะมีบรรดาร้านขายของที่ระลึกที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ตลอด
ยังมี โกรตมาร์ก (Grote Markt) จัตุรัสแสนสวยแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นวินเทอร์หรือซัมเมอร์ ก็มีแต่ผู้คนพากันมาเดินป้วนเปี้ยน รายรอบโกรตมาร์กเป็นอาคารบ้านเรือนแบบหน้าจั่ว ในชั้นเชิงของสถาปัตยกรรม จัตุรัสของแอนท์เวิร์ปจึงงามไม่ได้น้อยหน้าบรูจหรือบรัสเซลส์
จัตุรัสประจำเมืองแห่งนี้ เหมาะจะรับขวัญคนแปลกหน้าของแอนท์เวิร์ปได้ดีที่สุด นี่คือลานกว้างที่งดงามจนหาที่ติไม่ได้เลยสักนิด มองจากมุมนี้ นอกจากจะเห็นทาวน์ฮอลล์ประจำเมืองแล้ว ยังเห็นมหาวิหารแห่งแอนท์เวิร์ปในมุมสบายคอขึ้น
ตรงกลางลานโกรตมาร์กมีรูปหล่อของบราโบกับยักษ์ ใครไปใครมาเป็นต้องแหงนมองอย่างฉงน หากเป็นช่วงที่ลมหนาวห่มเมือง ตามคาเฟ่อาจจะมีนักท่องเที่ยวมานั่งชิลล์กันบางตากว่านี้ แต่เมื่อถูกลมร้อนปัดเป่า ใครๆ ก็มานั่งเล่นเย็นใจกันตามคาเฟ่ และถ้าใครมองหามุมชิลล์ๆ ของแอนท์เวิร์ปให้เดินไปแถวริมฝั่งแม่น้ำสเกลด์ท แถวนั้นนอกจากจะรื่นรมย์แล้วยังมีปราสาทหิน (Het Steen) ปราสาทยุคกลางที่ปักหลักอยู่ริมน้ำแม้ไม่ได้ใหญ่โตโอ่อ่า แต่ที่นี่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่เว้นแต่ละวัน
คงเป็นเพราะปราสาทแห่งนี้คือสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่สุดในแอนท์เวิร์ป สร้างตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 13 และผ่านการใช้งานมาหลายอย่าง นอกจากจะเป็นป้อมปราการคอยป้องกันการรุกรานของศัตรูแล้ว ยังเคยใช้เป็นคุกขังนักโทษอีกด้วย รวมถึงยังเป็นจุดที่ใช้ควบคุมการจราจรทางน้ำอีกด้วย อย่าลืมว่าในอดีตที่นี่คือเมืองค้าที่เจริญรุ่งเรือง ถึงขนาดว่าเคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของยุโรปตะวันตกในปลายศตวรรษที่ 15
ก็ไม่ต่างจากบรูจ แอนท์เวิร์ปผ่านทั้งเรื่องร้ายและดีมาอย่างโชกโชน แต่ก็มีอยู่ยุคหนึ่งกลายมาเป็นเมืองท่าใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากลอนดอนและนิวยอร์ก จนถึงทุกวันนี้ก็เป็นเมืองท่าใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก
ปัจจุบันที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าอดีตของเมืองได้เป็นอย่างดี และเมื่อมายืนแถวนี้ก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของแอนท์เวิร์ปที่น่ามอง
จะเรียกว่าเป็นมุมสบายของแอนท์เวิร์ปก็ไม่เกินจริงหรอก เพราะแต่ละวันจะมีชาวเมืองมานั่งเล่นกันแถวนี้ บางคนก็มาปั่นจักรยาน บางคนก็มาจ๊อกกิ้งบางคนพาหมาออกมาเดินเล่น อาจเป็นเพราะละแวกนี้ มีบ้านเรือนของชาวแอนท์เวิร์ปกระจายตัวอยู่ พอแดดร่มลมตกก็พากันออกมานั่งเล่นริมแม่น้ำ
แอนท์เวิร์ปยิ่งมีชีวิตชีวาถ้าใครมาตรงกับช่วงศุกร์เสาร์อาทิตย์ เพราะมีตลาดนัดกลางแจ้งเยอะเลย มีทั้งตลาดนัดของเก่าและเฟอร์นิเจอร์เก่า ของโบราณ และพวกต้นไม้ดอกไม้มาขายกันกลางจัตุรัสเลย ยังมีพวกตลาดประมูลข้าวของด้วย เป็นตลาดที่สนุกมาก เพราะใครอยากเอาอะไรที่บ้านมาขายก็มาเปิดประมูลกันได้เลย
แอนท์เวิร์ปเป็นเมืองที่มีไว้ให้ทุกคนมาใช้ชีวิตเอ้อระเหยริมแม่น้ำสเกลด์ท ลองไปใช้ชีวิตแบบนั้นดูบ้าง เนิบนาบอ้อยอิ่ง แล้วจะยิ่งหลงรักแอนท์เวิร์ป
Story & Photo by กาญจนา หงษ์ทอง