เมื่อคืนที่ผ่านมาสาวกของผลิตภัณฑ์ Apple (แอปเปิล) ทั่วโลกคงจะได้ติดตามการถ่ายทอดสดงาน Apple Special Event September 2015 เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple กันไปแล้ว วันนี้ HiSo Tech จึงมารายงานผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวให้ทราบกันอีกรอบ จะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามกันเลยค่ะ
Apple Watch แม้จะยังไม่ได้ออกรุ่นใหม่ แต่ก็ออกสีใหม่มาเอาใจสาวๆ กับสี Rose Gold หรือทองอมชมพู ในรุ่นสปอร์ต พร้อมทั้งยังมีสายหนังดีไซน์พิเศษทำร่วมกับ Hermes เรียกได้ว่าออกมาเพื่อเอาใจสาวๆ อย่างแท้จริง ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของ Apple Watch อยู่แล้วสามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่เป็น WatchOS 2 ได้วันที่ 16 กันยายนนี้
iPad Pro แท็บเล็ตรุ่นท็อปตัวล่าสุดจาก Apple iPad Pro ที่จะเล็งกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้ใช้งานในระดับจริงจังด้วยสเปคที่ดีกว่าเดิม มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2,732×2,048 พิกเซล น้ำหนัก 1.57 ปอนด์ (ประมาณ 700 กรัม) มีความบาง 6.9 มิลลิเมตร ใช้ชิป A9x ที่ CPU เร็วกว่าชิป A8X 1.8 เท่า และกราฟฟิแรงขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง มีลำโพง 4 ตัว กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งรองรับอุปการณ์เสริม Smart Keyboard และ Apple Pencil มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สีคือสีเงิน Silver, สีทอง Gold, สีเทาดำ Space Grey โดยเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้
อุปกรณ์เสริม Smart Keyboard และ Apple Pencil Smart Keyboard สามารถเป็นทั้งเคส และเป็นทั้งคีย์บอร์ดในตัวเดียว วัสดุทำมาจากผ้าทอ ตัวคีย์บอร์ดมีผิวสัมผัสที่ดีเมื่อใช้งาน Apple Pencil สำหรับเขียน/วาดรูปลงบน iPad Pro สไตลัสรูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมกับกลไกภายในที่รับรู้ได้ว่าผู้ใช้งานออกแรงกดที่บริเวณส่วนไหนของด้าม ทำให้เส้นที่ตวัดลงไปบนหน้าจอมีความหนาบางตามส่วนของปลายที่กดไปเหมือนเป็นดินสอจริงๆ
Apple TV มาพร้อมกับตัวเครื่องและระบบแบบใหม่ ตัวเครื่องดีไซน์ใหม่สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ระบบภายในเครื่องเป็น tvOS ที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาใหม่หมด มี App Store สามารถโหลดแอพและเกมเพิ่มได้ ตัวเครื่องมีรีโมทแบบใหม่สามารถสัมผัสได้ มี Accelerometer และ Gyroscope ในตัว สามารถใช้ในการเล่นเกมได้ ทั้งยังสามารถสั่งงาน Siri ผ่านรีโมทได้เลย ซึ่งใช้ในการควบคุมและค้นหารายการหรือแอพที่ต้องการได้
iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มาถึงสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ที่หลายคนรอคอยกันบ้าง คราวนี้มาพร้อมกับสเปคและคุณสมบัติที่อัพเกรดดีขึ้นกว่าเดิม
- หน้าจอขนาด 4.7 นิ้วความละเอียด 1,334 x 750 พิกเซล, 326 ppi (iPhone 6s) หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล, 401 ppi (iPhone 6s Plus)
- ขนาดตัวเครื่อง 138.3 x 1 x 7.1 มม. น้ำหนัก 143 กรัม (iPhone 6s) ขนาดตัวเครื่อง 158.2 x 77.9 x 7.3 มม. น้ำหนัก 192 กรัม (iPhone 6s Plus)
- ตัวเครื่องผลิตจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศและมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม
- หน้าจอรองรับระบบแยกน้ำหนักการสัมผัสเทคโนโลยี 3D Touch สามารถแตะค้างที่ไอคอนหรือข้อความเพื่อดูพรีวิวหรือเข้าถึงทางลัดได้ทันที
- ชิปเซ็ต A9 ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 70%, GPU เร็วขึ้น 90%
- ความจุ 16GB/64GB/128GB
- ระบบปฏิบัติการ iOS 9 เวอร์ชั่นล่าสุด
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID 2nd Gen
- สามารถสั่งงาน Siri ได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะปุ่ม Home หรือเปิดหน้าจอ
- กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2 รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดระดับ 4K (30 fps) รองรับการถ่ายภาพแบบ LIve Photos บันทึกวินาทีก่อนและหลังจะกดชัตเตอร์ทำให้ภาพสามารถเคลื่อนไหวได้
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2 รองรับ Retina Flash ใช้แสงจากหน้าจอแทนแฟลชถ่ายรูปเซลฟี่
- รองรับ 4G LTE-Advanced ความเร็วสูงสุด 300Mbps รองรับ 23 ย่านความถี่ LTE
- รองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac พร้อม MIMO ความเร็วสูงสุด 866Mbps
- รองรับ Bluetooth 2 และ NFC สำหรับ Apple Pay
- มีวางจำหน่ายทั้งหมด 4 สีคือสีเงิน Silver, สีทอง Gold, สีเทาดำ Space Grey, สีทองกุหลาบ Rose Gold
ภาพจาก theverge.com