เมื่อพูดถึงธุรกิจรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร ‘B Autohaus’ คือชื่อที่โดดเด่นในวงการ โดยมี คุณบิ๊ก - อัครวัชร คงสิริกาญจน์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานการให้บริการระดับสูง วันนี้เราจะมาพูดคุยถึงแนวคิดการทำงาน ความท้าทาย และเป้าหมายในอนาคตของเขา
ปัจจุบัน คุณบิ๊กดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท B Autohaus ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์แบบครบวงจร (One-Stop Service) ครอบคลุมทั้งโชว์รูม ศูนย์บริการแบบ Stand Alone ที่มีพื้นที่กว่า 3,000 ตรม. รองรับบริการได้ถึง 50 คันต่อวัน ซ่อมสีและตัวถัง สปารถยนต์ ไปจนถึงการเป็นโบรกเกอร์ประกันภัย โดยมีสโลแกนว่า ‘The 360 Degrees of Auto Services’ และล่าสุด บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการเปิดตัว C-Certified บริการ รับซื้อ ขาย เทิร์น used car ที่เน้นคุณภาพและมาตรฐานระดับสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ B Autohaus
“C Certified Car เกิดจากความต้องการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรครับ ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราซื้อรถใหม่ไป แล้วนำรถคันเก่ามาเทิร์น ซึ่งเรารู้ประวัติของรถเหล่านี้ดี เพราะลูกค้ามักใช้บริการที่ศูนย์ของเราอยู่แล้ว นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้เรามั่นใจในคุณภาพรถก่อนจะนำมาจำหน่ายในตลาดรถยนต์มือสอง” คุณบิ๊กเล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ใหม่
C Certified Car มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด รถทุกคันจะได้รับการตรวจสอบกว่า 150 จุด ครอบคลุมตั้งแต่ประวัติการซ่อมบำรุงจนถึงโครงสร้างตัวถัง เพื่อให้มั่นใจว่ารถที่จำหน่ายออกไปมีคุณภาพเทียบเท่ารถใหม่ นอกจากนี้คุณบิ๊กยังเล่าว่า C Certified เริ่มจากการเป็นเพียงแผนกหนึ่งใน B Autohaus ก่อนที่ธุรกิจจะเติบโตและแยกตัวออกมาเป็นบริษัทใหม่อย่างเต็มตัว “ตอนแรก รถใน C Certified เป็นรถที่ลูกค้าของ B Autohaus เทิร์นเข้ามาทั้งหมด แต่ตอนนี้เราขยายสัดส่วนรถจากแหล่งอื่นๆ แล้ว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรถที่มาจากไหน เราก็ยึดมาตรฐานเดียวกัน คือต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกจุดก่อนนำมาจำหน่ายครับ”
ความท้าทายในการทำงาน
“การดูแลลูกค้าที่ B Autohaus เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเรามีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าแบบ 360 องศา และต้องทำให้ได้อย่างแท้จริง บางคนอาจคิดว่าการซื้อขายรถจบลงเมื่อขับรถออกจากศูนย์แล้ว แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม Luxury ที่ต้องการการบริการและการดูแลอย่างต่อเนื่อง พวกเขามักจะเรียกหาศูนย์บริการอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ความต้องการของลูกค้าคือการได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ ดังนั้น ไม่ว่าคำถามใดๆ ที่ลูกค้าถาม เราก็ต้องตอบให้ได้ทุกเรื่อง ทุกเวลา จนกว่าลูกค้าจะขายรถคันนั้นไป การดูแลหลังการขายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และนี่คือความท้าทายในการทำงานของ B Autohaus เราเล็งเห็นความสำคัญนี้ จึงขยายศูนย์บริการแบบ STAND ALONE ออกมาเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร”
หลักการทำงาน
“หลักการทำงานของผมมีหลายอย่าง แต่ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความมั่นคง ผมมักจะบอกกับคนในบริษัทเวลาประชุมกันว่า เราต้องเน้นความมั่นคงของบริษัท อาจจะไม่ต้องหวือหวา แต่ต้องมั่นคง ในตลาดทุกวันนี้ คู่แข่งเยอะและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราเห็นคนมาแล้วก็ไปเสมอ ดังนั้นเราต้องอยู่ในตลาดให้นานและยั่งยืน นี่แหละสำคัญกว่าการกระโดดไปมา ตอนเราขายรถ เราก็ให้ Warranty ดูแลลูกค้าสองถึงสี่ปี อย่างน้อยลูกค้าก็จะรู้สึกอุ่นใจว่าเราจะอยู่เคียงข้างเขาในระยะยาว ไม่ใช่แค่ช่วงสั้นๆ”
วิธีแก้ปัญหา
“เวลาเจอปัญหา สิ่งหนึ่งที่เราคุยกันที่บริษัทตลอดคือเราต้องสู้และให้กำลังใจตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องมีใจที่จริงใจและไม่ย่อท้อต่อการแก้ปัญหา สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะไม่มีใครให้กำลังใจเราได้ดีเท่ากับตัวเราเองและคนในทีมที่ทำงานร่วมกัน หากเรารอด เราก็รอดกันหมด แต่หากเราไม่รอด เราก็ไม่รอดกันเลย การทำงานเป็นทีมมีความสำคัญมาก เพราะไม่มีทางที่เราจะทำทุกอย่างเองได้ตลอดเวลาครับ”
แรงบันดาลใจ
“พนักงานของเราคือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราต้องลุกขึ้นมาสู้ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต เช่น โควิด เราต้องเป็นที่พึ่งให้พวกเขาและครอบครัว ผมรู้สึกว่าผมมีหน้าที่ในการทำให้บริษัทไปต่อได้ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับทุกคน”
Work-Life Balance
“ทุกวันนี้งานยังเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตของผม แต่ผมเริ่มแบ่งเวลาให้เรื่องอื่นมากขึ้นแม้ว่าตอนนี้อาจยังไม่มี Work-Life Balance ที่สมบูรณ์ แต่ก็หวังว่าสักวันจะทำได้”
เป้าหมายในอนาคต
“ในวันนี้ B Autohaus เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมสร้างมาตรฐานการบริการที่ดีและยั่งยืน ซึ่งผมเชื่อว่าลูกค้าต้องการบริษัทที่มั่นคง เราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่พวกเขามอบให้เรา”
My Strength พลังบวกในตัวเอง
“ผมเป็นคนที่ชอบให้กำลังใจตัวเอง คิดบวก และมีพลังในการต่อสู้ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรหรือเรื่องอะไรก็ตามในการทำงาน ผมจะมีแรงผลักดันตลอดเวลา ซึ่งเมื่อผู้นำองค์กรมีพลัง พลังนี้สามารถส่งต่อไปยังคนอื่นๆ ในองค์กรได้ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนมีวัฒนธรรมเดียวกันในการส่งต่อพลังให้กับคนที่ทำงานอยู่หน้างาน ซึ่งถือว่าสำคัญมากนะครับ”
B Autohaus ภายใต้การนำของคุณบิ๊ก คือธุรกิจที่ไม่เพียงแค่มุ่งเน้นการเติบโต แต่ยังใส่ใจในมาตรฐานและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างแท้จริง ความมุ่งมั่นในงาน บวกกับแนวคิดการทำงานที่ชัดเจน ทำให้ B Autohaus เป็นตัวเลือกแรกสำหรับลูกค้าหลายๆ คน ที่ต้องการบริการที่ครบวงจรและเชื่อถือได้
Author By : Arunlak