counters
hisoparty

Balance of Time: คริส จาติกรัตน์

1 day ago

คริส จาติกรัตน์

          กว่า 20 ปีที่ Cortina Watch (ประเทศไทย) ได้ทำหน้าที่เป็นประตูบานสำคัญที่พาผลงานเรือนเวลาจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกเข้ามาสู่เมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น Patek Philippe, Rolex, Cartier, Breguet, Franck Muller และอีกมากมาย ชื่อของ คุณคริส จาติกรัตน์ กรรมการผู้จัดการ จึงเป็นที่รู้จักในฐานะนักบริหารที่มุ่งมั่นและตั้งใจพาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง
          เส้นทางของเขาไม่ได้สะท้อนเพียงภาพของผู้บริหารที่ทุ่มเทกับการทำงานเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นวิธีคิดที่ชัดเจนในการวางเป้าหมาย การบริหารทีมงาน และการสร้างสมดุลกับชีวิตครอบครัว ภายใต้เวลาที่ถูกใช้ไปอย่างมีคุณค่าในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเชิงธุรกิจที่สำคัญ การใช้เวลาร่วมกับลูกๆ และการเก็บเกี่ยวความสุขจากสิ่งที่รัก

คริส จาติกรัตน์

บทบาทและการทำงาน
          คุณคริสเล่าถึงหน้าที่ของตนว่า “ผมเป็น Managing Director ของบริษัท คอร์ติน่า วอทช์ (ประเทศไทย) ผู้นำเข้านาฬิกาแบรนด์เนมระดับโลก เช่น Patek Philippe, Rolex, Cartier, Breguet, Franck Muller และอีกหลายแบรนด์ครับ ปีนี้เรามีแผนจะเปิดสาขาใหม่ที่ One Bangkok ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นดูเพล็กซ์ของ Patek Philippe และ Rolex แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัท”
          การเติบโตที่ยั่งยืนตลอดสองทศวรรษสะท้อนให้เห็นถึงหลักการทำงานที่เขายึดถือเสมอ “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ผมต้องขอบคุณทีมงานที่ร่วมเดินทางมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2004 สิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดคือการให้อิสระแก่พนักงานในการคิดและตัดสินใจ ผมเชื่อว่าในธุรกิจไม่มีคำว่าถูกหรือผิด แต่ต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกคนเดินไปด้วยกันได้”
          และหัวใจของการบริหาร คือการวางเป้าหมายให้ชัดเจน “ผมต้องรู้ว่าบริษัทอยู่ตรงไหน และจะพาไปถึงจุดไหน จากนั้นจึงเซ็ตเป้าหมาย วางแผน และกำหนดทิศทางที่ชัด เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานไปในทิศทางเดียวกันครับ”

ไลฟ์สไตล์และความหลงใหล
          ในยามที่ไม่ได้อยู่ในบทบาทนักบริหาร คุณคริสเลือกใช้เวลาอย่างเรียบง่ายกับครอบครัวที่ประกอบด้วยภรรยา คุณน้ำผึ้ง (คุณเกศริน จาติกรัตน์) และลูกสองคน น้องแคลร์ (ด.ญ.ครินดา จาติกรัตน์) และน้องครูซ (ด.ช.พศทรรศน์ จาติกรัตน์) “เวลาที่ไม่ได้ทำงาน ผมก็อยากอยู่บ้าน ใช้เวลากับพวกเขาให้มากที่สุด” สำหรับเขา ความสุขไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่ได้อยู่พร้อมหน้ากับคนที่รักก็เพียงพอแล้ว
          อีกหนึ่งแพสชันที่เติมเต็มชีวิตคือการได้สัมผัสเสน่ห์ของซูเปอร์คาร์ “ผมขับซูเปอร์คาร์มาหลายยี่ห้อ แต่ Ferrari มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งเสียงเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง การออกตัว การเข้าโค้ง ทุกอย่างให้ความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ” รถสำหรับเขาจึงไม่ใช่เพียงยานพาหนะ แต่คือประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกถึงพลัง ความแม่นยำ และความงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
          และสิ่งที่อยู่เคียงข้างเขามายาวนานที่สุดคือการสะสมนาฬิกา “ผมเริ่มสะสมนาฬิกาตั้งแต่เด็ก เรือนแรกคุณพ่อซื้อให้เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย ตั้งแต่นั้นมา ทุกเรือนที่ได้มาจะไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่เป็นความทรงจำ เวลาหยิบขึ้นมาดูก็จะนึกถึงเหตุการณ์หรือความรู้สึกในวันนั้นๆ ได้เสมอ” สำหรับคุณคริส นาฬิกาแต่ละเรือนจึงเสมือนบันทึกชีวิต ที่บอกเล่าเรื่องราวและช่วงเวลาสำคัญในแบบที่ไม่มีอะไรมาแทนได้

คริส จาติกรัตน์

ครอบครัวและบทบาทคุณพ่อ
          แม้งานจะหนักเพียงใด แต่ครอบครัวยังคงเป็นศูนย์กลางที่คุณคริสให้ความสำคัญที่สุด “ผมต้องขอบคุณภรรยา คุณน้ำผึ้ง ที่ช่วยดูแลครอบครัว เพราะผมทำงานตั้งแต่เช้าถึงค่ำ หลายครั้งกลับบ้านลูกก็หลับแล้ว เวลาที่มีจริงๆ คือช่วงวันเสาร์–อาทิตย์ที่พยายามอยู่กับลูกให้มากที่สุด” เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าบทบาทของการเป็นพ่อไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อควบคู่ไปกับการเป็นผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบหลายด้าน แต่สิ่งที่ทำให้เขามั่นใจและก้าวต่อไปได้อย่างเต็มที่ ก็คือการมีภรรยาที่แข็งแรงคอยเป็นหลักให้ครอบครัว
          สำหรับคุณคริส ความสุขของการเป็นพ่อไม่ได้อยู่ที่การพาลูกๆ ไปทำกิจกรรมใหญ่โต แต่คือการใช้เวลาร่วมกันอย่างแท้จริงโดยไม่มีสิ่งอื่นเข้ามาแทรก “เวลาที่อยู่กับลูก ผมพยายามไม่เล่นโทรศัพท์ อยู่กับเขาเต็มที่ ไม่ว่าลูกอยากทำอะไรหรือไปที่ไหน ผมก็จะไปกับเขา เพื่อให้เขารู้ว่าผมอยู่ตรงนั้นจริงๆ” ช่วงเวลาเหล่านี้อาจดูเรียบง่าย แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างความทรงจำและความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกได้มากที่สุด
          และสิ่งที่เขาอยากส่งต่อให้ลูกๆ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงความรักหรือการดูแล แต่คือทักษะการคิดและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล “เวลาผมตัดสินใจ ผมมักจะบอกลูกว่าเหตุผลคืออะไร และเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจเอง ผมก็อยากฟังเหตุผลของเขา เพราะเมื่อเขาต้องอยู่ด้วยตัวเอง เหตุผลนี่แหละที่จะพาเขาไปต่อได้” สำหรับคุณคริส การสอนลูกไม่ใช่การบอกให้ทำตาม แต่คือการเปิดโอกาสให้เรียนรู้จากการตัดสินใจของตนเอง เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

คริส จาติกรัตน์

มุมมองชีวิตและอนาคต
          สำหรับอนาคต ทั้งในแง่ธุรกิจและครอบครัว คุณคริสมีภาพที่ชัดเจน เขามองว่าธุรกิจต้องเดินหน้าอย่างมั่นคงและเป็นชื่อแรกที่ผู้คนนึกถึงเมื่อพูดถึงนาฬิกา “ผมอยากให้คนคิดถึงนาฬิกาแล้วนึกถึง Cortina Watch” วิสัยทัศน์นี้ไม่เพียงเป็นเป้าหมายทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการสืบต่อคุณค่าที่เขาได้วางรากฐานไว้ตั้งแต่เริ่มต้น
          ในอีกด้านหนึ่งของชีวิต เขาให้ความสำคัญกับการเติบโตของลูกๆ อย่างอิสระ “ผมอยากให้ลูกเติบโตในเส้นทางของเขาเอง ไม่บังคับว่าจะต้องเป็นอะไร แต่อยากสนับสนุนให้ทำในสิ่งที่เขารัก” สำหรับเขา การเลี้ยงดูลูกไม่ได้หมายถึงการวางกรอบที่เข้มงวด แต่คือการสร้างพื้นที่ให้ลูกได้เรียนรู้ คิด และตัดสินใจด้วยตัวเอง
          เมื่อพูดถึงความหมายของความสำเร็จ เขาย้ำชัดเจนว่ามิใช่เพียงเรื่องธุรกิจหรือชื่อเสียง “ความสำเร็จของผมคือการได้อยู่กับครอบครัวและมีความสบายใจ ทุกสิ่งที่ผมทำในวันนี้ก็เพื่อครอบครัวและอนาคตของลูกๆ”

          การได้พูดคุยกับ คุณคริส จาติกรัตน์ ทำให้เราเห็นภาพของผู้บริหารที่ไม่เพียงแต่ทุ่มเทให้กับการขับเคลื่อนธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัว และใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับสิ่งที่รัก ทุกบทบาทล้วนเชื่อมโยงด้วยการจัดสรรเวลาอย่างมีคุณค่า ซึ่งทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเปี่ยมด้วยความหมาย...

“ความสำเร็จของผมคือการได้อยู่กับครอบครัวและมีความสบายใจ ทุกสิ่งที่ผมทำในวันนี้ก็เพื่อครอบครัวและอนาคตของลูกๆ”

คริส จาติกรัตน์

Photo By : Prayuth
Author By : Arunlak

SHARE