ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความสวยความงาม มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น ‘เมกา เทรนด์’ กระแสใหญ่ระดับโลก โดยเฉพาะกลุ่มตลาดค้าปลีกมัลติแบรนด์นั้น เรียกได้ว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร ซึ่ง ‘BEAUTRIUM’ (บิวเทรี่ยม) คือหนึ่งในผู้ท้าชิงที่ฉายแววโดดเด่นน่าจับตามอง คอลัมน์ Celebrity in Focus ครั้งนี้ เราจึงได้เชื้อเชิญ คุณบอย – จิรวุฒิ และ คุณแจ็ค - อติโรจน์ โรจน์รัตนวลี สองพี่น้องผู้บริหารอาณาจักรศูนย์รวมความงามแบบครบวงจรแห่งนี้ มาร่วมพูดคุยพร้อมเผยถึงเรื่องราวการทำงาน เพื่อให้คุณได้รู้จักกับพวกเขาและความเป็น ‘บิวเทรี่ยม’ มากยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
คุณแจ็ค: ย้อนกลับไปประมาณ 5 - 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรามองว่าในเมืองไทยยังไม่ค่อยมีคอนเซ็ปต์สโตร์ด้านความงามที่เป็นมัลติแบรนด์ลักษณะนี้เท่าไหร่ เราจึงอยากเป็นคนรวบรวมสินค้าเหล่านี้ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและเป็นตัวแทนช่วยซัพพอร์ทแบรนด์ต่างๆ ทั้งในเรื่องของการมีหน้าร้าน การโปรโมท ฯลฯ ทางพี่ชาย (คุณบอย) จึงเป็นคนเริ่มโปรเจ็ทค์นี้ก่อน โดยจะดูเรื่องการบริหาร บัญชี ภาพรวมต่างๆ ส่วนผมก็เข้ามาช่วยในด้านดีไซน์ ช่วยดูเรื่องมาร์เก็ตติ้งครับ
หลักในการทำงาน
คุณบอย: ด้วยความที่เป็นพี่น้องกัน เวลาทำงานเราก็ต้องใช้เหตุผลคุยกันให้ครบทุกด้าน ไม่ใช่ตัดสินใจแค่เพียงด้านเดียว แล้วก็ต้องแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนว่าใครทำอะไร ถ้าต้องตัดสินใจร่วมกันก็มาคุยกัน แต่ถ้าอันไหนที่ตัดสินใจเองได้ก็ทำไปเลยครับ เพราะการตัดสินใจบางเรื่องมันต้องรวดเร็ว
วิธีรับมือกับปัญหาและอุปสรรค
คุณบอย: ต้องอดทนแล้วก็คิดให้รอบคอบครับ คอยมองหาโอกาสและอะไรใหม่ๆ เข้ามาเสริมแทน ลองปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ พีอาร์ แนวคิดในการทำการตลาด คือก็ต้องปรับตัวตลอด ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เพราะธุรกิจมันอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องไปให้เร็วกว่าและต้องไม่ซ้ำใครครับ
นิยามความเป็น Beautrium
คุณแจ็ค: ‘บิวเทรี่ยม’ เปรียบเสมือนเพื่อนที่ดีของสาวๆ ที่คอยให้คำแนะนำ ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การสร้างเสริมบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเอง รวมถึงเรื่องความสวยความงามทั้งหมด เพราะเรามองว่าเราคือ ‘เพื่อน’ ของทุกคนมากกว่าการเป็นร้านค้า ซึ่งทางผมและคุณบอยก็ใช้แนวคิดนี้ในองค์รวมด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารงาน การพูดคุยกับซัพพลายเออร์ทุกแบรนด์ คือเรามองว่าเขาเป็นพาร์ทเนอร์มากกว่าคู่ค้า โดยโปรดักท์ทุกประเภทที่คัดสรรมาวางจำหน่าย เราจะให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพและมาตรฐานมากที่สุด รองลงมาคือเป็นไอเท็มที่ตลาดกำลังต้องการและตรงกับคอนเซ็ปต์ของเรา ส่วนเรื่องของราคาต้องอยู่ในระดับที่ลูกค้าทุกคนสามารถจับต้องได้
ก้าวต่อไปของ Beautrium
คุณบอย: ผมมองว่าเรายังต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างให้เข้าที่ เพราะตอนนี้เหมือนเราเดินมาถึง 3 ใน 4 ของภูเขา ถ้าเดินต่อไปอีก อาจจะทำให้เห็นภาพอะไรที่มันชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเป้าหมายของผมคือการเป็นมัลติแบรนด์อันดับ 1 ของประเทศไทย คือถ้าคิดถึงเรื่องความสวยความงาม เครื่องสำอาง ต้องนึกถึงบิวเทรี่ยม ซึ่งนอกจากการขยายสาขาในประเทศแล้ว ภายใน 3 – 4 ปี ผมมีแพลนที่จะนำแบรนด์ไทยไปเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เหมือนที่เมืองนอกเข้ามาทำในบ้านเรา อยากโชว์ศักยภาพให้ทุกคนเห็นว่ามัลติแบรนด์หรือรีเทลที่เกี่ยวกับ Healthy and Beauty ลักษณะนี้คนไทยก็ทำได้ครับ
คุณแจ็ค: ณ ตอนนี้เรามี 3 สาขานะครับ คือที่สยามสแควร์ ซีคอนบางแคและก็ที่ G Tower พระราม 9 แล้วยังมีแพลนที่จะเปิดสาขาใหม่ทั้งในปีนี้และปีหน้าด้วย ซึ่งในแง่ของการสร้างแบรนด์และการทำการตลาด ผมมองถึงเรื่องของความยั่งยืน คืออยากให้คนรู้สึกดีกับเราไปตลอด โดยทางเราก็อยากทำอะไรหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดสิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการใช้ชีวิต การสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ คือในระยะยาวเราก็มีแพลนตอบแทนให้กับสังคมด้วยครับ
My Work is My Life
คุณแจ็ค: สำหรับผมคือการบาลานซ์ในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวให้สมดุลครับ เพราะมันจะส่งผลในแง่ของความสุขและสุขภาพจิตของเรา คือต้องเล่นบ้าง ทำงานบ้าง ทั้ง Play hard แล้วก็ Work Hard ด้วย
คุณบอย: ในส่วนของผมคือต้องทำในสิ่งที่ตัวเองรักหรือชอบครับ อย่างถ้าถามว่าด้านรีเทลแบบนี้ผมชอบมั้ย ผมก็จะเลือกทำในพาร์ทที่ชอบเป็นหลัก แต่เราต้องทำได้หมด เพราะพื้นฐานธุรกิจมันก็จะเหมือนกัน ส่วนไหนที่ไม่ถนัดเราก็ต้องให้คนอื่นที่เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ทำแทน
Author By : Daruwan.C