counters
hisoparty

Beauty and the Gems

6 months ago

          พบกันอีกครั้งกับความพิเศษที่มาพร้อมความสง่างาม ที่ถูกถ่ายทอดผ่านแฟชั่นเซ็ตปก ในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก คุณบิ๋ง-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี สุภาพสตรีคนเก่ง ที่มีใบหน้าสวย ดวงตาเป็นประกาย ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโนมอเตอร์ จำกัด (Ferrari Cavallino Motors) ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

          “ถ้านับตั้งแต่ HiSoParty เปิดเล่มนิตยสาร ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่มีโอกาสได้ลงภาพบนแฟชั่นปกค่ะ และถือเป็นครั้งที่สองที่ได้ถ่ายคู่กับเครื่องประดับ Beauty Gems แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกนะคะที่มีโอกาสลงเดี่ยวค่ะ สำหรับความรู้สึกที่ได้ร่วมงาน อันที่จริงเราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าตั้งแต่หนแรกที่ถ่ายจนถึงวันนี้เราได้เห็นศักยภาพของทีมงาน Professional ขึ้นมากในแง่ของ Styling ซึ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นนางแบบมืออาชีพ ส่วนที่เหมือนเดิมคือยังคงความเก๋ไก๋อยู่เสมอ ซึ่งครั้งนี้รู้สึกสนุกสนานค่ะ ถึงจะถ่ายกันหลายชุด แต่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก” นอกจากภาพสวยงามบนแฟชั่นเซ็ตปกแล้ว ครั้งนี้ คุณบิ๋ง ยังมาอัพเดทในเรื่องของการทำงานและได้มาแชร์เคล็ดลับในการดูแลตัวเองทั้งภายนอกรวมไปถึงภายในจิตใจอีกด้วย..

          “สำหรับปีนี้ Ferrari Cavallino Motors ครบรอบปีที่ 14 ค่ะ ถือเป็นอีกปีที่จะเป็นอีกก้าวที่เราได้ปรับโฉมโชว์รูม ซึ่งจะปรับทุก 5 ปี และจะปรับใหญ่ทุก 10 ปี เพื่อจะทำให้ศูนย์บริการเราครบวงจรขึ้น น่าจะได้เปิดตัวราวๆ ปีหน้า เพื่อเป็นการดูแลรถ Ferrari ของลูกค้าเราให้ดีที่สุดในทุกๆ มุม ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมบำรุง อู่สี หรือฝากขายมือสอง ก็จะเป็นอะไรที่ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งจริงๆ เราพยายามจะมีโปรเจกต์ต่างๆ อยู่ตลอด เพราะว่าเราทำธุรกิจนี้ด้วย Passion จึงตั้งใจทำให้ทุกมุมออกมาดีที่สุด จุดประสงค์ของเราคือเน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณในแง่ธุรกิจ เราคิดว่าวันนี้ที่ขยายธุรกิจเพราะเรามีความตั้งใจที่จะเติบโตขึ้น ซึ่ง ณ วันนี้เราก็เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค แต่เรายังต้องการที่จะพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพื่อให้มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือเป็นที่ Recognize ในประเทศอิตาลี ฝั่งโรงงานของ Ferrari ซึ่งในมุมนั้นเรามองได้ว่าทำได้สำเร็จจากการการันตีในปี 2015 ที่ได้รับรางวัลระดับโลกและอีกหลายรางวัลระดับภูมิภาคจาก Ferrari SpA แต่ว่าหลังจากนี้ก็คิดว่าในช่วงถัดไป ด้วยความที่เราโตขึ้น มีฐานลูกค้ามากขึ้น เราจึงปรับเน้นเรื่องการบริการและคุณภาพ เพราะสิ่งสำคัญคือการที่ลูกค้ากลับมาหาเราเรื่อยๆ สร้าง Loyalty และเรียกว่าเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกันและกัน อันนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่สำคัญค่ะ

          “ถ้าถามในเรื่องชีวิตส่วนตัว จริงๆ ทุกวันนี้ค่อนข้างจะต้อง Balance ทุกอย่างเช่นกันค่ะ เนื่องจากว่าลูกๆ เริ่มโต กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นเต็มตัว ซึ่งตอนนี้ลูกแฝดอายุ 17 กันแล้ว เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้แบ่งเวลาให้ทุกเรื่องเท่าๆ กัน อย่างเช่น เวลาที่เราต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็ต้องสามารถอนุมัติทุกอย่างได้ ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราได้มีการปรับระบบให้มีการจัดการง่ายขึ้น โดยใส่ทุกอย่างเข้าไปในออนไลน์ ตั้งแต่เอกสารไปจนถึงการจ่ายเงิน ทำให้เรามีความคล่องตัวมากขึ้นในแง่ธุรกิจ และยังสามารถใช้เวลาส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน เพราะอย่างที่ทุกคนคนทราบดีว่าปัจจุบันทุกอย่างเกิดขึ้นบนมือถือ เราสามารถทำงานได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก และด้วยความที่เราทำงานกับองค์กรต่างประเทศด้วย ก็จะมีการเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นมันจึงทำให้เราสามารถจัดการสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ดีที่ได้จากสถานการณ์นั้นเพราะเราปรับตัวทันทีค่ะ”

YOUR WELLNESS
          “ดูแลทุกอย่างเลยค่ะ เพราะว่าอายุเราไม่น้อยแล้ว คือหนึ่งเลย ออกกำลังกายทุกสัปดาห์ ตอนนี้เน้นเวทเทรนนิ่ง โยคะ พยายามสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อที่จะให้กล้ามเนื้อมารับน้ำหนัก รับกระดูกเราทุกอย่าง เราจะได้ตัวตรงอยู่เสมอ เพราะคนที่อายุมากขึ้น จะทำให้ตัวโค้งงอ เริ่มเสียบุคลิก รวมถึงความเสื่อมของกระดูก เราต้องดูแลให้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน ข้อสองคือ วิตามิน ทั้งทาน ทั้งดริปทุกอย่าง ก่อนเดินทางไปต่างประเทศจะดริปวิตามินทุกครั้ง ซึ่งนอกจากดริปแล้วยังทานด้วยทั้งเช้าและเย็น เพราะในแต่ละวันเราไม่สามารถทานอาหารครบตามที่ร่างกายต้องการ หรือแม้แต่เวลาที่อาหารย่อยไป บางทีอาจจะย่อยสลายไปด้วย ซึ่งเรายังคงรักษารูปร่างเราให้เสื่อมลงน้อยที่สุด ในเรื่องการรับประทานอาหารก็เริ่มค่อนข้างที่จะระวัง เช่น นานๆ ทีทานเค้ก จะเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญอันนี้ไม่มีข้ออ้างได้เลยคือต้องดูแลผิวพรรณ เมืองไทยมีคลินิกหมอเก่งๆหลายที่ บิ๋งก็มีไปหาคุณหมอให้ดูแลผิวพรรณของใบหน้า ด้วยความที่เราต้องพบปะผู้คน ลูกค้า ครอบครัว ที่สำคัญสามีเจอเราคนแรกก็ต้องอยากตื่นมาเจอเรามีหน้าตาสดใสอยู่เสมอ ต้องบอกว่าเรื่องการดูแลตัวเองยังไงก็ไม่ละเว้น ไม่ว่าจะทำงานทุกวันยังไง จะต้องแบ่งเวลาทุกสัปดาห์ไปดูแลตัวเอง ทั้งนัดคุณหมอ นัดเทรนเนอร์ นัดนักกายภาพ จะเป็นนัดที่เราไม่ค่อยพลาด พอเราทำทุกอย่างได้อย่างที่เราตั้งใจ ทำให้มีพลัง มีความสดชื่นที่จะทำงานต่อ และอีกจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ Mindset เพราะไม่ว่าภายนอกจะมีหน้า ผิว หุ่นที่ดีอย่างไร แต่หากเรามีความคิด Negative มันก็ทำให้ดึงคนรอบข้างแย่ลงไปด้วย ถ้าหากเราเป็นคนที่มีความสุข ร่าเริง คิดบวก มันจะทำให้เรามีพลังที่จะแผ่ไปยังคนรอบข้างและไปยังการใช้ชีวิต เพราะจริงๆ การใช้ชีวิตของเรามันเกี่ยวกับความคิด ไม่ว่าจะสุข จะทุกข์ มันอยู่ที่ความคิดเราเลย เช่น เราเจออุปสรรค เจอปัญหา บางทีมันเกิดขึ้นเพื่อที่จะทำให้เราต้องปรับอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะองค์กร ระบบ ซึ่งหากเป็นสิ่งที่นำพาไปสู่ยุคที่ดีขึ้น เราถือว่ามันคือการเรียนรู้ ที่เราจะต้องเก่งขึ้น จุดนี้เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่เราเองก็นำไปสอนลูกด้วย เพราะบางทีอุปสรรคมันมาเพื่อให้เราต่อสู้ ให้เราก้าวกระโดด ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ซึ่งในชีวิตเราต้องเจออุปสรรคเจอปัญหาบ้าง มันไม่ได้ราบรื่นทั้งหมด แต่ถ้าเราปรับความคิดได้ เราจะนอนหลับได้ทุกวัน ไม่ต้องคิดโทษใคร ไม่ต้องโทษตัวเอง หรือโทษเหตุการณ์รอบข้าง มันก็จะทำให้เราเหมือนมีพลังบวกมากขึ้นค่ะ

          “ส่วนสุดท้ายที่ทำอยู่สม่ำเสมอคือการทำบุญ สวดมนต์ทุกวัน จะแบ่งเวลาไปทำบุญไม่ว่าจะทำที่วัดหรือทำตามมูลนิธิเด็กพิการ เด็กกำพร้า และจะพาลูกไปทุกปี ซึ่งทั้งคู่จะชอบทำบุญกับเด็กพิการซ้ำซ้อน สถานที่ที่ลูกชายชอบไปจะมีที่คามิลเลียน โฮม เวลาที่ไปแจกของ ไปแจกอาหาร เราก็จะให้ลูกนึกนะ ว่าเรา Privilege เกิดมาครบ 32 ประการ ให้ลูกได้ข้อคิด แต่พอเราไปเห็น ถึงแม้บางคนจะนั่งรถเข็น บางคนจะตาบอด แต่ว่าวาดรูปได้สวยมาก ทุกๆ ปีที่เราไป จะอุดหนุน Painting ของน้องๆ ที่พิการเสมอ เราประทับใจ เพราะน้องๆ เขาสู้ชีวิตกันมาก แม้ในขณะที่ชีวิตเขาไม่ได้สมบูรณ์ แต่มันก็สะท้อนถึงชีวิตที่เกิดมาวันนี้ในครอบครัวที่อบอุ่นและมีครบสมบูรณ์มีทุกอย่างที่ต้องการ เราก็ต้องทำชีวิตนี้ให้มันดีที่สุด ทำให้ทุกวันมันมีคุณค่า ซึ่งจุดนี้เป็น Role model ของเราที่ตั้งใจสอนลูกให้มีความคิดที่ดี แล้วก็มีพลังที่จะสู้กับชีวิต เพราะเราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตเขาจะเจอปัญหาอะไร ความผิดหวังอะไร เพราะมันต้องมีเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งถ้าในอนาคตเขาเจอแบบนี้ๆ มันก็จะปรับความคิดที่มันจะฝ่าอุปสรรคไปได้ และจะทำให้ชีวิตมีความสุขค่ะ”

MOTTO
          “ชีวิตของเรามันคือวันนี้ ไม่ใช่อดีต และไม่ใช่อนาคต” บางคนกังวลเรื่องอนาคต หรือบางคนมัวแต่ยึดติดกับอดีต แล้วมัน Move on ไม่ได้ คืออย่างเราตื่นมา เราก็รู้สึกว่าเรา Blessings ว่ายังมีชีวิตอยู่ เพราะใจเรา ตั้งใจที่จะอยู่กับลูกไปยาวๆ ไม่ใช่แค่เรียนจบปริญญา อยากจะเห็นลูกแต่งงานและเราได้เลี้ยงหลานด้วย นี่คือเป้าหมายที่สำคัญในชีวิต ฉะนั้นพอเราตื่นมาเราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด และมีความสุขที่สุดในทุกวันค่ะ”

Photo By : Prayuth
Author By : Aunnkanta.C

SHARE