ในมิลานแฟชั่นครั้งนี้ การเดินทางของ Bottega Veneta ยังคงดำเนินต่อไปร่วมกับครีเอทีฟไดเรกเตอร์อย่าง Matthieu Blazy และคอลเลกชั่นนี้ได้พาทุกคนเดินทางอย่างแท้จริงและในเชิงเปรียบเปรย โดยจะครอบคลุมอิทธิพลในด้านการแต่งกายจากทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบที่ธรรมชาติรังสรรค์หรือมนุษย์สร้างขึ้น ที่จะมีการพัดพากระแสของ Craft in Motion ไปอย่างกว้างขวางในฤดูกาลนี้
จากภาพซิลูเอทในช่วงแรก ความเรียบง่ายของชุดว่ายน้ำแบบถัก (Knitted) ที่เกือบจะมาจากยุคอื่น นำไปสู่แนวคิด ‘การเปลี่ยนแปลง’ หรือ ‘Getting Change’ อีกครั้ง โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าจากฤดูกาลก่อนๆ ให้มีความ Oversized ของกระเป๋าเข้ามาแทนที่ โดยถูกถักทอด้วยเทคนิกการสาน Intrecciato ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Basket-Woven Intrecciato หรือกระเป๋าดัฟเฟิลใบใหญ่ (Vast Duffle) เช่นเดียวกันกับเสื้อผ้าในรูปแบบ Business เป็นการออกแบบที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่โดยสิ้นเชิง ช่วงไหล่ที่แข็งแรงถูกรังสรรค์และตัดเย็บจนกลายเป็นสูทที่มีความเฉพาะตัว ซึ่งนำไปสู่ความธรรมชาติ เรียบง่ายและดั้งเดิม โดยแนวคิดเรื่อง ‘ชุดประจำชาติ’ ที่ได้กลายเป็น ‘ชุดที่มีความเป็นสากล’ ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานของต้นแบบจากทั่วทุกมุมโลก ที่เร่ร่อนอยู่ในห้วงอารมณ์และความหมาย บางครั้งก็สวมใส่ธงที่ชวนให้จินตนาการถึงสถานที่นั้นๆ ซึ่งเครื่องประดับที่สำคัญสำหรับการเดินทางอย่าง หนังสือพิมพ์หนังจากทั่วโลกที่แปรสภาพเป็นกระเป๋าอย่างรุ่น Foulard ที่ชวนให้นึกถึงใบไม้เขตร้อน (Tropical Leaf) พูลบูล (Pool Blue) ต้นราฟเฟีย (Raffia) จนไปถึงเชือกรองเท้าและกระเป๋าที่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้อย่างไม่มีเบื่อ ทั้งหมดนี้เริ่มมาจากหนังที่ถูกรังสรรค์มาอย่างประณีต ในขณะที่เซรามิกและกระเป๋า Sardine ขนาดใหญ่ที่ถูกรังสรรค์โดยเทคนิกการสาน Intrecciato ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในบริบทนี้ ความมหัศจรรย์ของการแต่งตัวในรูปแบบที่ไร้ขอบเขตได้ถูกนำมาใช้ในคอลเลกชั่นนี้ ชุดกระบองเพชรและเดรสหอยเปลือกมุก (Naurilus Shell Dress) ของดอกไม้ ดอกไม้ไฟ และการก่อตัวของหิน ความสุขส่วนตัวในการแต่งตัว การที่สามารถเป็นใครก็ได้ตามที่คุณอยากจะเป็น โดยการเดินทางในจินตนาการนั้นมีมากเช่นเดียวกันกับการเดินทางผ่านเสื้อผ้าที่ซึ่งเป็นสิ่งที่จะถูกค้นหาและได้รับชัยชนะ
“ความจำเป็นของการเชื่อมต่อกับโลกดึกดำบรรพ์ของสัตว์ แร่ธาตุ และพืชอีกครั้ง นั้นเปรียบเสมือนกับการเก็บเปลือกหอยอันงดงาม ที่อาจจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ได้ โดยได้มีความเชื่อมโยงกับความงามของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ทางธรรมชาติที่ถือว่าเป็นการโอบรับอันไร้รูปแบบ: นี่คือเสื้อผ้าที่ไม่มีกฎเกณฑ์” Matthieu Blazy กล่าว
Author By : Arunlak