หากจะกล่าวถึงชายหาดของเมืองไทย ที่นอกจากมีความสวยแล้วยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและความคลาสสิก ก็คงต้องยกให้ชายหาดหัวหิน สถานตากอากาศที่เก่าแก่ที่สุด แต่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามถึงปัจจุบัน
และหากพูดถึงชายหาดหัวหิน ก็ต้องนึกถึงโรงแรมที่อยู่กับชายหาดแห่งนี้มายาวนานอย่าง เซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท และวิลลาหัวหิน ที่เปิดให้บริการแก่ผู้เข้าพักครั้งแรกในต้นศตวรรษ 1920 โดยในขณะนั้นมีทางรถไฟเส้นใหม่ลงใต้ไปสู่มาเลเซีย และได้เปลี่ยนหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบเหงาของหัวหินให้เป็นรีสอร์ตริมชายหาดแห่งแรกของไทย
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท และวิลลาหัวหิน แต่เดิมชื่อโรงแรมรถไฟ ซึ่งถือเป็นโรงแรมตากอากาศแห่งแรกในสยามประเทศที่หรูหราที่สุดในภูมิภาคนี้ และเป็นโรงแรมที่เทียบได้กับโรงแรมชั้นนำของยุโรปในสมัยนั้น รูปแบบโรงแรมที่ มร. RIGAZZO ชาวอิตาเลียนประจำกรมรถไฟหลวงออกแบบ เป็นทรงโคโลเนียล หลังคามลิลาสูงชัน ลวดลายตกแต่งด้วยไม้สักทั้งหมด ซึ่งคงความเป็นเอกลักษณ์ที่งดงามถึงปัจจุบัน
ภายในโรงแรมฯ ประกอบด้วยอาคาร 3 อาคาร ซึ่งสร้างขึ้น ต่างยุคต่างสมัยเพราะฉะนั้น ลักษณะ และอุปกรณ์ตกแต่งภายในห้องก็จะแตกต่างกันออกไป เพียงแต่จะเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุที่ทำจากไม้เป็นหลัก เริ่มต้นจาก
อาคารเรลเวย์วิง (Railway Wing) หรืออาคารเก่าสมัยเป็นโรงแรมรถไฟเดิม เพดานห้องพักในอาคารนี้จะสูงเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ และพื้นห้องพักจะใช้ไม้สัก
อาคารโคโลเนียลวิง (Colonial Wing) ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผสานบรรยากาศภายในห้องพักสไตล์โคโลเนียลของอังกฤษที่เน้นความหรูหรา สุขุม นุ่มนวล อุปกรณ์ตกแต่งห้องก็ยังเน้นใช้วัสดุไม้เป็นหลัก โทนสีห้องจะออกสีน้ำตาล
อาคารการ์เด้นวิง (Garden Wing) ห้องจะมีลักษณะใหญ่ และสว่างกว่าห้องพักของอาคารอื่นๆ เฟอร์นิเจอร์ก็ยังคงใช้ไม้ เป็นวัสดุหลัก อาคารนี้เหมาะสำหรับแขกที่รักความสงบ ไม่พลุกพล่าน ทัศนียภาพโดยรอบจะเป็นสวนสวยให้เห็นโดยรอบ รวมทั้ง มีสระว่ายน้ำ และน้ำพุ
ในส่วนของ พูลวิลลา ก็เป็นตัวเอกที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี กับบังกะโลจำนวน 42 หลังที่ถูกออกแบบขึ้นมาด้วยความพิถีพิถัน การเลือกโทนสีขาวสว่างของตัวอาคาร และห้องแต่ละห้องเพื่อให้รับกับบรรยากาศการพักผ่อนริมทะเล เน้นความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย เรียบแต่หรูสไตล์โคโรเนียลของอังกฤษ มีให้เลือกถึง 3 แบบ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ได้แก่ Deluxe Spa Villa, Deluxe Pool Villa และ Premium Deluxe Pool Villa
สำหรับสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท และวิลลาหัวหิน และเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะจดจำได้มากที่สุดก็คงเป็นสวนไม้ดัดรูปสัตว์ต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีมานานกว่า 80 ปี ซึ่งไม้ดัดรูปช้างจะมีอยู่มากที่สุด เพราะช้างนับเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้
และมุมที่พลาดไม่ได้ในการไปจิบกาแฟก็คือ The Museum Coffee & Tea Corner ซึ่งเป็นส่วนให้บริการชา กาแฟ และขนมเบเกอรี่อร่อยๆ ซึ่งในส่วนนี้ยังแวดล้อมด้วยบรรยากาศของไม้ดัดที่สวยงาม มองเห็นวิวของสระว่ายน้ำ และชายหาด ให้ความรู้สึกโล่งสบาย เพราะเป็น Open Air โดยในส่วนนี้เคยเป็น Lobby เก่าสมัยที่ยังเป็นโรงแรมรถไฟ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว บริเวณนี้ยังได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่มีมาตั้งแต่สมัยเก่ามากมายมาตกแต่งให้ดูมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในส่วนของห้องอาหาร และเครื่องดื่มที่นี่มีให้บริการดังนี้
• ห้องอาหารเรลเวย์ (Railway Restaurant) อาหารไทย และนานาชาติ
• ห้องอาหารโคสต์บีชคลับแอนด์บิสโทร (Coast Beach Club & Bistro) อาหารนานาชาติ และอาหารทะเล
• ห้องอาหารสวนบัว (Suan Bua Thai Restaurant) อาหารไทย
• ห้องอาหารฮากิ (Hagi Japanese Restaurant) อาหารญี่ปุ่นซึ่งมีทั้งแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่
• เดอะมิวเซียม (The Museum Coffee & Tea Corner) บริการเครื่องดื่มชา กาแฟ และเบเกอรี่
• เอเลเฟ่นบาร์ (Elephant Bar) บริการเครื่องดื่มทุกชนิดและอาหารว่าง
ปิดท้ายด้วยการผ่อนคลายไปกับการนวดสปาที่ขึ้นชื่อของ สปาเซ็นวารี ซึ่งเป็นสปาที่ให้บริการครบวงจรไม่ว่าจะเป็นการนวดชนิดต่างๆ การทำทรีตเมนต์ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
หลังจากที่ได้สัมผัสกับ เซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ท และวิลลาหัวหิน แล้ว ก็ทำให้ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่ถึงเป็นจุดหมายปลายทางแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกเดินทางมาพักผ่อน และสร้างความทรงจำดีๆ ให้กับตัวเองและครอบครัว
