การเดินทางเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างแรงบันดาลใจที่ได้ผลที่สุด เพราะเมื่อเราได้หลุดออกจากพื้นที่เดิมๆ ได้พักเบรกจากชีวิตประจำวันเดิมๆ และออกไปเผชิญกับประสบการณ์ใหม่ๆ เพียงแค่นี้ ไฟที่เคยมอดดับไปก็ค่อยๆ ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ไม่ต่างจากการได้เติมเชื้อไฟดีๆ นั่นเอง
ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ กอปรกับอากาศในช่วงต้นปี ‘เชียงใหม่’ จึงถูกบรรจุเป็นจุดหมายและปลายทางในการตามหาแรงบันดาลใจครั้งนี้ และเพื่อให้เป็นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ เราจึงมองหาที่พัก ที่พร้อมให้ทั้งความงดงาม และเงียบสงบ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ ‘จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่’
รีสอร์ตแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาที่งดงามของดอยสุเทพ-ปุย ประกอบด้วยบ้านพัก/ห้องพัก 2 โซน ได้แก่ บ้านพักสไตล์หลองข้าวล้านนา 5 หลังซึ่งจำลองมาจากหลองข้าวหรือยุ้งข้าวของชาวเหนือประยุกต์ให้มีความทันสมัยแฝงไปด้วยกลิ่นอายและเอกลักษณ์ภูมิปัญญาการปลูกเรือนอยู่อาศัยของชาวล้านนา และในส่วนของห้องพักแบบตะวันตก จำนวน 14 ห้องภายในอาคารร่วมสมัย 3 ชั้น ตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์ 5 ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบนีโอ โคโลเนียลผสมผสานจุดเด่นของความเป็นเชียงใหม่ ซึ่งบรรยากาศโดยรอบรีสอร์ตถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด อาทิ ต้นลิ้นจี่ซึ่งเป็นผลไม้เลื่องชื่อของเมืองเหนือ ดอกไม้เมืองเหนือ เช่น อโศกแดงและเหลือง ดอกข่า กล้วยไม้ ดอกพุด จำปี มะลิ และอัญชัน
จุดเด่นที่สำคัญที่ไม่พูดถึงเห็นทีจะไม่ได้ก็คือ รสชาติอาหารของที่นี่ ที่เลื่องชื่อมากๆ โดย ห้องอาหารจันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ เป็นห้องอาหารไทยรสจัดจ้านมีเมนูหลากหลายทั้งอาหารไทยภาคกลาง และอาหารเหนือสูตรเฉพาะของจันตราคีรี ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากท้องถิ่น และสวนผักออร์แกนิคของรีสอร์ต ห้องอาหารตกแต่งแบบล้านนาประยุกต์ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัวระหว่างเรือนไม้สักเพดานสูงให้ความรู้สึกโปร่งสบาย โคมไฟระย้าสวยหรู ประตูไม้สักอายุหลายร้อยปีสไตล์โปรตุเกส รวมไปถึงโซฟาและเก้าอี้บุผ้าลายสีสด และกระจกบานใหญ่ ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ภายนอกได้แบบพาโนรามาผ่านทางสระว่ายน้ำไร้ขอบวิวภูเขาอันงดงาม สำหรับเมนูแนะนำที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ออร์เดิร์ฟเมือง มัสมั่นเนื้อ แกงเขียวหวาน น้ำพริกกะปิปลาทู ออสเตรเลียริบอายจิ้มแจ่ว ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิว เป็นต้น ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีให้เลือกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นไวน์ แชมเปญ ค็อกเทล หรือชา กาแฟหอมกรุ่น โดยห้องอาหารเปิดให้บริการกับบุคคลทั่วไปด้วย ถึงแม้ไม่ได้พักที่รีสอร์ตก็สามารถขับรถชมวิวและมารับประทานอาหารที่นี่ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 22.00 น.
ด้วยคุณสมบัติที่มีทั้งหมดเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เราจะพบผู้คนมากมายแวะเวียนมาที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
Author By : Arunlak