เป็นอีกหนึ่งคุณพ่อ ที่เรียกได้ว่ามีความทันสมัย และเข้าอกเข้าใจวัยรุ่นเป็นอย่างดี กับ คุณอาท – บพิธ ธุระชน คุณพ่อสุดคูลของ น้องมิ้นท์ – คุณธิฌาน์ และน้องเอิร์ธ – ธันภณ ธุระชน ซึ่งคุณอาร์ตบอกกับเราว่า เขาเลี้ยงลูกแบบวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างที่มีเหตุมีผลล้วนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้เสมอ...
บทบาทในครอบครัว
“หน้าที่ผมในครอบครัว คือเป็นหัวหน้าครอบครัว มีหน้าที่หาเงินให้กับครอบครัว ให้เขามีค่าใช้จ่ายให้เขามีสิ่งอำนวยความสะดวก ให้เขาได้มีเหมือนกับคนอื่นที่เขาพึงจะมีกัน และผมจะซัพพอร์ตทุกอย่างเพื่อให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ”
สิ่งที่ลูกเป็นเหมือนคุณ
“ไม่เหมือนเลย คือ ถ้าย้อนกลับในวัยเดียวกันตอนที่ผมอายุเท่าเขา เขาไม่เหมือนผมเลย เขาดีกว่าผมเยอะ (ยิ้ม) เขามีความรับผิดชอบ เขาไม่จำเป็นต้องให้ผมไปจี้อะไรเขาเลย ทั้งเรื่องของการศึกษา หรือเรื่องความประพฤติ อย่างเรื่องความประพฤติคือ ตอนที่ผมอายุเท่าเขา ผมจะออกจากบ้านมากกว่านี้ จะไปใช้ชีวิตตอนกลางคืนมากกว่านี้ซึ่งในขณะเดียวกัน ลูกของผมทั้งคู่ไม่ชอบแบบนั้นเลยอย่างน้องเอิร์ธเขาเรียนจบด้วยคะแนนที่ดี เขาสอบ SAT ได้คะแนนที่สูงมาก สามารถ Apply Ivy League ได้เลยและเขาก็สอบได้มหาวิทยาลัยท็อป 20 ของอเมริกา แต่ว่าด้วยโควิด ผมจึงให้เขาเรียนที่เมืองไทยก่อน ตอนนี้เขาจึงเรียนอยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งคู่ สำหรับน้องมินท์เองเขาจะมีบททดสอบมากกว่าผมในสมัยเด็ก เพราะเขาไปคัดเลือกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ของจุฬาฯ รุ่น 74 ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาอดทน และเขาก็ทำได้”
อุปนิสัยของลูกๆ แต่ละคน
“ลูกๆ ทั้งคู่ เขาเป็นคนที่โฟกัส แล้วทำได้ แต่มินท์จะเป็นคนที่โฟกัสมากกว่าเอิร์ธ แต่ถึงแม้ว่าเอิร์ธจะเป็นคนที่ไม่ได้โฟกัส หากบอกให้ทำ เขาก็ทำได้ครับ”
สิ่งที่ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนคุณ
“ผมไม่อยากให้เขาทำงานแบบผม เพราะการทำงานสไตล์ผม ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเครียดกับเรื่องงาน ด้วยความที่ผมทำงานสัมปทานเกี่ยวกับภาครัฐมาโดยตลอด ซึ่งโปรเจคท์แต่ละโปรเจคท์ใหญ่มาก ทำให้มีความเครียดมากผมจึงอยากให้เขาใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่อยากให้เขาต้องเครียดแบบผม”
ในฐานะลูกของพ่อ ต้องเป็นแบบนี้
“ต้องเป็นคนมีระเบียบ ไม่เอาเปรียบคนอื่น มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม“
วิธีเลี้ยงลูกสไตล์คุณ
“ผมเปิดโอกาสให้ลูกทุกคนได้มีส่วนร่วมกับสิ่งที่เราอยากให้เขาทำแต่ไม่บังคับเขานะ และเวลาที่เขาทำอะไรพลาด ในฐานะที่ผมเป็นพ่อผมจะไม่ไปดุไปด่าไปว่าไม่ไปกดเขาไว้ แต่จะทำให้เขาเห็น ให้เขามีส่วนร่วม ซึ่งวันหนึ่งเมื่อสปอร์ตไลท์ฉายไปที่เขา สิ่งที่เขาได้เรียนรู้บ้างไม่เรียนรู้บ้างตอนที่เราให้เขาทำตอนนั้น มันจะฉายออกมาเอง แต่ถ้าไปบังคับเขา และให้เขาฉายแววในวันที่เขาไม่พร้อม ไม่มีประโยชน์ครับ”
ช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของคุณในฐานะพ่อ
“มีลูกที่หน้าตาดี มีส่วนสูงได้มาตรฐาน การศึกษาดี เป็นเด็กที่เรียบร้อย มีสัมมาคาราวะ เวลาไปไหนมาไหนมีแต่คนชม ผมก็จะมีความภูมิใจ ยิ่งเวลาไปเจอครู เวลาประชุมผู้ปกครอง ไปถึงไม่มีเรื่องเครียดอะไรเลย ไปถึงได้รับแต่คำชมจากครู เราคนเป็นพ่อก็ภูมิใจเป็นความภูมิใจที่เราไม่ได้กดดันเขาด้วย”
วิธีแสดงความรักในแบบคุณพ่อ
“กอด หอม จับมือ ทั้งลูกชาย ลูกสาว เราแสดงความรักกันปกติแต่กับลูกสาว พอเขาโตแล้วเราก็จะมีขอบเขตเพราะเขาเป็นผู้หญิงส่วนเรื่องซื้อของให้ ลูกๆ ผมแปลก เขาไม่ได้ต้องการเลย เวลาผมจะซื้ออะไรให้เขา ถามเขาเอามั้ย เขาก็ไม่เอาเขาไม่ค่อยอยากได้อะไรเลย”
กิจกรรมที่พ่อลูกทำร่วมกัน
“ทานข้าวด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ช่วงก่อนโควิดเราเที่ยวด้วยกันตลอด มีกิจกรรมตลอด แต่ว่าผมไม่ใช่พ่อที่อยู่กับลูกทุกวัน ผมอยู่กับเขาทุกวันไม่ได้ และเขาเองก็อยู่กับผมทุกวันไม่ได้ เราต่างก็จะมีสเปซให้กันและกัน”
Author By : Arunlak