counters
hisoparty

Discover the natural beauty at Khaosok

3 years ago

ไม่ต้องเที่ยวทิพย์กันอีกต่อไป เพราะแม้ท่ามกลางมรสุมโควิดจะทำให้ทุกคนเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ แต่ในประเทศไทยยังมีสถานที่ที่น่าเที่ยวอีกเพียบเลย โดยเฉพาะถ้าเฟ้นหาที่เที่ยวติดอันดับโลกที่ถูกยกให้เทียบชั้นกับอุทยานระดับโลก ต้องไปที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษาฎร์ธานี

          ที่นี่คือโลกที่ห้อมล้อมไว้ด้วยธรรมชาติอันสดปลั่ง ป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาก ภูเขาหินปูนอันสลับซับซ้อน และเมฆหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่คลอเคลียทิวเขา

          ภาพและบรรยากาศแบบนี้แหละที่ทำให้นักท่องโลกเรียกอุทยานแห่งชาติเขาสกว่าเป็นบ้านช่องห้องหับของธรรมชาติบ้างก็เปรียบเปรยเป็นป่าแอมะซอนแห่งเมืองไทย

          จะเรียกอะไรก็ช่างที่มีถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก เราสามารถพบสัตว์ป่าสงวนหลายชนิดและมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 40 สายพันธุ์ นกกว่า 300 ชนิด ค้างคาวกว่า 30 สายพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานและแมลงที่มีจำนวนสายพันธุ์มากมายจนนับไม่ถ้วน รวมดอกไม้ป่ากว่า 200 สายพันพันธุ์  มีพันธุ์ไม้ป่าหายากเจริญเติบโตในพื้นที่ เช่น เอื้องฝาหอย มหาสดำ หมากพระราหู รองเท้านารีเหลืองกร และบัวผุด ถือได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก เรียกว่ามุมนี้ของสุราษฏร์ธานีเป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติเขาสก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา อุทยานแห่งชาติศรีพังงา และอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง

          ช่วงปี 1980 เขาสกได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตัดสินใจสร้างเขื่อนในพื้นที่แห่งนี้เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้สำหรับพื้นที่ภาคใต้ และสร้างเขื่อนจนสำเร็จภายในระยะเวลาสองปีให้หลัง

         เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลานมีความสูงเกือบ 100 เมตร มีความยาวสันเขื่อนประมาณ 700 เมตร กั้นน้ำจากคลองพระแสง จนก่อให้เกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ ชาวบ้าน 385 ครอบครัวและสัตว์ป่ากว่าพันชีวิตที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้นทยอยได้รับการช่วยเหลือจากทางการในการอพยพไปยังพื้นที่อื่นๆ

         เมื่อมาถึงที่นี่ชวนให้ทุกคนรู้สึกเหมือนเป็นโลกคนละใบกับที่เคยอยู่ ยิ่งกระเถิบเข้าคลุกวงในของเขาสกจะยิ่งหลงไหลธรรมชาติ มาถึงที่นี่ขอให้ทุกคนนอนในแพกลางเขื่อนซัก 3-4 คืน จะเป็นการรีทรีทและบำบัดจิตใจที่ดีมาก เมื่อใช้ชีวิตท่ามกลางความเงียบสงบจะสัมผัสได้ถึงความงดงามของเขาสก ภายในเขาสกมีแพให้เลือกพักเกือบ 20 แห่งแต่จะกระจายไปตามจุดต่างๆ

         จากนั้นค่อยล่องเรือไปชมความสวยงามตามจุดต่างๆ ภายในอุทยาน ซึ่งจุดแรกที่ยอดนิยมมากคือเขาสามเกลอ เขาหินปูนสามลูกที่ทอดตัวกลางนํ้าใสแจ๋ว เรียกว่าเป็นจุดเช็คอินที่พลาดไม่ได้ จากนั้นลองเดินเท้าเข้าไปที่ทะเลใน เป็นเส้นทางเดินป่าแบบไม่โหดมาก แต่เพลิดเพลินไปกับป่าไม้ที่งดงาม เมื่อเดินเข้าไปถึงทะเลในจะได้สัมผัสกับวิวงดงามราวกับภาพวาด 

        เมื่อนั่งพักซักครู่แล้วค่อยนั่งแพไม้ไผ่ราว 10 นาที ข้ามไปยังถ้ำปะการังที่อยู่ในเขตของทะเลใน ที่นี่ซ่อนถ้ำอันงดงามที่ด้านในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่ไม่เหมือนที่ถํ้าอื่นๆ เพราะหินงอกหินย้อยที่ถํ้าปะการังนี้จะแตกหน่อเล็กๆ คล้ายปะการังในทะเล สวยแปลกตาและทำให้เชื่อกันได้ว่าบริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน

        อันที่จริง ถ้าใครไม่ชอบเดินป่า แค่นั่งเรือล่องไปในเขื่อนก็สวยจับใจแล้ว หรือใครจะล่องเรือดูซันเซ็ทก็สวยไปอีกแบบ  แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วที่นี่มีกิจกรรมเยอะมาก ถ้าชอบชิลล์ก็เล่นแพดเดิล บอร์ด พายเรือคายัคที่แทบทุกแพมีให้บริการก็ได้

        แต่ถ้าเป็นสายผจญภัยแล้วล่ะก็ เขาสกมีสารพัดกิจกรรมให้คุณได้เพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่ง เดินป่า ขี่ช้าง ดูนก และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติแบบง่ายและยากหลายระดับให้เลือกกัน

        อีกหนึ่งในไฮไลต์สำหรับนักท่องธรรมชาติ คือการเดินป่าเพื่อตามหาพืชพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ นั่นคือการตามหาบัวผุด ดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของตัวดอกประมาณ 10-25 นิ้ว โดยบัวผุดนั้นมักขึ้นอยู่ตามพื้นดิน จะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงมกราคม

       เมื่อเที่ยวเขาสกกันเสร็จแล้ว สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลกันคืออุทยานธรรมเขานาในหลวง ที่นี่เป็นที่ตั้งของ เจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี ก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สงบร่มเย็น และชาวสุราษฎร์ให้ความศรัทธา

       ไพร์มไทม์ของการมาเยือนที่นี่คือช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ขอให้ทุกคนมารอที่ซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอด ที่หากโดนแสงอาทิตย์ส่องลอดเข้ามา จะยิ่งสวยงามมากๆ หลายคนเดินทางมาที่นี่ต่างก็อยากจะมาเก็บภาพความทรงจำที่ประตูนี้ในยามที่แสงแดดส่องผ่านซุ้มประตูกันทุกคน เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของทริปสุราษฏร์ธานีเลยก็ว่าได้

       ความจริงที่นี่เป็นสำนักสงฆ์มีไว้จัดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน มีความสงบร่มเย็นเหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรม แต่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม ซึ่งนอกจากช่วงเช้าที่มีแสงสวยๆ แล้ว หากเดินไต่เขาขึ้นไปก็จะได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่ลอยตัวอยู่ราบรอบภูเขา จนหลายคนคาดไม่ถึงว่าการมาเยือนภาคใต้จะได้เห็นทะเลหมอกสวยไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว

       เอาเป็นว่า ใครดั้นด้นมาถึงสุราษฏร์ธานี ได้สัมผัสธรรมชาติที่เขาสกกันแล้วก็อย่าลืมไปไหว้พระขอพรกันที่อุทยานธรรมเขานาในหลวงกันด้วย  รับรองทริปนี้ฟินแน่นอน

Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง

SHARE