counters
hisoparty

DOM PÉRIGNON จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟดินเนอร์ ด้วยเมนูอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟมิชลินสตาร์ชื่อดัง Kiko Moya Redrado

11 months ago

          แบรนด์แชมเปญ Dom Pérignon ร่วมกับ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ และเชฟมิชลินสตาร์ Kiko Moya Redrado (กิโกะ โมย่า เรดราโด) จัดดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยเมนูอาหารค่ำ 5 คอร์สที่ถูกรังสรรค์ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบโดยผ่านกระบวนการแบบพิถีพิถัน สำหรับไว้ดื่มด่ำกับแชมเปญวินเทจ Dom Pérignon เพื่อให้มีรสชาติดีเยี่ยมที่สุด Dom Pérignon vintage 2013, Dom Pérignon Rosé vintage 2008 และ Dom Pérignon Plénitude 2 นั้น คือแรงผลักดันหลักสำหรับการสร้างสรรค์เมนูอาหารของเชฟกิโกะ ด้วยการออกแบบขวดที่ทันสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ ฉลากขวดแชมเปญสีดำผสมสีทองที่ดูหรูหรา แชมเปญ Dom Pérignon ขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุดของที่สุดในแชมเปญฝรั่งเศส ซึ่งเชฟมิชลินสตาร์ กิโกะ โมย่า เรดราโด พร้อมสร้างประสบการณ์กูร์เมต์สุดพิเศษ เพื่อให้คู่ควรกับแชมเปญที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 'วินเทจเท่านั้น'

         โดยงานดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้มีการเสิร์ฟแขกผู้มีเกียรติด้วยแชมเปญ Dom Pérignon เช่น Dom Pérignon Blanc vintage 2013 ที่เป็นเครื่องดื่มต้อนรับและเครื่องดื่มที่คัดสรรมาเพื่อจับคู่กับข้าวโพดหวาน และฟัวกราส์ ตามด้วยปลาไหลรมควันเสิร์ฟกับขนมปังเปา เมนูต่อไปคือกัซปาชูเอโลที่จับคู่กับ Dom Pérignon Rosé vintage 2008 และ Dom Pérignon Plénitude 2 ที่เป็นดาวเด่นของงาน จับคู่กับเนื้อซี่โครงวากิว สิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ ครีมใบฟิกแช่แข็ง ที่เป็นจานสุดท้ายเป็นตัวจบเมนูห้าคอร์สอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งค่ำคืนอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้จัดขึ้นที่ Café Wolseley โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

         ซึ่งนอกจากอาหารชั้นเยี่ยม ไฮไลท์ของค่ำคืนนี้คือ แชมเปญ Dom Pérignon ที่ถูกคัดสรรมาคู่กับอาหารได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นด้วย Dom Pérignon Vintage 2013 ซึ่งก็เป็นการเชื่อมโยงกับอดีตอันรุ่งโรจน์ของแชมเปญวินเทจ ที่มาพร้อมกับความท้าทายของสภาพอากาศในปี2013 แต่ให้ผลลัพท์ที่ดีเยี่ยม โดยผสมผสานรสชาติที่เข้มข้น จากการเลือกเก็บเกี่ยวองุ่นได้เป็นอย่างดี จากนั้น Dom Pérignon Rosé vintage 2008 ได้ถูกนำมาเป็นแชมเปญตัวที่สองสำหรับค่ำคืน ซึ่งวินเทจ2008 นั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเป็นหนึ่งในปีที่ยอดเยี่ยมของ Dom Pérignonที่ผ่านการบ่มยาวนานถึง12 เดือน และในตอนจบของค่ำคืน ไฮไลท์ที่ยอดเยี่ยมที่ไม่เคยเปิดตัวที่ร้านอาหารใดมาก่อนในประเทศไทยคือ Dom Pérignon Plénitude 2 หรือที่ถูกขนานนามว่า เป็นชีวิตที่ 2 ของแชมเปญ Dom Pérignon โดยใช้เวลาบ่มถึง 15 ปี  เพื่อให้มีรสชาติและเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทั้งในกลิ่นหอมเสมือนช่อดอกไม้ผสานกับความหนักแน่นของรสชาติที่ยากจะลืมเลือน ที่ทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนานและและความนุ่มนวลในเวลาเดียวกัน

Author By : Arunlak

SHARE