สำรวจความคิดและตัวตนของ คุณเป๊ก – เศรณี ชาญวีรกูล ผ่าน 4 คำสำคัญที่สะท้อนชีวิต และแนวคิดของเขาอย่างลึกซึ้ง กับ Work, Life, Love, Passion คำเหล่านี้จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสเรื่องราวการใช้ชีวิตที่มีความหมาย การรักอย่างเข้าใจ และความหลงใหลในสิ่งที่ทำ ของชายหนุ่มคนนี้ได้อย่างชัดเจน...
WORK
“ปัจจุบันผมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นขึ้นโดยคุณปู่ (คุณชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ของผม ท่านเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา จากนั้นคุณพ่อ (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) ก็รับช่วงต่อมาบริหาร ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่เส้นทางการเมือง สำหรับการบริหารปัจจุบัน บริษัทถูกจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ซึ่งผมเห็นว่าแนวทางนี้เหมาะสมแล้วสำหรับบริษัทที่เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัว หากเราต้องการให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน การนำมืออาชีพเข้ามาดูแลน่าจะเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ซึ่งส่วนตัวผมเองรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษา คอยมอบนโยบายและให้คำแนะนำแก่ทีมผู้บริหารครับ”
“ย้อนไปผมเติบโตมาในครอบครัวคนจีน โดยมีคุณปู่เป็นคนเริ่มสร้างฐานะ ส่วนคุณพ่อก็เป็นคนสานต่อความสำเร็จนั้น มาถึงผมก็มีความรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เพราะผมคือคนรุ่นที่สามที่ต้องหาทางสร้างเส้นทางของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามว่าต้องทำให้ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหรือไม่ แต่คุณพ่อมักจะสอนเสมอว่า ‘อย่าเอาเงาของเราไปเทียบกับเงาของคนอื่น จงสร้างเงาของเราเอง’ ซึ่งหมายถึงให้เรายึดมั่นในสิ่งที่ทำ และมีความสุขกับสิ่งที่เราทำในทุกๆ วัน การเก็บเกี่ยวความสุขจากการทำงานทุกวันคือรางวัลที่มีค่าที่สุด นอกจากนี้ยังมีคำสอนที่ผมยึดมั่นอีกประการหนึ่งจากคุณพ่อก็คือ ‘มองโลกในแง่ดี’ ผมเชื่อว่าคนเรามีสองมุมมอง เช่น ในวันที่ฝนตก คนหนึ่งอาจบ่นว่ามันเปียกชื้น แต่ในขณะเดียวกันอีกคนอาจบอกว่ามันชุ่มฉ่ำสดชื่น ในวันที่แดดออก บางคนอาจรู้สึกร้อน แต่ก็มีคนอีกประเภทที่รู้สึกว่าวันนี้สดใส ฉะนั้นผมเลือกที่จะมองโลกในแง่บวกเสมอ และคำสอนของคุณปู่จะเกี่ยวกับ ‘การให้’ คุณปู่มักบอกว่า ‘มือของคนให้ย่อมสูงกว่ามือของคนรับ’ ซึ่งหมายความว่าเราไม่ควรเอาเปรียบใคร แต่ถ้าเราถูกเอาเปรียบ เราต้องรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพื่ออะไร เพราะครอบครัวของเราไม่เคยสอนให้เอาเปรียบคนอื่น แต่หากเรารู้ว่าเรากำลังถูกเอาเปรียบ เราก็ต้องเข้าใจและยอมรับมันตราบเท่าที่มันมีเหตุผลที่ดี
“แรงบันดาลใจของผมในการทำงาน คือการสร้างความเปลี่ยนแปลง แต่ผมไม่ได้เป็นนักการเมือง ผมเพียงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีเกิดขึ้นในชีวิตผู้คนที่เรามีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานะผู้บริหารบริษัท เรามีความรับผิดชอบต่อบริษัทและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรา ผมตั้งใจที่จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด นี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมมุ่งมั่นทำงานในทุกๆ วัน”
LIFE
“สำหรับการแบ่งเวลาระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต ผมมองว่าตัวผมเองเหมือนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่การทำงานจริงตลอดเวลา แต่ความคิดในการต่อยอดธุรกิจมันไม่เคยหยุด มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและตัวตนไปแล้ว ในฐานะผู้บริหารที่ถือหุ้นเอง ผมจะคิดเสมอว่าจะทำยังไงให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง มันไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการสร้างและพัฒนาสิ่งที่เรามีอยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีช่วงที่รู้สึกเหนื่อยล้าบ้าง ทุกคนก็มีภาวะเหนื่อยเหมือนกัน สำคัญคือการตั้งเป้าหมายตั้งแต่วันแรกว่าเราต้องการอะไร เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นเปรียบเหมือนการขับรถจากกรุงเทพไปเขาใหญ่ เราอาจจอดพักบ้างเพื่อเติมพลังหรือซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ แต่จุดหมายปลายทางยังคงเดิม ผมมองว่าแม้เราจะหยุดพักระหว่างทางบ้าง แต่เราต้องไม่ลืมเป้าหมายหลักที่เราตั้งใจตั้งแต่เริ่มต้น
“ในด้านการดูแลตัวเอง ผมให้เวลากับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยผมจะเข้าฟิตเนสประมาณสองถึงสามวันต่อสัปดาห์ และในหนึ่งสัปดาห์ ผมจะแบ่งเวลาเล่นกีฬากลางแจ้ง เช่น กอล์ฟ อย่างน้อยหนึ่งถึงสองวัน เพื่อผ่อนคลายและเสริมสร้างสุขภาพ แม้ตารางงานจะค่อนข้างแน่นแค่ไหน ผมยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ เพราะสุขภาพที่ดีเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง การออกกำลังกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผม ซึ่งช่วยในการหาสมดุลของชีวิต ในการหาสมดุลของผมคือการค้นหาจุดที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ซึ่งไม่สามารถแชร์หรือให้คนอื่นทำตามได้ เพราะแต่ละคนอาจไม่รู้สึกเหมือนเรา และเมื่อผมค้นพบจุดสมดุลของตัวเองได้แล้ว นี่คือเคล็ดลับในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ผมทำงานเจ็ดวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย และสามารถทำงานในวันเสาร์-อาทิตย์ได้โดยไม่บ่น เพราะในวัยนี้ ผมสามารถหาจุดสมดุลของตัวเองได้ดี ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ ณ ช่วงวัยนี้มันเป็นแบบนี้ครับ
“กิจกรรมยามว่างของผมคือการเจอเพื่อน เพราะสุดท้ายแล้ว มนุษย์เป็นสัตว์สังคมประเภทหนึ่ง การได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนทุกประเภท ทุกวัย เป็นสิ่งที่มีคุณค่า ทั้งเพื่อนของพ่อ เพื่อนร่วมรุ่น หรือเพื่อนรุ่นพี่ การพบปะเพื่อนช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและได้แลกเปลี่ยนความคิด ในโลกนี้ คนคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ การอยู่คนเดียวไม่ช่วยให้เราเข้าใจโลกที่เปิดกว้างขึ้นได้ เราต้องพูดคุยและเรียนรู้จากคนอื่น ซึ่งทำให้เราสามารถเห็นมุมมองที่หลากหลายและเข้าใจว่า ความรู้หรือความคิดเห็นที่เราได้รับมานั้นถูกหรือผิดอย่างไร นี่คือความสำคัญของการมีเพื่อนในชีวิตครับ”
LOVE
“การรักษาความสัมพันธ์คือการเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกวันนี้ ผมกับคุณเพลงแทบไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองตากันก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ความเข้าใจและการรับฟังกันสำคัญมาก สำหรับคู่เราจะไม่เคยพูดว่า “ทำไมไม่เหมือนวันแรกที่คบกัน” ประโยคคำถามนี้จะไม่เกิดกับคู่เราแน่นอน เพราะเรารู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ ย้อนกลับไปวันที่เราเริ่มคบกัน ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ปีสี่ แต่วันนี้ทั้งผมและคุณเพลงต่างทำงานแล้ว ความคิดและชีวิตเปลี่ยนไปมากตั้งแต่วันนั้น การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ หากเราเข้าใจและปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ ผมเชื่อว่ามันจะช่วยให้เรารักษาความรักและความสัมพันธ์นี้ไปได้ยาวนาน
“สำหรับผม ความรักเหมือนกับบ้าน บ้านที่ดีคือที่ที่เราอยู่ได้อย่างสบายใจ เป็นที่ที่เรากลับไปแล้วหลับได้อย่างหมดห่วง ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ความรักจึงเป็นที่ที่เรารู้สึกมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองที่สุดในแต่ละวัน เมื่อเราออกไปทำงาน เราต้องสวมบทบาทต่างๆ ตามสถานการณ์และความเหมาะสม ซึ่งสุดท้ายแล้ว แม้เราจะมีหลายบทบาท แต่เมื่อกลับมาบ้าน ที่นั่นคือที่ที่เรากลับมาเป็นตัวตนที่แท้จริง
“ถ้าถามว่าตอนนี้ความรักของผมเป็นสีอะไร ผมคิดว่าน่าจะเป็นสีดำนะครับ ซึ่งอาจจะฟังดูแปลก แต่สำหรับผม สีดำไม่ได้หมายถึงความมืด แต่หมายถึงความมั่นคง สีดำเป็นสีที่ยากจะเปลี่ยนแปลง และไม่มีสีอื่นมาทำให้มันกลายเป็นสีอื่นได้ ยกเว้นเพียงสีขาวที่อาจเข้ามาทำให้มันเบาลงบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแย่เลยครับ ผมคิดว่าสีดำแสดงถึงความหนักแน่นและความแน่วแน่ของความรัก”
PASSION
“ผมคิดว่ารถยนต์กับผู้ชายเป็นของคู่กัน ย้อนไปสมัยตอนเด็กๆ คุณพ่อมักจะให้ผมนั่งตักแล้วก็ลองขับรถเล่น เนื่องจากบ้านเราอยู่ในสนามกอล์ฟ ทำให้ผมคุ้นเคยกับรถยนต์ตั้งแต่เด็ก คุณปู่เองก็เป็นคนรักรถ และสะสมรถหลายคันมาตั้งแต่สมัยที่ท่านทำงาน แม้ว่าจะไม่ถึงกับเป็นนักสะสมจริงจัง แต่ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในรถยนต์ ส่วนคุณพ่อเองก็เคยมีช่วงที่หลงรักการขับรถ ก่อนที่ท่าจะหันมาทำงานการเมือง และเห็นประโยชน์ของเครื่องบินเพราะเดินทางได้รวดเร็วและเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ ได้ง่ายกว่า ซึ่งก็เป็นอีกบริบทหนึ่งของการเดินทางในชีวิตครับ ส่วนตัวผมมีความชื่นชอบด้านรถยนต์ที่มีสไตล์ชัดเจนครับ รถที่ชอบแบ่งเป็นสองบุคลิก คือ SUV ที่ยกสูง หรือไม่ก็รถสปอร์ตสองประตูไปเลย ผมเป็นคนสุดโต่งจึงชอบอะไรที่มีความแตกต่างและชัดเจน
“เสน่ห์ของ Lamborghini สำหรับผมอยู่ที่ความโดดเด่นไม่เหมือนใครครับ แน่นอนว่าแบรนด์ซูเปอร์คาร์แต่ละแบรนด์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ Lamborghini กล้าหาญและดุดัน เห็นได้ชัดว่าทุกรุ่นที่ออกมามีความชัดเจน ไม่มีรุ่นไหนที่ทำออกมาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทุกคันถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์เฉพาะ และอยู่บนพื้นฐานของสมรรถนะสูงสุดเสมอ ซึ่งตรงนี้สอดคล้องกับตัวผมเอง ผมชอบความชัดเจนและสุดโต่ง ซึ่ง Lamborghini แสดงออกมาได้ชัดเจนที่สุด นี่แหละคือเสน่ห์ที่แท้จริงของแบรนด์นี้
“ครั้งแรกที่ผมเห็น Lamborghini มันทำให้ผมนึกถึงความฝันในวัยเด็กเลยครับ อย่างที่เคยบอกว่าเด็กผู้ชายมักมีสองสิ่งที่ชอบคือซูเปอร์ฮีโร่กับรถยนต์ สำหรับผมเอง ผมชอบแบทแมน และรถของแบทแมนมีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ Lamborghini มาก นี่เป็นแค่ first impression ที่ผมมีสมัยเด็กๆ นะครับ
“เมื่อได้มาศึกษา Lamborghini จริง ๆ ผมประทับใจกับดีไซน์ที่มีความคมและเฉียบทุกมุมมอง ซึ่งสอดคล้องกับความเป็นคน OCD ของผมที่ชอบความเป็นระเบียบมากๆ การออกแบบเส้นสายของ Lamborghini ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเวลามอง เพราะมันมีความสมมาตรและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่อให้ปิดไฟ เห็นแค่ไฟท้ายก็ยังรู้ได้ทันทีว่านี่คือ Lamborghini และสิ่งที่ทำให้ Lamborghini โดดเด่นจริงๆ คือความชัดเจนในเซกเมนต์ที่เน้นสมรรถนะสูงสุด พวกเขากล้าที่จะไม่ลดทอนสมรรถนะเพื่อสิ่งอื่นๆ เพราะพวกเขามีความเชื่อมั่นในตัวเองและมุ่งมั่นนำเสนอสิ่งที่ Lamborghini เป็นอย่างแท้จริง
“ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบขับเครื่องบิน และเมื่อได้เห็น Lamborghini Revuelto ด้านหลัง มันให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องบินไอพ่น ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่ารถคันนี้มีเสน่ห์อย่างมาก ประกอบกับในยุคที่การรณรงค์เรื่องรักโลกมีความสำคัญมากขึ้น ผมคิดว่าการนำแบตเตอรี่มาใช้ในรถยนต์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ บางคนอาจจะมองว่ารถยนต์ยังควรใช้เครื่องยนต์แบบเดิมได้อีกนาน แต่สำหรับผมแล้ว ผมเข้าใจและยอมรับการพัฒนาเหล่านี้ เพราะสมรรถนะของรถยังคงอยู่บนพื้นฐานของเครื่องยนต์ 12 สูบเช่นเดิม ทั้งความแรงและเอกลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถก็ยังคงอยู่ เพิ่มเติมด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้นทั้งภายนอกและภายใน
“สำหรับผมแล้ว สมรรถนะและรูปลักษณ์ต้องไปด้วยกัน หากรูปลักษณ์สวยงามแต่สมรรถนะไม่ได้มาตรฐาน มันคงไม่ตอบโจทย์สำหรับผมเท่าไหร่ เพราะแก่นแท้ของความสนุกและเสน่ห์ของรถอยู่ที่สมรรถนะ เหมือนกับผู้หญิงที่สวยแต่ไม่มีเสน่ห์ ผมมักจะเลือกผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เพราะความมีเสน่ห์นั้นสามารถทำให้เรามองไปได้นาน และมีความงดงามที่ยั่งยืน เมื่อเปรียบเทียบกับ Lamborghini ผมมองว่าเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและมีเสน่ห์ ซึ่ง Revuelto ก็มีทั้งสองอย่างนี้ครบถ้วน”
