คุณณดล ชัยปาณี
Founder mashmellow
My Work
“โดยปกติผมจะแยกงานส่วนตัว งานบริหารเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยครอบครัว งานแอพพลิเคชั่นที่ทำกับเพื่อน และงานโปรเจ็คท์ต่างๆ ที่มีเข้ามาออกจากกันเลย ซึ่งตอนนี้ผมเทน้ำหนักมาที่ mashmellow เซอร์วิส ออฟฟิศ เป็นกึ่งโคเวิร์กกิ้ง สเปซ กับเซอร์วิส ออฟฟิศ ที่เพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 3 เดือนครับ ฟีคแบ็คค่อนข้างดี หลักๆ สิ่งที่ผม invest คือ บุคลากร เพราะผมอยากให้ลูกค้ามาที่นี่แล้วรู้สึกว่าทีมงานช่วยเหลือกันเหมือนเพื่อน ผมเริ่มจากบริหารและทรีตทีมงานเหมือนเพื่อนพี่น้อง แล้วเราก็ทรีตลูกค้าเหมือนเพื่อนพี่น้องเช่นกัน ผมคิดว่าสิ่งพวกนี้สามารถ Leave Good Impressions ซึ่งทั้งผมเอง รวมไปถึงทีมงาน เราต้องปรับ Mindset และมี Service Mind กับลูกค้า”
My Principles
“ผมมีไดรฟ์ที่อยากประสบความสำเร็จให้เร็ว ผมพยายามผลักตัวเองตลอด พยายามเริ่มให้ได้ก่อน เริ่มที่จะมีฐานที่แข็งแรงพอเพื่อจะต่อยอดไปทำอย่างอื่นได้ ซึ่งปีที่ผ่านมา ผมพยายามอ่านหนังสือมากขึ้น จากปกติที่เป็นคนไม่ค่อยอ่านหนังสือ แต่พออ่านแล้วช่วยได้จริงๆ นะ ผมคิดว่าถ้าเรายิ่งอยากได้อะไรที่คุ้มค่า อะไรที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องแลก ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ไม่มีอะไรได้มาจากการที่เรานั่งเฉยๆ แล้วบ่นว่าอยากได้ ไม่มีทาง เราต้องลงมือทำ จะช้าหรือเร็วต้องทำไปก่อน ถึงตอนนี้ยังทำออกมาได้ไม่ดี แต่ต้องทำออกมาให้ดูดีก่อน อย่างน้อยให้คนเห็นความตั้งใจ เห็นวิชั่น อาจจะช่วยเปิดทางให้โอกาสวิ่งเข้ามาก็ได้ ต้องทำออกมาให้ชัดเจน สื่อสารให้คนข้างนอกเข้าใจมากที่สุด ซึ่งก็ซิงค์กับอันแรกที่ผมบอกว่าต้องลงมือทำครับ”
My Solutions
“เมื่อก่อนผมเป็นคนคิดเยอะ เครียดง่าย ตอนนี้ก็พยายามเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความผิดพลาดเป็นประสบการณ์ เรียนรู้ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้ แต่เราทำตอนนี้และให้อนาคตดีขึ้นได้ ถ้าเรามัวมานั่งคิดถอยหลัง คนอื่นก็เดินแซงหน้าไปไกลละ ตอนนี้ผมจึงคิดทุกอย่างไว้เป็นสเต็ปๆ เพื่อป้องกันความผิดพลาด เพราะผมมีจุดมุ่งหมาย และรู้ว่าตัวเองขาดอะไร ก็จะเติมเต็มตรงนั้นจากประสบการณ์คนอื่น หรือจาก
คำปรึกษา ซึ่งข้อดีคือผมเป็นคนไม่กลัวที่จะถามครับ”
My Motto
“If You Can’t Make It Good, at Least Make It Look Good”
My Strength
“ผมเป็นคนที่ไม่ Take No Answer คือ จะไม่เคยพูดว่า ‘ไม่’ แต่ผมจะหาวิธีทำดูก่อน แล้วผมจะยึดคติที่ว่า อย่าพูดอย่างเดียว ต้องลงมือทำ ผมจึงเป็นคนไม่ค่อยยอมแพ้ ต้องลุย เพราะฉะนั้นผมจึงค่อนข้างใจสู้ ส่วนจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งคือ ผมถนัดด้านกลยุทธ์ การวางแผน การจัดลำดับ และมองคนค่อนข้างออก ดูรู้ว่าใครเป็นยังไง”
My Work is My Life
“ตอนนี้ใช่เลยครับ ผมอยากหาเงิน หาความสุข อยากประสบความสำเร็จ ก็ต้อง Work is Life ผมคิดว่าถ้าเราประสบความสำเร็จ แอคชีฟตรงนี้ได้ ส่วนอื่นก็จะสามารถบาลานซ์ได้”
คุณปิยะพร อังอุบลกุล
Head Designer, The Potters Since 2012 by Srithai Superware Public Co., Ltd.
My Work
“ปัจจุบันโอ๋เป็น Head Designer ของแบรนด์ The Potters ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขยายมาจากแบรนด์ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ค่ะ ความแตกต่างของทั้งสองแบรนด์ที่เห็นได้ชัดคือ ปกติทั่วไป Tableware นั้นจะไม่ทำเป็นคอนเซ็ปต์เท่าไร แต่สำหรับ The Potters จะทำเป็นคอนเซ็ปต์ที่มีเรื่องราว โดยการนำ Inspiration มาจากยุโรป แนวคลาสสิกยุโรป ประมาณยุคของมารี อองตัวเน็ต ถ้วยจานชามจะมีความน่ารักๆ เพราะกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนแรก คือ คุณแม่มือใหม่ วัยรุ่น และเด็กหอ ในช่วงต้นที่โอ๋เริ่มเข้ามาทำก็รู้สึกว่ายากมาก เพราะเดิมเรามาจากการเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้า ซึ่งในแง่ของการออกแบบโอ๋ว่าเสื้อผ้าค่อนข้างเปิดกว้างมากกว่า แต่สำหรับจานชามนั้น เราต้องมาทำความเข้าใจถึงวิธีการทำก่อนเพราะเมลามีนเป็นระบบโรงงานขนาดใหญ่ ในเรื่องแบบเราต้องมีความแม่นยำมาก และต้องเข้าใจในการผลิตด้วย เพราะบางอย่างนั้นมีข้อจำกัดเยอะ
ที่สำคัญต้องคำนึงด้วยว่าเวลานำไปใส่อาหารแล้วน่าทานมากน้อยแค่ไหน บางครั้งการที่เราดีไซน์ลวดลายเยอะเกินไปอาจทำอาหารให้ไม่น่าทานได้ค่ะ และการที่เราสร้างแบรนด์ The Potters ขึ้นมาส่วนหนึ่งเพราะคนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยรู้จักเมลามีนแล้ว คุณพ่อจึงตั้งใจที่จะให้เด็กๆ รุ่นใหม่ๆ ได้มารู้จักว่าเมลามีนคืออะไร และอยากให้เขาเหล่านั้นรู้จักแบรนด์ศรีไทยผ่านแบรนด์ The Potters ด้วย ซึ่งในแบรนด์ The Potters เราได้สร้างตัวละครเป็นการ์ตูนขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของเมลามีนลงไปด้วยค่ะ”
My Principles
“ทำอะไรเราต้องรู้จริงค่ะ อย่างการที่โอ๋มาทำแบรนด์ The Potters และเราอิงกับยุคสมัยของยุโรป โอ๋ก็ต้องไปศึกษาข้อมูลเชิงลึกว่า ยุคนั้นเขาเป็นอย่างไร เขาใช้อะไร ทำอะไร และไม่ทำอะไร คือเราจะทำผิดยุคไม่ได้ ดีเทลทุกอย่างต้องถูกต้องตามยุคสมัยที่เราวางคอนเซ็ปต์ไว้ค่ะ ”
My Solutions
“ก่อนอื่นเราต้องลงมือด้วยตัวเอง ด้วยการไปหาปัญหาก่อนว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร เราต้องหาสาเหตุของปัญหาให้เจอแล้วเราก็นำมาคิด วิเคราะห์ มองหาข้อดี ข้อเสีย แล้วเก็บไว้เป็นประสบการณ์ค่ะ”
My Motto
“ทำอะไรทำจริง คือเมื่อใดที่เราลงมือทำอะไรสักอย่าง เราต้องทำอย่างจริงจัง และต้องติดตามงานนั้นจนจบค่ะ”
My Strength…
“ด้วยความที่โอ๋มีความรู้ และความถนัดในด้านดีไซน์ ทำให้โอ๋สามารถนำความรู้นั้นมาต่อยอดกับงานของคุณพ่อและพี่ชายได้ เพราะฉะนั้น Strength ของโอ๋ก็คือ การดีไซน์ เพราะโอ๋สามารถนำสิ่งนี้ไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้”
My Work is My Life?
“My Work is My Life ค่ะ (ยิ้ม) ส่วนตัวเป็นคนทุ่มเทกับงานทุกอย่างที่ทำนะคะ ตั้งแต่สมัยเรายังทำอยู่ Fly Now เราก็เป็นแบบนี้ จนตอนนี้มาทำแบรนด์ของเราเองก็ยังคงเป็นอย่างนี้อยู่ค่ะ”
คุณแพรดาว พานิชสมัย
Founder of Salubrity by Praedao & You Dee Mee Sook (อยู่ดี มีสุข)
My Work
“ตอนนี้มัดมุกหันมาทำโปรเจ็คท์ชื่อ You Dee Mee Sook (อยู่ดี มีสุข) ค่ะ เป็นการสร้างคอมมูนิตี้ที่เป็นศูนย์รวมด้านสุขภาพเพื่อคนรักสุขภาพ ในรูปแบบของ Market Place ให้คนสามารถมาเดินเล่น ซื้อของ ที่เกี่ยวกับ Food and Wellness กระตุ้นให้คนในสังคมหันมาออกกำลังกาย และใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ซึ่งงานเพิ่งจัดไปเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่าน ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ ชั้น 5 โดยในระหว่างวันเราก็มีการโชว์การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น การกระโดดแทรมโพลีน, เต้นซุมบ้า และมวยไทย แล้วก็มีช่วง Health Talk คือมีผู้รู้ และบุคคลที่มีอิทธิพล และใส่ใจในเรื่องสุขภาพมาร่วมพูดคุย และให้ความรู้ เพื่อร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ร่วมงาน เหมือนเป็นการพูดให้ความรู้ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ค่ะ ซึ่งโปรเจ็คท์นี้ก็มาจากความชอบส่วนตัวของมัดมุกเลย เพราะมัดมุกเป็นคนชอบออกกำลังกาย แล้วมัดมุกก็มองว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์
ไม่ใช่แค่เทรนด์ที่เดี๋ยวไปเดี๋ยวมา การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่เราควรจะให้ความสำคัญอยู่เสมอ เพราะสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ”
My Principles
“หลักที่สำคัญมากในการทำงาน คือ การมีทีมที่ดีค่ะ มัดมุกคิดว่าในการทำงานให้ประสบความสำเร็จเราต้องมีทีมเวิร์ก ซึ่งมัดมุกโชคดีที่ทีมงานหรือคนที่ทำงานร่วมกับมัดมุกเป็นคนที่เก่ง และมีประสบการณ์ เพราะฉะนั้นเขาก็ช่วยแนะ ช่วยสนับสนุนในสิ่งที่เราไม่รู้ได้ และเราเองก็นำสิ่งที่เรารู้มาช่วยสนับสนุนกันและกันค่ะ อีกอย่างที่มัดมุกให้ความสำคัญคือ ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร เราก็ต้องมีพาร์ทหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคมด้วยค่ะ”
My Solutions
“ตอนนี้มัดมุกพยายามมองปัญหาทุกอย่าง ให้เป็นเหมือนบททดสอบ มองว่ามันเป็นประสบการณ์ ให้เราได้เรียนรู้ เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้ไม่ผิดพลาดซ้ำๆ มองปัญหาให้เป็นครู ถ้าเกิดเจอปัญหาก็จะคิดว่า ดีนะที่เราเจอตอนนี้ ถ้าเกิดว่าปล่อยไปเรื่อยๆ มันอาจจะยากกว่านี้ มัดมุกว่าเราต้องมองทุกอย่างให้มัน Positive ต้องคิดในแง่ที่ดีไว้ก่อนค่ะ”
My Motto
“ในปีนี้ มัดมุกอยากจะคงคอนเซ็ปต์คำว่า มีความพอดีให้กับตัวเองในทุกๆ ด้าน เพราะว่ามัดมุกเป็นคนที่ค่อนข้างสุดโต่ง ฉะนั้นปีนี้มัดมุกจะฝึกสติ และอยู่กับความพอดีค่ะ”
My Strength…
“มัดมุกทำทุกอย่างด้วยใจ ทุกสิ่งที่ทำมาจากใจ เพราะมัดมุกเชื่อว่าการทำทุกอย่างด้วยใจน่าจะดีที่สุด อันนี้น่าจะเป็นจุดแข็ง และบางครั้งอาจจะเป็นจุดอ่อนของมัดมุกด้วยค่ะ” (ยิ้ม)
My Work is My Life?
“คำว่า My Life มันกว้างมากเลย ถ้าจะให้มัดมุกพูดแค่ว่าการทำงานเป็นชีวิตมัดมุกอย่างเดียวหรือเปล่ามันคงไม่ใช่ แต่มันน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมากกว่า ต้องบอกว่า My Work is a Part of My Life ค่ะ” (หัวเราะ)
คุณณัชชา ธนากิจอำนวย
Marketing Executive – Noble Development Public Co., Ltd
My Work
“ปัจจุบันช่ากลับมาทำงานกับที่บ้านค่ะคือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการบ้านและคอนโดอยู่หลายโครงการ เช่น โนเบิล เพลินจิต, โนเบิล รีโคล สุขุมวิท 19, โนเบิล รีฟอร์ม ฯลฯ ตอนนี้ช่าก็ทำในส่วนของ Marketing เป็นหลักค่ะ”
My Principles
“ถือว่าช่ายังเป็นมือใหม่มากๆ สำหรับการทำงานเลยค่ะ เพราะพอเรียนจบทางด้าน Illustration and Visual Media จาก London College of Communication ก็กลับมาทำงานเลย เท่ากับว่าตอนนี้ก็เริ่มทำมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ซึ่งคุณพ่อ (คุณกิตติ ธนากิจอำนวย) ก็ตั้งใจให้ช่าเรียนรู้งานในหลายส่วน ทำให้ช่าก็ต้องปรับตัวและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ก่อนค่ะ”
My Solutions
“ช่วงแรกช่ายังรู้สึกไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ แต่พอหลังๆ ก็มีเครียดบ้างเหมือนกัน คือเราอยากทำงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วช่าก็จะชอบกดดันตัวเอง ชอบคิดว่ามันต้องดีกว่านี้ได้อีก! เพราะช่ารู้สึกว่ามันไม่เหมือนกับตอนที่เรียน คืออย่างตอนนั้นถ้าเราเฟลหรือทำพลาด เราก็รับผิดชอบคนเดียว แต่พอมาทำงานกับคนทั้งบริษัททั้งแผนก บางครั้งถ้าเราเฟลทีมก็จะอาจจะเฟลไปด้วย ก็เลยยิ่งทำให้รู้สึกกดดันมากขึ้นค่ะ แต่ช่าก็พยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น แล้วก็พยายามปรับตัว ปรับวิธีคิด เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดนึงช่าเชื่อว่าเราจะรู้เองค่ะว่า จะต้องรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร”
My Motto
“จะมี Motto ของบริษัทที่ช่าคิดถึงอยู่เสมอคือ Be Different Be Noble เพราะฉะนั้นเวลาทำงาน คิดแคมเปญ คิดดีไซน์ หรือทุกอย่าง ช่าก็จะพยายามคิดให้แตกต่าง เพราะ Motto นี้คือความเป็นโนเบิลมากที่สุด”
My Strength…
“Strength ของช่าคือ การเป็นคนตรงต่อเวลาค่ะ คุณพ่อจะสอนเสมอว่า ‘เวลา’ คือสิ่งสำคัญ การที่เราเป็นคนตรงต่อเวลา ก็สามารถสร้าง First Impression ได้ แถมยังแสดงถึงความรับผิดชอบของเราด้วย ซึ่งคุณพ่อจะสอนในจุดนี้มากค่ะ เพราะเรื่องของการทำธุรกิจ เราต้องมีความรับผิดชอบ มีความจริงใจมากๆ”
My Work is My Life?
“สำหรับตอนนี้ช่ารู้สึกว่าใช่นะคะ เพราะช่าเห็นคุณพ่อทำงานมาตั้งแต่เด็ก แล้ว Noble คือสิ่งที่คุณพ่อสร้างและต้องการส่งต่อให้เรา เพราะฉะนั้นมันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราไปแล้ว (ยิ้ม)”
คุณวาริธร – วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์
Owner - Varithorn Boutique
My Work
คุณเปเป้: ปัจจุบันเราสองคนช่วยกันดูแลแบรนด์ ‘Varithorn Boutique’ แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงที่ร่วมกันทำมาประมาณ 6 ปีแล้วค่ะ ซึ่งช่วงแรกก็จะเน้นขายทางออนไลน์อย่างเดียว แต่ตอนนี้เรามีหน้าร้านแล้วคือที่ เซ็นทรัลชิดลม โดยเป้และบีก็จะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันค่อนข้างชัดเจน คืออย่างตอนนี้เป้มีลูก เราก็จะเน้นโฟกัสในส่วนของงานดีไซน์เป็นหลัก
คุณบูบี: ส่วนบีก็จะทำทุกอย่าง เช่น คุยกับลูกค้า รับออเดอร์ ส่งของ จัดของ ประสานงาน ฯลฯ คือจะดูภาพรวมทั้งหมดค่ะ
My Principles
คุณบูบี: หลักในการทำงานสำหรับเราไม่มีอะไรตายตัวค่ะ เพราะสไตล์ของเราก็จะแตกต่างกัน อย่างพี่เป้จะออกแนวเท่ๆ หรูๆ ส่วนบีจะชอบแนวหวานๆ น่ารัก ซึ่งตรงนี้บีก็มองว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวดี ดังนั้นเวลาจะทำคอลเลคชั่นใหม่ หรือทำอะไร เราก็จะมาแชร์ไอเดียกันมากกว่า ถ้าอันไหนไม่ชอบ ไม่โอเค ก็จะพูดคุยกัน แล้วก็มาชั่งน้ำหนักดูอีกทีว่าสิ่งไหนดีที่สุดสำหรับลูกค้าเราก็จะเลือกสิ่งนั้น
My Solutions
คุณบูบี: แน่นอนว่าทุกแบรนด์จะต้องเจอจุดที่ประสบปัญหา เช่น เรื่องของเศรษฐกิจ คนงาน หรือบางทีเราก็หมดไอเดีย ไม่มีอะไรแปลกใหม่ คือมันก็จะมีปัญหาวนเวียนมาให้แก้ไขอยู่ตลอด ซึ่งสำหรับบีก็จะพยายามแฮปปี้กับการทำงานให้มากที่สุด เพราะอย่างบีชอบพูดคุยกับลูกค้า ชอบขายของ บีก็จะตอบไลน์ โทรคุยเองทั้งหมดเลย มันก็เหมือนกับว่าเราต้องทำงานตลอดเวลา แต่ถ้าเรามีความสุขไปกับมัน เราก็จะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลยค่ะ
คุณเปเป้: เวลาที่มีปัญหา เราก็จะมาดูก่อนค่ะว่าปัญหานั้นมันคืออะไร ต้องแก้ยังไง แล้วก็จะค่อยๆ แก้ ค่อยๆ ทำไปทีละสเต็ป
My Motto
คุณบูบี: เราต้องมีความสุขในการทำงานอยู่เสมอค่ะ
My Strength...
คุณเปเป้: Strength สำหรับเราคือความ ‘ไม่ท้อ’ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะถ้าท้อคือจบค่ะ แต่ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ พยายามต่อไป เป้เชื่อว่ามันจะต้องมีวันที่ดีและประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
My Work is My Life?
คุณเปเป้: เป้คิดว่าชีวิตตรงจุดนี้ การทำงานคือสิ่งสำคัญที่เราต้องทำทุกวันค่ะ
คุณบูบี: ของบีก็เหมือนกันค่ะ คือเราต้องทำงานทุกวัน หยุดไม่ได้เลย แล้วอย่างบีจะต้องตอบไลน์ ติดต่อลูกค้าเองตลอด บางทีตีสองลูกค้ายังไลน์มาสั่งของอยู่เลย เราก็ต้องสแตนด์บายไว้ ฉะนั้นมันคือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ซึ่งบีก็โชคดีที่เราชอบงานแบบนี้อยู่แล้ว บีเลยไม่รู้สึกว่ามันคือ Work เพราะมันกลายเป็น Life ของบีไปแล้ว
คุณเลิศวริศ เลิศวรปรีชา
Co Founder - Wrapvertise Co., Ltd.
My Work
“ผมเปิดธุรกิจใหม่ชื่อว่า Wrapvertise ครับ เป็นบริษัททำสื่อโฆษณาเคลื่อนที่บนรถยนต์ในรูปแบบใหม่ โดยผมและหุ้นส่วน เริ่มจากสิ่งที่ชอบคือรถยนต์และเทคโนโลยี เราเริ่มจากธุรกิจ Wrap เปลี่ยนสีรถทุกชนิด จากตรงนั้นก็ต่อยอดมาถึงธุรกิจโฆษณา โดยเอา Product และ Application ที่มีประสิทธิภาพ มา Apply เข้าด้วยกัน ออกมาในรูปแบบของสื่อโฆษณาเคลื่อนที่บนรถ โดยเราเป็นตัวกลางในการช่วยหารายได้เสริมให้แก่ผู้ที่ใช้รถ คือเขาแค่เอารถมา Wrap โฆษณากับเรา แล้วขับไปทำงานหรือใช้ไลฟ์สไตล์ตามปกติ เราจะแมชชิ่งงานโฆษณาบนรถให้เหมาะกับลูกค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยผ่านแอปพลิเคชั่นที่มีประสิทธิภาพของเรา”
My Principle
“ผมจะแบ่งหน้าที่กับหุ้นส่วนค่อนข้างชัดเจนตามความถนัด คือผมดูแลรับผิดชอบงานด้าน Operation ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ทำกราฟฟิก ฯลฯ ส่วนเพื่อนหุ้นส่วนจะอยู่แนวหน้า ดูแลงานขาย หา Sourcing ต่างๆ ครับ”
My Solution
“จากที่ผ่านมาการทำงานมีทั้งความยากง่าย ความท้าท้าย และปัญหาต่างๆ ให้ได้เรียนรู้และแก้ไขโดยตลอดครับ บางเรื่องก็ต้องขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ หรือบางเรื่องที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ก็จะปรึกษาขอความคิดเห็นจากคุณแม่ (คุณสิริน ฉัตรวิชัย) ส่วนเมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็ถือเป็นบทเรียน ที่ผมต้องรีบแก้ไขโดยด่วน”
My Motto
“มีเป้าหมายและทำให้ดีที่สุด”
My Strength...
“การรับฟัง นำไปคิด พิจารณา และปฏิบัติ”
My Work is My Life?
“ใช่เลยครับ สำหรับผมตอนนี้ My Work ก็คือ My Life ผมเพิ่งก้าวเข้ามาในวงการธุรกิจ ความสำเร็จคือสิ่งที่ผมคาดหวัง ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งรายได้ หรือประสบการณ์ที่มากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องอยู่บนพื้นฐานที่ตัวเองมีความสุข สามารถดูแลคนรอบข้างและตอบแทนผู้มีพระคุณได้ครับ”
คุณศิริกาญจน์ บุญกาญจน์
Marketing Manager, Odinric-Thai Co., Ltd.
My Work
“ปัจจุบันฝ้ายทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของบริษัทออดินริค-ไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมโดยตรง โดยผลิตภัณฑ์ที่เราผลิตแล้วเป็นที่รู้จักก็คือ ‘เบอกาม็อท’ ค่ะ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่คุณพ่อ คุณแม่สร้างมาด้วยตัวเอง แล้วก็ส่งต่อมาถึงรุ่นฝ้ายที่ต้องเข้ามาช่วยบริหาร ซึ่งพอฝ้ายเข้ามาก็ได้มีการรีแบนดิ้ง งานหลักๆตอนนี้ที่กำลังทำ และเห็นได้ชัด คือการเปลี่ยนภาพลักษณ์ เปลี่ยนแพ็กเก็จจิ้ง รวมไปถึงการใช้สี และแพลนที่กำลังตามมา คือปรับด้านการสื่อสารกับผู้บริโภค เพราะความจริงแล้วภายในบริษัทของเรามีผลิตภัณฑ์อยู่หลายตัวนะคะที่ดูแลเกี่ยวกับเส้นผม นอกเหนือจาก แบรนด์เบอกาม็อท และภายใต้ชื่อเบอกาม็อทเองก็มีหลายผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากแชมพูที่ช่วยลดอาการผมร่วง แต่ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทราบ ฝ้ายจึงเข้ามาทำการตลาดตรงนี้ให้กว้างขึ้น และให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าเรามีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม หลากหลาย และเหมาะสมกับทุกเพศวัย ไม่ใช่เพียงแค่แต่วัยผู้ใหญ่เท่านั้น และที่สำคัญผลิตภัณฑ์ของเราใช้สารสกัดจากธรรมชาติอย่างแท้จริงด้วยค่ะ”
My Principles
“สิ่งที่ฝ้ายได้เรียนรู้จากคุณพ่อคุณแม่เลย คือคุณพ่อคุณแม่จะปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนในบริษัทเหมือนเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เราอยู่กันแบบพี่น้อง เพราะคุณพ่อคุณแม่ท่านอยากให้ที่ทำงานมีความสุข ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากให้บริษัทของเราเป็น Happy Work Place เพราะเมื่อบรรยากาศในการทำงานดี คนก็จะมีจิตใจและอารมณ์ที่ดี งานที่ออกมาก็จะดีไปด้วยค่ะ”
My Solutions
“เวลาเกิดปัญหาในการทำงาน เราก็ต้องใช้การประนีประนอมเป็นหลักค่ะ ไม่ว่าปัญหานั้นจะเกิดขึ้นกับใคร คือเราก็ต้องตั้งสติ ใจเย็น และก็ค่อยๆ แก้ไข และถ้าเป็นปัญหาส่วนตัวเวลาที่ฝ้ายเจอ ถ้าตอนนั้นเรายังคิดไม่ออก ฝ้ายก็จะพาตัวเองออกจากตรงนั้นก่อน เพราะถ้าเราฝืนไปก็ยังแก้ไม่ได้อยู่ดี ฝ้ายจะไปทำใจให้สบายๆ แล้วก็ค่อยมานั่งดูปัญหาใหม่ บางทีเราอาจจะมองเห็นหนทางแก้ไข ที่ตอนแรกเรามองไม่เห็นก็ได้ค่ะ”
My Motto
“Work Hard Play Hard ค่ะ (หัวเราะ) คือมันเหมือนกับการที่เราต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ เพื่อให้มี Work-Life Balance ที่ดี ถ้าเรามัวจมอยู่กับงานอย่างเดียว ชีวิตอีกส่วนหนึ่งเราก็จะหายไปเลย แต่ในทางกลับกันถ้าเราจะเล่นอย่างเดียวเลยก็ไม่ได้ งานก็จะเสีย ฝ้ายจึงพยายามจะบาลานซ์ทุกอย่างให้ดีค่ะ”
My Strength…
“ฝ้ายเป็นคนคิดนอกกรอบค่ะ จะเป็นคนที่คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น จะคิดอะไรที่แปลก และแตกต่างจากคนทั่วไป ซึ่งก็เป็นข้อดีนะคะ เพราะเวลาที่เราเจอปัญหา ทุกคนก็จะมองทางเดียวกันไปหมด แต่พอฝ้ายคิดต่างเราก็จะมีอีก Solution หนึ่งมาเสนอ มันก็จะมีทางออกที่เป็นไปได้เพิ่มขึ้น”
My Work is My Life?
“ถือว่าใช่นะคะ เพราะว่าทั้งชีวิตตอนนี้ฝ้ายมีแต่งาน คือเราต้องทุ่มเทมากในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่กำลังจะส่งไม้ต่อให้ เราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ท่านเห็นว่าเราทำได้ และโปรเจ็คท์ที่เราตั้งใจทำอยู่ตอนนี้ถือว่าเป็นโปรเจ็คท์ใหญ่มาก ซึ่งฝ้ายต้องให้เวลา และทุ่มเทอย่างเต็มที่ค่ะ”
คุณดลนภา ธรรมวัฒนะ
Head of Marketing – Body Glove, BGT Corporation Plc.
Managing Director – DB Group Co., Ltd. ผู้นำเข้า TOKYO MILK CHEESE FACTORY และ LeTAO
My Work
“งานที่ดรีมทำอยู่ตอนนี้อย่างแรกคือการเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของแบรนด์ Body Glove ภายใต้ บริษัท BGT Corporation จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทนี้ คุณพ่อ (ดร.นพดล ธรรมวัฒนะ) เป็นผู้ก่อตั้งค่ะ ดรีมได้เข้ามาช่วยคุณพ่อในเรื่องของงานด้านการตลาด และในขณะเดียวกันช่วงสองปีที่ผ่านมาก็ได้แบ่งเวลาบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ ไปลองหาโอกาสใหม่ๆ ที่มองว่าเราน่าจะทำเองได้ นอกเหนือจากธุรกิจที่บ้าน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ดรีมได้ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และได้ไปชิม ผลิตภัณฑ์ขนมของ LeTAO (เลอ ทา โอะ - แบรนด์ชีสเค้กและเบเกอรี่ชื่อดังจากญี่ปุ่น) แล้วชอบ ประทับใจในความอร่อยที่มีเอกลักษณ์ของเขามาก ดรีมชอบถึงขั้นว่าพอกลับมาเมืองไทยก็จัดทำ Business Plan และส่งไปที่ญี่ปุ่นเลย ใช้เวลาอยู่ร่วมปี จึงได้แบรนด์นี้มาจำหน่ายในเมืองไทย ถือเป็นงานอีกชิ้น
ที่เป็นธุรกิจที่เราทำด้วยตัวเองค่ะ”
My Principles
“ด้วยความที่เราเห็นคุณพ่อทำงานมาตั้งแต่เด็ก เราก็ได้ซึมซับในสิ่งที่คุณพ่อทำและสอนมาตลอดว่าอะไรก็ตามที่เราจะทำ เราต้องมีความตั้งใจ และต้องทำให้สุด ยิ่งเมื่อใดที่เรามีโอกาสเข้ามาก็อย่าปล่อยให้หลุดมือไป เพราะว่าโอกาสไม่ได้เข้ามาตลอด เราต้องคว้าไว้ แล้วลงมือทำ เพราะถ้าเราไม่ลงมือทำโอกาสประสบความสำเร็จของเราก็เท่ากับศูนย์ แต่ว่าถ้าเราเริ่มลงมือเท่ากับเรามีโอกาสในการประสบความสำเร็จ 50/50 ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดรีมจดจำและยึดถือมาตลอดล่ะ และก็นำมาใช้เป็นหลักในการทำงานของเรา”
My Solutions
“ถ้าเจอปัญหาสิ่งเดียวที่เราจะต้องทำก็คือ ต้องแก้ ธุรกิจหรือแม้แต่อะไรก็ตามในชีวิตเราก็ต้องมีปัญหา เรามีอะไรเข้ามาให้แก้ไขทุกวันอยู่แล้ว อย่ากลัวที่จะต้องแก้ หรือทดลอง คือบางทีเราแก้ปัญหาไปมันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ต้องค่อยๆ ทดลองปรับแก้ไขไป เพื่อผลลัพธ์สุดท้ายออกมาดีที่สุด ฉะนั้นเราต้องใจเย็น และต้องอดทนค่ะ”
My Motto
“พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยไม่ใช่เพียงแค่คิดที่จะพยายาม แต่เราต้องลงมือทำด้วย”
My Strength…
“คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีความขยัน ความพยายาม และก็มีความอดทนในระดับหนึ่งค่ะ และก็ชอบลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และเป็นคนที่พร้อมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา”
My Work is My Life?
“ค่อนข้างค่ะ เพราะว่าเป็นคนที่ใช้เวลากับการทำงานหลายชั่วโมงในทุกๆ วัน เพราะเราเลือกเองที่จะทำทุกอย่าง เลือกเองที่จะช่วยงานคุณพ่อ เลือกเองที่จะเปิดธุรกิจของตัวเอง เพราฉะนั้นเราก็ต้องทุ่มเทเวลากับทุกอย่างที่เราได้เลือกเองค่ะ”
