“สำหรับปีนี้ CTS Group ก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ค่ะ เราเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร ที่มีบริการตั้งแต่ลูกค้าที่ซื้อรถมาใหม่หรือรถที่มีอยู่แล้วเข้ามารับบริการติดฟิล์มกันรอย ฟิล์มนิรภัย ฟิล์มกรองแสง ตลอดจนดูแลเคลือบแก้วตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอกรถ และหากรถมีการขับรถไปเฉี่ยวชน เรายังมีบริการศูนย์ซ่อมสี ซ่อมตัวถังโดย The Specialist Garage by CTS ซึ่งพร้อมรับงานเคลมประกัน เปลี่ยนสีตัวถัง ซ่อมสีเฉพาะจุด และพ่นฟิล์มปกป้องตัวถังรถ
นอกจากนี้ เรายังมีแผนก CTS Home สำหรับคนรักบ้าน ที่มีการบริการเพื่อดูแลในเรื่องของรักของหวง อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หิน โซฟา เรายังสามารถ Wrap ในส่วนของท็อปหิน รวมไปถึงของมีค่าชิ้นสำคัญอีกด้วยค่ะ”
ในยุคแห่งการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่ง CTS Group มีการหยิบยกเรื่องใดมาปรับใช้ในองค์กรบ้าง
“ที่ CTS Group เรานำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในเรื่องของการทำการตลาดออนไลน์ค่ะ โดย AI จะมีบทบาทในการสร้างคอนเท้นต์ใหม่ๆ เพื่อค้นหากลุ่มลูกค้าที่ตรงกลุ่ม นำมาใช้ในการตกแต่งรูปภาพ กราฟิกดีไซน์ ซึ่งเราเองมีการศึกษาทำความเข้าใจและนำมาปรับใช้กับองค์กรมากขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพขององค์กรให้ครอบคลุมมากที่สุดค่ะ”
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเสมอ เมื่อเข้ามาใช้บริการที่ CTS ตั้งแต่วันแรก จวบจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 19
“จริงๆ เรามี Policy ว่ารถทุกคันที่เข้ามาใน CTS เราให้การบริการแบบ Zero Complaint ซึ่งเป็น Policy ที่เราตั้งใจทำมาตั้งแต่วันแรกค่ะ เราปักหมุดไว้เลยว่าลูกค้าจะต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับไปเท่านั้น โดยรถทุกคันจะได้รับการดูแลจากช่างเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญ ที่ถูกผ่านการดูแลพรีเมี่ยมคาร์ ซูเปอร์คาร์ ในทุกบริการ ทำให้จุดนี้ เราจึงได้รับความไว้วางใจจากคนรักรถที่เลือกเข้ามารับบริการมากกว่าหกหมื่นคัน และเราดูแลรถทุกรุ่นทุกแบรนด์ผ่านมาตรฐาน iso 9001 : 2015 จากประเทศอังกฤษ ซึ่งเราคือเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐานการให้บริการนี้
ซึ่งเราเชื่อมั่นและไม่เคยหยุดพัฒนาการให้บริการ เพราะเราเชื่อว่าการบริการของลูกค้าที่ดีเยี่ยม ไม่เพียงแค่ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า แต่สิ่งนี้คือการสร้างความพึงพอใจในทุกการบริการ และทำให้ลูกค้ากลับมา ฉะนั้นการดูแลลูกค้า นโยบาย Zero Complaint เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกวันนี้ CTS อยู่ได้ คือธุรกิจเราที่เป็นเหมือนวัฏจักร เป็นลูกค้าเก่า ซึ่งเวลาออกรถไปใช้แล้ว เมื่อออกรถคันใหม่ ลูกค้าก็กลับมาใช้บริการกับเราเสมอ ซึ่งเราก็จะมี Package ใหม่ๆ เพื่อรองรับให้ลูกค้าได้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่องเช่นกันค่ะ”
หลักการบริหารงาน
“สำหรับแคทจะเน้นการเอาใจใส่พนักงานให้เป็นรากฐานสำคัญขององค์กรค่ะ ซึ่งการทำงานที่เป็นไปด้วยดีนั้น ส่วนสำคัญคือพนักงานเขาจะนำเอาศักยภาพสูงสุดของตัวเองมาใช้ในการทำงาน ดังนั้นการทำสภาพแวดล้อม วัฒนธรรมองค์กรให้ดี จะสร้างแรงจูงใจให้พนักงานรักบริษัท และช่วยให้งานที่ทำอยู่นั้นออกมามีคุณภาพ ที่สำคัญเราจะสอนให้พนักงานรักรถ เหมือนที่เรารัก สอนให้รักรถลูกค้าเสมือนรถของตัวเอง เมื่อเราปลูกฝังในความรัก ให้เขารักในอาชีพที่เขาทำ รักเหมือนกับที่เราทำเกี่ยวกับการดูแลรถ ดูแลของสำคัญ เขาก็จะสามารถถ่ายทอดการดูแลการให้บริการที่ดีที่สุดส่งถึงลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการที่ CTS ค่ะ”
Working Woman ในแบบฉบับของคุณ
“อันดับแรก ต้องรู้จักตัวเองก่อนค่ะ คือต้องรู้จักสิ่งที่เป็นตัวเองทั้งหมด อันดับสอง ความอิสระในตัวเอง คือมีความชัดเจน มีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วก็ไม่ยึดติดกับสิ่งอื่น หรือไม่ยึดติดกับตัวบุคคลใด และสิ่งสำคัญคือต้องมีเป้าหมายในชีวิต สำหรับแคท My Work is My Life เป้าหมายคือเรื่องของการทำงาน เรามีความตั้งใจที่จะต้องประสบความสำเร็จ อย่างวันนี้ที่แคททำธุรกิจ CTS เป้าหมายหลักคือทำให้ลูกค้าพึงพอใจที่สุด และจะไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งตอนนี้มีหัดเรียนภาษาจีน เพื่อนำมาต่อยอดการทำธุรกิจให้เติบโตขึ้นไปอีก หรือหากมีอะไรใหม่ๆ ที่เราชอบ ที่สามารถนำมาพัฒนาสิ่งที่ทำอยู่ได้ ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ รวมไปถึงในเรื่องของการพัฒนาพนักงานในแผนกต่างๆ เราเองก็มีการ Training อยู่เสมอ อย่างเช่น นำเอาช่างจากเมืองนอกเข้ามาสอนเทคนิคให้กับช่างคนไทยของเรา มาอัพเดทเรื่องใหม่ๆ เพื่อปรับใช้ในการทำงานค่ะ”
แนวทางที่ยึดถือมาโดยตลอด
“ความไว้ใจและความพึงพอใจของลูกค้าคือความรับผิดชอบของแคทตลอด 19 ปีที่ CTS”
