counters
hisoparty

GUCCI The Alchemist’s Garden Collection เผยน้ำหอม 3 กลิ่นใหม่สุดยูนีค

23 hours ago

เรื่องราวความหอมร่วมสมัยสะท้อนถึงการเดินทาง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานศิลปะเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสสารอันเป็นมรดกล้ำค่าจากรุ่นสู่รุ่น ที่ได้รับการพัฒนาและกำหนดนิยามขึ้นใหม่ในเมืองฟลอเรนซ์ ถิ่นกำเนิดของ Gucci ยุคเรเนซองส์ของอิตาลี และนับเป็นจุดเริ่มต้นของการปรุงน้ำหอม The Alchemist’s Garden Collection

          โดยนักปรุงน้ำหอมผู้เชี่ยวชาญจะจรุงปรุงกลิ่นอันเย้ายวนจากการผสานส่วนผสมพิเศษ ที่คัดสรรอย่างประณีตจากทั่วทุกมุมโลก สร้างสรรค์ผ่านกระบวนการพลศาสตร์ (Dynamic) ที่ได้แรงบันดาลใจจากการแปรธาตุทางเคมีทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ร่วมกับการค้นหาส่วนผสมล้ำค่าจากดอกไม้ 4 ชนิด ได้แก่ ดอกออริสอิตาเลียน (Orris Italian) ดอกกุหลาบดามัสเซน่า (Damascena Rose) ดอกเนโรลี (Neroli) และดอกออสมันตัส (Osmanthus) นำมาสกัดในกรรมวิธีที่แตกต่างกัน แต่ละกลิ่นจะเข้าถึงแก่นแท้ของกลิ่นหอมใหม่ ที่นำไปสู่การฟื้นคืนชีพของหลักปฏิบัติอันเป็นเอกลักษณ์ 

          ในที่สุดก็สามารถสร้างสรรค์น้ำหอม 3 กลิ่นใหม่ในคอลเลกชัน The Alchemist’s Garden ได้แก่ Vanilla Firenze Eau de Parfum บอกเล่าเรื่องราวงานฝีมือที่ส่งต่อจากบรรพบุรุษและความเป็นเลิศทางด้านกลิ่น โดยมาพร้อมกลิ่นหอมแบบ Floral Woody Amber บวกกับกลิ่นหอมอันหรูหราที่ได้จากสารสกัดจากวานิลลา 3 ชนิด, Fiori di Neroli Eau de Parfum กลิ่นหอมของดอกไม้สดใส ผสานกับความสดชื่นของน้ำมันหอมระเหย Petitgrain Essential Oil ทำให้ได้กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ปลุกจิตวิญญาณแห่งความสบายใจในช่วงฤดูร้อนของอิตาลี และ Osmanthus Nectar Eau de Parfum กลิ่นหอมสไตล์ Floral Fruity Woody จากการนำดอกหอมหมื่นลี้มาผ่านเทคนิคการเก็บโมเลกุลของกลิ่นหอมไว้ใต้แก้วครอบ เติมเต็มความอบอุ่นให้กับน้ำมันหอมระเหยไม้จันทน์ (Sandalwood Essential Oil) มอบผลลัพธ์เป็นกลิ่นครีมมี่ มีเบสเป็นไม้หอม และกลิ่นเครื่องเทศแห้งๆ ทำให้มีมิติมากขึ้น 

          สำหรับน้ำหอมคอลเลกชัน The Alchemist’s Garden สุดหรูหรามาพร้อมกลิ่นหอมยูนีคเฉพาะตัว แบ่งออกเป็น กลิ่นในตระกูล Substratum มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ยางไม้ (Resins) ไม้ (Woods) และใบไม้แห้งที่ผ่านกระบวนการเผา บด และสกัดด้วยสารละลาย กลิ่นในตระกูล Vaporum ประกอบไปด้วยส่วนผสมบริสุทธิ์ที่สุดและโมเลกุลสังเคราะห์ได้รับการสกัดด้วยก๊าซอย่างอ่อนโยน กลิ่นในตระกูล Liquidum นำศาสตร์การกลั่นโบราณมาเปลี่ยนสสารด้วยพลังของน้ำ และ กลิ่นในตระกูล Ignis ขยายขอบเขตของการเล่นแร่แปรธาตุ โดยใช้เทคนิคที่ก้าวล้ำเพื่อสร้างกลิ่นหอมสุดท้าทาย

          The Alchemist’s Garden Collection จึงเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุกับน้ำหอมทันสมัยที่ทำให้เกิดการปรุงแต่งกลิ่นหอมอันหรูหราจากนวัตกรรมใหม่ โดยมี Tears from the Moon น้ำหอมกลิ่นยอดนิยมที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของมรดกการเล่นแร่แปรธาตุอย่างแท้จริง 

พร้อมเปิดโสตประสาทสัมผัส 3 กลิ่นหอมสุดยูนีคใหม่ ภายใต้คอลเลกชัน The Alchemist’s Garden ได้ที่ เคาน์เตอร์ GUCCI ทุกสาขา

Author By : Lady K.

SHARE