‘ความสุข’ คือ...
หลายคนคงเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเอง ว่าความสุขที่แท้นั้นคืออะไร และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่ตั้งคำถามนี้ แล้วจะได้คำตอบที่แท้จริง
ซึ่งก่อนที่เราจะเข้าสู่ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่วันนี้ HiSoParty มีข้อคิดดีๆ ของสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง ที่เมื่อก่อนเรามีโอกาสได้พบหน้าเขาอยู่เป็นประจำในงานสังคมต่างๆ แต่มาในระยะหลังนี้ ที่เขาห่างหายไป ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานที่เขากำลังมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำอยู่ และอีกส่วนหนึ่งคงมาจากการที่เขาได้ค้นพบความสุขของตัวเอง กับ ความสุขง่ายๆ ที่อยู่รอบๆ ตัว ของ คุณกันต์ รัตนาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท Maison de Bangkok (เมซอง เดอ แบงค็อก)
นอกจากจะได้ฟังแนวคิดดีๆ เกี่ยวกับมุมมองความสุขของเขาแล้ว คุณกันต์ ยังได้แชร์เคล็ดลับการดูแลตัวเองที่น่าสนใจ ไว้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นดูแลตัวเองให้กับทุกคนอีกด้วย
“ผมเป็นคนวางตารางชีวิต โดยเริ่มตั้งแต่การนอน ผมคิดว่าการนอนเป็นความสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะการที่คนเราจะมีสุขภาพที่ดี มีผิวพรรณที่ดี หรือมีร่างกายที่ดี ต้องมาจากการนอนที่มีคุณภาพ ฉะนั้นสำหรับผมการนอนคือสิ่งสำคัญในการดูแลตัวเองครับ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากที่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย คือถ้าผมนอนไม่พอ ผมจะไม่มีพลังพอที่จะไปออกกำลังกาย การพักผ่อนนอนหลับของผมอย่างน้อยต้องประมาณ 6-8 ชั่วโมงครับ
“อันดับสองคือการทาน ผมคิดว่าเราควรทานให้ดี ตื่นมาอย่างแรกที่ผมทานเข้าไป มักจะเป็นผลไม้ หรือน้ำผลไม้ ซึ่งผมคิดว่าร่างกายเรานอนไปเกือบสิบชั่วโมง ฉะนั้นสิ่งแรกที่เราทานเข้าไป มันควรจะเป็นของดี ควรเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์ ต่อร่างกาย เช่น พวกวิตามินที่ได้จากผลไม้เหล่านี้
"อันดับที่สาม ตารางในทุกๆ วันของผมคือ การออกกำลังกาย ไม่ว่าจะมีเวลาหรือไม่มีเวลาจะต้องไม่มีข้ออ้าง ผมออกกำลังกาย 7 วันต่อ อาทิตย์ เริ่มจากหนึ่งชั่วโมงคาดิโอ และอีกหนึ่งชั่วโมงยกเวท โดยในทุกๆ วันต้องออกกำลังกายไม่ต่ำกว่า 1.30 – 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ผมจะตั้งนาฬิกาเพื่อนับก้าวเดินไว้ ไม่ให้ต่ำกว่า 15,000 – 20,000 ก้าวต่อวัน เหมือนเป็นการสัญญากับตัวเองว่าตารางของเราจะต้องทำให้ได้ตามนี้ ซึ่งทั้งหมดที่ผมเล่าผมทำมาเข้าปีที่ 5 แล้ว แน่นอนว่าตอนเริ่มต้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ มันคงคล้ายกับการว่ายน้ำใหม่ๆ อาจจะว่ายไม่ค่อยเก่ง แต่เมื่อเราว่ายทุกๆ วัน เราก็จะคล่อง ซึ่งมันทำให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่เราทำโดยไม่ต้องพยายาม
“ด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมจึงต้องสร้างตารางให้กับตัวเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มมาตอนนี้คือการทำ Intermittent Fasting ซึ่งผมทำมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ผมจะทานแค่ 4 ชั่วโมง และงดทาน 20 ชั่วโมง ส่วนช่วงเวลาจะขึ้นอยู่กับแผนของวันนั้นๆ อย่างเรามีนัดทานข้าวเย็น ผมจะเลื่อนมาทานตอนดินเนอร์แทนครับ แต่ปกติก็จะทานตอนกลางวันคือ เที่ยง ถึงสี่โมง ผมคิดว่าการที่ผมทำ Fasting มันทำให้ผมสามารถทานทุกอย่างที่ผมอยากทานได้ โดยที่ไม่ได้รู้สึกผิด และที่สำคัญเรามีความสุขกับสิ่งที่เราได้ทานทั้งหมด มันไม่เหมือนกับการไดเอท เราต้องงดอาหาร งดของหวาน มันทำให้เราเครียด และไม่มีความสุข ผมว่านี่ก็เป็นตารางชีวิตที่ค่อนข้างลิงค์กันกับสิ่งที่ผมคิด คือการให้ความสุขเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตครับ”
ขอขอบคุณสถานที่ Open House Central Embassy
VDO Editor: Joe Cheung
Photo: Veeraphol
Author: Arunlak