“ปัจจุบันผมกำลังศึกษาอยู่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษครับ
เหตุผลที่เลือกเรียนทางด้านนี้ เพราะเหมือนกับว่าชีวิตผมคลุกคลีกับสาขาวิชาชีพของแพทย์มาโดยตลอด คุณแม่เป็นพยาบาล คุณพ่อเป็นหมอ และพี่ชายก็เป็นหมอเช่นกันครับ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นสาขาวิชาที่คุ้นชิน และยังรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพไม่กี่อาชีพที่สามารถได้ทำบุญตลอดเวลา ได้ช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลา จึงเลือกเรียนสาขาวิชานี้ครับ
“โดยส่วนตัวผมอยากทำงานในประเทศไทย จึงเลือกศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่นี่ เพราะหากเลือกไปเรียนเมืองนอก หลังจากที่เรียนจบกลับมา จะทำงานที่ไทยค่อนข้างยุ่งยาก เพราะหลักสูตรการเรียนการสอนมีความแตกต่างกันมาก จะมีจุดซับซ้อนบางอย่างไม่ค่อยเหมือนกัน และที่สำคัญ ผมเองก็อยากอยู่ใกล้บ้านด้วยครับ (ยิ้ม)
“นอกเหนือจากการเรียน ผมเป็นคนชอบฟัง เพลงครับ และคิดว่าตัวเองคงใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ถ้าขาดเสียงเพลง เนื่องจากผมเป็นนักศึกษาแพทย์และต้องทำงาน และอ่านหนังสือแทบจะทุกวัน การฟังเพลงทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและทำให้ทำงาน อ่านหนังสือ ได้อย่างสบายใจมากขึ้น นอกจากนี้ ผมยังชอบฟัง Podcast เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมและแก้เบื่อ โดย Podcast ที่ผมฟังส่วนมากจะเป็นบทสัมภาษณ์ศิลปินหรือบุคคลที่ผมชื่นชอบ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับทัศนคติที่แตกต่างของแต่ละบุคคล และเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันในการพัฒนาตัวเองครับ”
สิ่งที่ยึดถือเสมอ
“จริงๆ แล้วผมมีอยู่หลายสิ่งที่ยึดถือครับ แต่ว่าสิ่งที่คิดว่ายึดถือมากที่สุด และทำมาโดยตลอดก็คือ ชีวิตต้องสนุกครับ เพราะว่าถ้าเมื่อไรชีวิตผมรู้สึกไม่สนุก ผมจะรู้สึกไม่อยากทำอะไรต่อ อย่างการเรียนแพทย์ ไม่ว่าจะเครียดแค่ไหน ผมก็ยังรู้สึกว่าการเรียนมันยังสนุกอยู่ ก็เลยยังเรียนต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้ครับ”
อยากช่วยเหลือสังคมในด้านใดบ้าง
“เชื่อมโยงกับเรื่องที่มาเรียนทางด้านแพทย์ครับ คืออยากคล้ายๆ เหมือนกับได้ทำบุญตลอดเวลา แต่ว่าในตอนนี้เหมือนระบบการรักษาคนไข้ของประเทศไทยมันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ ตรงที่ทุกคนไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้เต็มที่ ก็เลยรู้สึกว่าอยากทำให้ระบบการรักษาในประเทศไทยมันสามารถให้ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น และมีความคิดอยากจะลองไปเป็นแพทย์อาสาในชุมชนต่างๆ เพื่อจะได้เข้าถึงและสามารถช่วยคนได้อย่างเต็มที่ครับ”
ปัญหาของประเทศไทยที่มองเห็นมาตลอดและอยากแก้ไข
“ปัญหาที่ผมอยากแก้มากที่สุดคือปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมและความเหลื่อมล้ำทางสังคมครับ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของการสมรสเเท่าเทียมหรือการที่ทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะผมรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาที่กระทบคนส่วนมากในประเทศนี้ และคิดว่าประชาชนก็เป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้เจริญขึ้นได้ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าการแก้ปัญหาตรงจุดนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นและจะทำให้สภาพสังคมในประเทศน่าอยู่มากขึ้นในเวลาเดียวกัน”
อยากเห็นประเทศไทยเป็นแบบใดในอนาคต
“โดยรวมผมอยากเห็นประเทศไทยมีความขัดแย้งน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความหลากหลายทางความคิดที่มากขึ้น นั่นคือผมอยากให้คนไทยยอมรับและเคารพความคิดเห็นของคนอื่นที่อาจไม่ตรงกับความคิดเห็นของตัวเองได้มากขึ้น เพราะในท้ายที่สุด ทุกคนควรมีเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกในแบบที่ตัวเองอยากทำ ผมรู้สึกว่าถ้าสภาพสังคมสามารถเป็นแบบนี้ได้ ประชาชนจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ประเทศได้พัฒนาในด้านที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วยครับ”
Author By : K_Wondrous