ลมร้อนมักขับไสผู้คนให้ออกเดินทางเสมอ โดยเฉพาะนักเดินทางผู้ประกาศตัวว่าเป็นนักล่าเกาะน่าเที่ยว ไม่มีทางซะหรอกที่จะนั่งผึ่งแอร์เย็นฉ่ำอยู่กับบ้าน เมื่อซัมเมอร์ปรากฏตัวไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้พาตัวเองและคนรักออกไปเอนหลังตามเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่อยู่ตามมุมต่างๆ ของโลก เราคัดมาทั้งเกาะใกล้ๆ ที่ไปเที่ยวกันได้ทุกปีอย่างมัลดีฟส์ ไปจนถึงเกาะที่เป็น Exotic Destination อย่างเกาะเซเชลส์ และเกาะซิซิลีเกาะในอิตาลีที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าทั้งสุนทรียทั้งรื่นรมย์ ใครใคร่สัญจรไปหาเกาะไหนเลือกได้ตามอัธยาศัย
Sicily
ซิซิลีคือเกาะที่มีความงดงามเป็นต้นทุน มีความสุนทรียและความรื่นรมย์ห่มเกาะเอาไว้ ในเวลาเดียวกันก็ซ่อนความลึกลับเอาไว้รอให้นักเดินทางทุกคนไปค้นหา นี่คือเกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศอิตาลี ที่แออัดไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนานกว่า 4,000 ปี และที่ผ่านมามีทั้งพวกกรีก โรมัน คาร์เทจ อาหรับ นอร์มัน เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองเกาะนี้ นั่นเป็นเหตุผลให้เกาะซิซิลีมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตามไปด้วย เพราะช่วงไหนใครปกครองก็หอบหิ้ววัฒนธรรมในแบบของตัวเองเข้ามาด้วย
ซิซิลียังถือว่าเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย และแวดล้อมไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติทั้งทางทะเลและภูเขาไฟเอทนาที่สูงกว่า 3.3 พันเมตร ที่เชิ่ดหน้าดูผู้คนบนเกาะกว่า 5,000,000 คน
ซิซิลีเนื้อหอมไม่แพ้มุมไหน เพราะแต่ละปีจะมีนักเดินทางมาเยือนปีละหลายล้านคน เมื่อมาถึงพวกเขามักจะไปตั้งหลักกันที่เมืองปาแลร์โม (Palermo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะซิซิลี
ปาแลร์โมเป็นเมืองที่ร่ำรวยประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเดินซอกแซกไปมุมไหนของเมืองก็มักจะเจอกับสถานที่ที่เก่าแก่และน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารแห่งปาเลอร์โม (Palermo Cathedral) ที่สร้างตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 นับเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใหญ่โต เรียกว่าใหญ่ไม่แพ้ดูโอโมในฟลอเร็นซ์และมิลานเลย นอกจากมหาวิหารแล้วยังมีย่านเมืองเก่าที่เรียกว่าควอทโตร คานติ (Quattro Canti) และมุมที่ทุกคนไปลั่นชัตเตอร์กันไม่ยั้งคือบริเวณจัตุรัสเปโตรเรีย (Piazza Petroria) ที่มีอนุสาวรีย์รายล้อมด้วยน้ำพุและรูปปั้น
ผละจากปาแลร์โมยังมีเมืองตาออร์มินา (Taormina) ที่ชาวเกาะซิซิลีคุยฟุ้งว่าเป็นเมืองสวยที่สุดบนเกาะ ชาวอิตาลีเองก็นิยมมาตากอากาศกันที่นี่ เรื่องวิวทิวทัศน์นั้นหายห่วง ถ้าคุณได้เห็นภูเขาไฟเอ็ทน่าและท้องทะเลสีครามจากเมืองตาออร์มินา คุณจะรู้ว่าที่ชาวเกาะพูดไว้ไม่เกินจริงเลย ตาออร์มินางดงามกว่าเมืองไหนๆ
นี่แค่เศษเสี้ยวของเกาะซิซิลีเท่านั้น เพราะเกาะใหญ่ที่สุดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างซิซิลียังมีอะไรให้เที่ยวอีกมากมาย เผลอๆ
เดือนหนึ่งยังไม่พอเลยสำหรับเกาะเจ้าเสน่ห์อย่างซิซิลี
Seychelles
ตามพิกัดต้องบอกว่านี่คือประเทศที่อยู่ในทวีปแอฟริกา แต่บางคนคิดว่าอยู่ในทวีปเอเชีย เพราะเป็นเกาะที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดียเหมือนมัลดีฟส์ ที่จริงแล้วเซเชลส์อยู่ห่างจากโซนแอฟริกาตะวันออกราวๆ 1,500 กิโลเมตร และอยู่โซนเดียวกับประเทศมอริเชียส และมาดากัสการ์
เซเชลส์เป็นประเทศที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 100 เกาะ ทั้งประเทศมีประชากรอยู่ 80,000 กว่าคน มัลดีฟส์ว่าเล็กแล้วยังมีประชากรมากกว่าเซเชลส์ 4-5 เท่า
เกาะหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันคือเกาะมาเฮ นอกจากเกาะนี้จะใหญ่ที่สุดแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงอย่างวิคตอเรียด้วย นักท่องเที่ยวทุกคนจึงมาออกตัวตะลุยเกาะกันที่นี่
เกาะมาเฮมีชายหาดรายรอบเกาะแทบทุกด้าน ความจริงแค่มาเฮเกาะเดียว อยู่เป็นอาทิตย์ยังเที่ยวไม่ทั่วเลย เพราะนอกจากชายหาดสวยๆ ทั่วเกาะ ก็ยังมีหมู่บ้านหัตถกรรม หมู่บ้านชาวประมง มีอุทยานแห่งชาติที่มีป่าอุดมสมบูรณ์เอาไว้ให้นักท่องป่าได้เข้าไปเที่ยวกัน และที่สำคัญคือมีเมืองหลวงอย่างวิคตอเรียให้ไปเดินเที่ยวกันด้วย
ตัวเมืองวิคตอเรียค่อนข้างเล็ก ปลอดตึกสูง ปลอดร้านฟาสท์ฟู้ด แต่ก็มีทั้งโบสถ์ ตลาด วัดฮินดู พิพิธภัณฑ์ และอาคารเก่าแก่ให้เดินเที่ยวชมกัน
ที่นี่เป็นเมืองหลวงแดดดีอากาศดีที่ไร้เงาร้านรวงขายข้าวของแบรนด์เนม มีแต่เสื้อผ้าสีแสบสันตามประสาเมืองริมทะเล ของที่ระลึกเก๋ๆ ยังพอหาได้ ของพื้นเมืองหาได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะของจำพวกเครื่องเทศ กระบุง ตะกร้า
นอกจากเกาะมาเฮแล้ว ยังมีอีกหลายเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือไปเที่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาะพราแลง และเกาะลาดิค ที่ใช้เวลานั่งเรือประมาณชั่วโมงเศษ ซึ่งโดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปท่องเที่ยวกันทั้งปี คนจะแน่นหน่อยก็เป็นช่วงก่อนปีใหม่และหลังปีใหม่
เซเชลส์อาจจะเป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่สำหรับนักเดินทางชาวไทย แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าได้แช่น้ำทะเลที่นั่นคุณจะมีความสุขอย่างประหลาด
Maldives
มัลดีฟส์คือท้องทะเลที่อยู่ในหมวด again&again ประมาณว่าเที่ยวซ้ำไปซ้ำมาได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ความที่มัลดีฟส์เป็นประเภท 1 เกาะ 1 รีสอร์ท ประสบการณ์แต่ละเที่ยวแต่ละเกาะจึงแทบไม่ซ้ำหน้า เพราะรีสอร์ทกว่า 100 แห่งมักหาคาแรคเตอร์และเนรมิตบรรยากาศในแบบที่แตกต่างกันไป
หากใครอยากพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นแบบไทยๆ ก็ต้องไปที่ดุสิตธานี มัลดีฟส์ รีสอร์ทแบรนด์ไทยที่ไปปักธงที่ Baa Atoll แหล่งดำน้ำระดับมรดกโลกที่ยูเนสโก้การันตี เรียกว่าการพักผ่อนของคุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นไทย นับตั้งแต่อาหารการกิน ทีมสตาฟ ไปจนถึงสปา
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ไทยอีกเจ้าหนึ่งที่มีชื่อชั้นเรื่องสปา อย่างอนันตรา ก็มีโรงแรมในเครือไมเนอร์ส 4-5 แห่งในมัลดีฟส์ให้บริการ
หรือใครที่อยากไปใช้ชีวิตแบบ slow life คงต้องไปเอนหลังพักผ่อนในชายคา ซิกส์เซนส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ปรนเปรอความสะดวกสบายให้ทุกคนอย่างอิ่มเอม ขอแค่ทำตัวให้เข้าคอนเซ็ปท์ของเขาคือ no news no shoes มาที่นี่แล้วมาใช้ชีวิตแบบเนิบนาบ ตัดขาดจากโลกอันวุ่นวาย รับรองว่าความสุขยอมอยู่ข้างๆ แน่
นี่คือ 3 เกาะ 3 รสชาติที่ซัมเมอร์นี้ คุณเลือกได้ว่าจะหนีร้อนไปนอนเอกเขนกที่เกาะไหน
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง