คู่รักนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ สำหรับคุณเพิร์ท - นวิน เหมรัชตานันต์ และคุณใบปอ - ยิ่งรัก พัวถาวรสกุล เจ้าของธุรกิจ CellMed Biotech บริษัทที่รับผลิตเครื่องดื่ม Ready to drink ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Cell Nature โรงงานผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางมาตรฐานระดับโลกที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร
และแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นนักธุรกิจที่อายุน้อย แต่ด้วยความตั้งใจ และเป้าหมายที่ต้องการสร้างเส้นทางความสำเร็จของตัวเอง เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เขาและเธอมีวันนี้ โดยคุณเพิร์ทเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเรียน เพราะได้เห็นคุณพ่อทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เขามี Passion ที่อยากจะสร้างธุรกิจของตัวเองตั้งแต่วัยเยาว์ สำหรับคุณใบปอ แม้ว่าจะเป็นทายาทของนักธุรกิจชื่อดัง แต่เธอเองก็มีความใฝ่ฝันที่จะสร้างธุรกิจด้วยมือของตัวเองเช่นกัน ซึ่งหลังเรียนจบจากภาควิชาบัญชี คณะบริหารธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เธอก็ร่วมมือกับคุณเพิร์ทปลุกปั้น CellMed Biotech ทันที
คุณเพิร์ท: “เดิมที่บ้านของผมทำโรงงานอยู่แล้วครับ เป็น OEM รับผลิตอาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ยาทุกชนิดและทุกรูปแบบ ผมจึงมีโอกาสได้เริ่มทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนใบปอเขาเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ และกำลังจะไปเข้า Big4 (บริษัทตรวจสอบบัญชีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของโลก) เพราะเขาเรียนจบบัญชีผมจึงถามเขาว่าเขาชอบจริงๆ หรือเปล่า เพราะเขาดูมีความสุขทุกครั้งเวลาเขาไปที่โรงงานของผม และเขาชอบไปคุยกับคุณแม่ของผมเรื่องการขาย ผมจึงรู้สึกว่าเขาอาจจะชอบขายของ ชอบเป็นนักธุรกิจมากกว่าเป็นนักบัญชี จึงลองถามเขาดู เขาก็บอกว่าปอน่าจะชอบ
ด้านการทำธุรกิจมากกว่าจริงๆ”
คุณใบปอ: “เนื่องจากว่าคุณพ่อของปอ (คุณกิตติ พัวถาวรสกุล) ทำเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ และก็เป็น Investor ในหลายบริษัท นอกจากนี้ที่บ้านปอก็ทำบริษัทโลจิสติกส์ รวมถึงทำ Event organizer ท่านจึงอยากให้ปอเรียนด้านบัญชีเพื่อมาช่วยท่านต่อ แต่ว่าทีนี้เรามี Passion ในการ Startup ของเราเอง และปออยากมี Success story ของตัวเองด้วย ไม่ใช่เป็น Success story ของคุณพ่อฝ่ายเดียว ก็เลยมาจับมือทำกับเพิร์ทค่ะ” (ยิ้ม)
จุดเริ่มต้น CellMed Biotech
คุณเพิร์ท: “CellMed Biotech เริ่มต้นจากผมกำลังคิดอยากจะขยายธุรกิจเข้าไปในตลาด Global ครับ เพราะว่าโรงงานของเราได้มาตรฐาน International Standard ทุกอย่าง จึงคิดว่าจะทำโรงงานน้ำสักโรงงานหนึ่งที่ได้มาตรฐานระดับโลก เราจะเห็นแบรนด์ไทยดังๆ หลายแบรนด์เลยที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ผมจึงอยากเป็นคนที่ทำหน้าที่ในการซัพพอร์ตทุกคนที่มีความฝัน ที่อยากจะมีเครื่องดื่มของตัวเอง ให้ได้ไปไกลสู่ระดับโลก โดยเรามีโรงงานมาตรฐานที่คนไว้ใจ และเชื่อถือได้ จึงเลยลองชักชวนใบปอมาร่วมลงทุนกัน เป็น CellMed Biotech เพราะเห็นใบปอก็สนใจ แล้วใบปอก็อยากมีธุรกิจของตัวเองพอดีครับ”
คุณใบปอ: “จริงๆ แล้วทางครอบครัวปอก็สนใจเรื่อง Health care อยู่แล้วด้วยค่ะ ซึ่งพอปอมาสนใจเรื่องอาหารเสริมเรื่องสกินแคร์ คุณพ่อท่านก็สนับสนุน เพราะหากปอมี Passion เป็นของตัวเองแล้วอยากออกมาเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งนี้ก็เป็นเป้าหมายที่ดีเหมือนกัน”
จุดเด่นของ CellMed Biotech
คุณเพิร์ท: “หากพูดถึงจุดเด่นของ CellMed Biotech จะเป็นเรื่อง Innovation ครับ ปกติเครื่องดื่มทั่วไปที่ผมเห็นในตลาดของประเทศไทยจะเป็นพวก Shot Drink ธรรมดาแต่ผมจะทำให้มันเป็น Functional Shot Drink ครับ ตลาดนี้จะโตอยู่ที่ประมาณ 13-15% ทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งผมตั้งใจที่จะรวมเอา Innovation ของต่างประเทศที่เราเห็นเขาดื่มกันแต่ละวัน มาไว้ในนี้ คือคุณประโยชน์ที่มากกว่า Shot drink ธรรมดาหรือ Functional shot drink ธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้เรายังมีเครื่อง CO2 (เครื่องอัดแก๊ส) คือสามารถทำเครื่องดื่มอัดแก๊สได้ทุกชนิดครับ บวกกับ Innovation ที่เราพัฒนาอยู่ตลอดด้วยครับ”
การแบ่งหน้าที่ในการทำงาน
คุณใบปอ: “ปอจะให้เพิร์ทเป็นเหมือนหัวเรือค่ะ เขาจะเป็นคนลุย Mission ต่างๆ ส่วนปอก็จะอยู่ด้านเบื้องหลัง คือ Operation กับ Management ค่ะ”
คุณเพิร์ท: ถ้าเปรียบเทียบก็จะเหมือน CEO (Chief Executive Officer) กับ CFO (Chief Financial Officer) ครับ ผมมีจุดอ่อนที่ว่าไม่เก่งเรื่องบัญชี ไม่เก่งเรื่องหลังบ้าน ไม่เก่งเรื่อง Management ก็จะมีใบปอเป็น CFO คอยดูนู่นดูนี่แล้วก็เก็บกวาดหลังบ้านให้ครับ ส่วนผมก็จะลุยอย่างเดียวเลยครับ” (หัวเราะ)
การทำงานร่วมกันในฐานะนะคู่รัก
คุณใบปอ: “จริงๆ แล้วพอเรามี Goal หรือเป้าหมายเดียวกัน มันก็เหมือนกับว่าเราต่างซัพพอร์ตกันไปเรื่อยๆ เราต่างคนต่างลด EGO ของตัวเองในการทำงานร่วมกัน และให้เกียรติซึ่งกันและกันค่ะ” (ยิ้ม)
คุณเพิร์ท: “ผมว่ามีทั้งข้อดี และข้อเสีย ข้อดี คือเหมือนเรามีสองหัว เราคิดด้วยกันได้ มีคนคอยรับแรงกดดันด้วยกันเวลาเจอเรื่องอะไรก็มีคนอยู่ข้างๆ ตลอด แต่ข้อเสียจะมีทะเลาะกันบ้าง (ยิ้ม) กับบางเรื่องที่คิดไม่ค่อยตรงกัน ด้วยความที่ใบปอเขาเป็นแนวนักบัญชี ผมเป็นแนว Invest ผมก็จะลุยอย่างเดียว แต่ใบปอเขาจะรอบคอบ สุดท้ายแล้วมันก็คือเบรคกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ” (ยิ้ม)
คุณใบปอ: “เมื่อก่อนช่วงแรกๆ ก็จะมีงอนกันบ้างค่ะ แต่พอทำด้วยกันไปเรื่อยๆเราก็เริ่มหาบาลานซ์เจอค่ะ” (ยิ้ม)
คำสอนของคุณพ่อคุณแม่ในการทำงาน
คุณเพิร์ท: “สิ่งที่โดนสอนบ่อยๆ และเห็นกับตัวเองคือ ไม่ว่าจะล้มอย่างไร ท่านก็จะลงทุนต่อไป คือไม่ว่าจะล้มกี่รอบก็ยังทำใหม่ไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งมันก็จะสำเร็จครับ”
คุณใบปอ: “ส่วนของปอ คุณพ่อท่านเป็นนักลงทุนที่ชอบพุ่งเข้าหาความเสี่ยงค่ะ ท่านจะสอนปอว่าเราต้องพุ่งเข้าหาความเสี่ยง เพราะถ้าเรากลัวอยู่เรื่อยๆ เราก็จะไม่มีวันสำเร็จได้ค่ะ” (หัวเราะ)
เวลาเจอปัญหา
คุณเพิร์ท: “บางทีหนีไปเที่ยวเลยครับ เครียดๆ ก็หนีไปเที่ยวเลย แล้วพอสมองว่างก็มาตั้งหลักกันใหม่ ว่าจะไปทางไหนดี จะไปต่ออย่างไรดี”
คุณใบปอ: “ปอคิดว่า There is a solution to every problem จึงคิดว่า เราไม่ควรวนเวียนกับความเครียดเรื่องปัญหาอย่างเดียว เพราะว่าทุกปัญหามันสามารถแก้ไขได้ค่ะ”
ทำธุรกิจต้องไม่มีคำว่า ‘กลัว’
คุณเพิร์ท: “ผมไม่กลัวครับ เพราะว่าอย่างมากก็แค่กลับไปลำบากเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวครับ”
คุณใบปอ: “คิดว่ามันไม่ใช่ความกลัวค่ะ แต่มันคือความChallenge มากกว่าค่ะ ซึ่งถ้าเราผ่าน Challenge ต่างๆ นั้นไปได้ปอก็ว่าไม่มีอะไรที่เราต้องกลัวค่ะ”
แบ่งเวลาการใช้ชีวิต / การทำงาน
คุณเพิร์ท: “ผมเป็นคนไม่ค่อยมี Work Life Balance ครับ (หัวเราะ) คือเป็นคนชอบทำงานอยู่แล้ว ทำงานได้ตลอดเวลา มีความสุขกับการทำงาน หรือนี่ก็คือ Work Life Balance ของผม (หัวเราะ) สำหรับผมการทำงานมันสนุกดีครับ ใบปอก็ชอบทำงาน แต่เราก็มีไปเที่ยวด้วยกันตามโอกาสต่างๆ ครับ”
คุณใบปอ: เราไม่ได้แบ่งอะไรชัดเจนนะคะ เพราะว่าบางครั้งตอนช่วงเวลาที่เหมือนเราคุยเล่น เราคุยเรื่องงานกันค่ะ (ยิ้ม) ซึ่งคนอื่นเขาอาจจะคิดว่า เฮ้ยทำไมถึงคุยเรื่องเครียดจัง แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันคือการคุยเล่นเรื่องงาน” (ยิ้ม)
เป้าหมายของธุรกิจในอนาคต
คุณเพิร์ท: “ในอนาคตผมอยากเห็น CellMed Biotech ได้ Go Global แล้วก็อยากเป็นหนึ่งแรงในการซัพพอร์ตผู้ประกอบการในไทยในการผลักดันเขาไปสู่ตลาดโลก ผมจะพยายามทำสินค้าคุณภาพออกมาให้ดีที่สุด และถ้ามีอะไรที่สามารถช่วยเหลือลูกค้าเราได้ เราก็จะพยายาม Provide ให้หมดเลยครับ”
คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
คุณเพิร์ท: “ผมว่าอย่าเริ่มอะไรโดยที่ตัวเองไม่พร้อมครับ เช่น บางคนอาจจะทำงานประจำอยู่ แต่ว่ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขายของได้หรือเปล่าก็ลาออกจากงานมาขายของออนไลน์เลย ออกมาขายไม่ได้กลับไปเจ้านายก็ไม่รับแล้ว ผมจึงคิดว่าบางทีอาจจะต้องลองคลำทางดูก่อน อย่าเพิ่งรีบกระโจนออกไปถึงความเสี่ยงนั้น เราเสี่ยงได้แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่มีมาตรฐานความเป็นไปได้ของมันด้วยครับ”
คุณใบปอ: “สำหรับปออยากให้ทุกคน Follow Passion ของตัวเองนะคะ ยกตัวอย่างตัวปอเอง ถ้าตอนนั้นเราบังคับตัวเองให้ทำเรื่องบัญชี ไปเข้า Big4 ปอคิดว่าเราไม่น่ามีความสุขกับงาน ซึ่งพอเราเอาตัวเองออกมาเพื่อตาม Passion จริงๆ รู้สึกว่าเรามีความสุขกับงาน แล้วเราก็ทำงานได้ดีด้วย มันเหมือนกับว่ามันไม่จำเป็นต้องไปสนใจ Work Life Balance เพราะว่าการที่เราเอ็นจอยกับงานมันก็คือบาลานซ์ของชีวิตแล้วค่ะ”
Author By : Arunlak