counters
hisoparty

Love of My Life : คุณคิม-เอกภัทร พรประภา & คุณเนย-ศุภวดี ศรีบุญรัตนชัย

4 years ago

อีกหนึ่งคู่รัก ที่ยังคงความหวานได้อย่างเสมอต้น เสมอปลาย กับคู่ของ คุณคิม-เอกภัทร พรประภา และ คุณเนย-ศุภวดี ศรีบุญรัตนชัย ที่แม้จะแต่งงานมาถึงสามปี และมีพยานแห่งความรักแล้วหนึ่งคน คือ น้องอารเปลส์ - ภัทรประภา พรประภา แต่ดีกรีความหวานของทั้งคู่ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย ในทางกลับกันยิ่งมีแต่ทวีเพิ่มมากขึ้น

คอลัมน์ Highly Sophisticated Club ครั้งนี้ จึงได้เชื้อเชิญทั้งคู่มานั่งพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวความรักในวันนั้น ราวกับนั่งไทม์เมชชีนย้อนไปในวันวาน เพื่อไปสู่จุดเริ่มต้นในการปลูกต้นรักต้นนี้ของเขาและเธอ...

การพบกัน
คุณคิม: ผมไปเจอกับคุณเนยที่งานแต่งงานครับ ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเขาเลย แต่ผมอยากรู้จักเขา จึงตัดสินใจเข้าไปถามไปคุยครับว่า เกิดปีไหน เรียนจบที่ไหน เพื่อจะได้รู้ว่าอายุประมาณเท่าไร เพราะจะได้ไปถามเพื่อนถูก ปรากฎว่าเพื่อนสนิทของผม (คุณจุติพัทธ์ บุญสูง) เป็นเพื่อนเขาพอดี (ยิ้ม)
คุณเนย: คุณจุติพัทธ์ บุญสูง เรียนมากับเนยค่ะ แล้ววันหนึ่งเพื่อนของเขาก็โทรมาถามเนยว่า ได้ไปงานแต่งงาน งานนี้หรือเปล่า แล้วได้เจอเพื่อนเขาไหม จากนั้นเขานัดให้มาเจอกัน แล้วเราก็มีโอกาสพูดคุยเป็นเพื่อนกันค่ะ เริ่มจากคบเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันก่อน แล้วค่อยๆ พัฒนา

ความประทับใจแรกพบที่มีต่อกัน
คุณคิม: สิ่งแรกที่ประทับใจต้องบอกว่าประทับใจที่เขาเป็นคนน่ารัก สนุกสนาน คุยแล้วเข้ากันได้ดี และบังเอิญเขาเกิดปีเสือพอดี ผมเกิดปีหมูครับ ฉะนั้นขาลกับกุนนี่เป็นดวงสมพงษ์กันนะ (ยิ้ม)
คุณเนย: เขาเชื่อเรื่องดวงค่ะ (ยิ้ม)
คุณคิม: จริงแล้วถ้าถามว่าเรื่องพวกนี้มีผลต่อการตัดสินใจของเราไหม ก็ไม่เกี่ยวทีเดียวนะครับ เพราะถ้าเราจะใช้ชีวิตกับใครต้องมีองค์ประกอบโดยรวมเยอะ คือต้องดูว่าเขารักเราหรือเปล่า เขาพร้อมจะอยู่กับเราตลอดไปไหม แล้วถ้าเกิดเราเจอปัญหาจริงๆ เขาพร้อมจะช่วยกันแก้ปัญหา หรือว่าจะหนีหายกันไปเลย ซึ่งเขาเป็นคนที่ผ่านทุกข้อที่เราคิด
คุณเนย: ความประทับใจที่มีต่อเขา สำหรับเนย คือเขาเป็นคนตรงไปตรงมา และเป็นคนจริงใจ ไม่ใช่กับเรานะคะ คือกับครอบครัวของเขา ของเรา กับเพื่อนด้วยคือเราดูว่าเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เนยจึงมั่นใจในตัวเขาค่ะ

ระยะเวลาที่คบหาดูใจ
คุณคิม: ประมาณเกือบ 3 ปีนะครับ รู้จักกันเกือบ 3 ปี ตอนนั้นผมน่าจะประมาณ 30 นิดๆ ครับ
คุณเนย: เนยอายุประมาณ 20 ปลายๆ

คิดว่าตัวเองแต่งงานเร็วไหม
คุณคิม: ส่วนตัวผม เดิมทีไม่เคยมีความคิดเรื่องแต่งงานเลยนะ เพราะคิดว่าถ้าไม่เจอคนที่ใช่ก็ไม่แต่งงาน แต่พอเจอคุณเนย ซึ่งเป็นคนที่เราคิดว่าใช่ จึงรีบแต่งงานเลยครับ
คุณเนย: จริงๆ แล้วไม่ได้แพลนนะคะ และเขาก็ไม่ได้ขอแต่งงานแบบโรแมนติก มานั่งคุกเข่าอะไรนะ แต่เขาเป็นคนตรงไปตรงมามาก คือตอนที่เขาคิดว่าเราใช่ เขาไปขอกับพ่อแม่เราเลย แล้วไม่ได้บอกเราด้วย คือเหมือนไปคุยกับพ่อแม่แล้วพ่อแม่โอเค พ่อแม่ก็คุยกัน

ซีนโรแมนติกในชีวิต
คุณคิม: แม้ว่าตอนขอแต่งงานไม่โรแมนติก แต่เวลาครบรอบวันพิเศษๆ ผมก็มีนะครับ
คุณเนย: เขามีเซอร์ไพรส์ตลอดค่ะ
คุณคิม: เพียงแต่ว่าเราจะไม่ได้ทำประจำทุกปี เพราะเดี๋ยวมันจะซ้ำซาก ต้องมีทิ้งช่วงมีจังหวะบ้าง แต่ถ้าผมทำนี่เขาจะไม่รู้ตัวเป็นส่วนใหญ่
คุณเนย: แต่ถ้าเนยทำนี่เขาจะรู้ตัวตลอด ไม่ค่อยเนียนเท่าไร (หัวเราะ)

แต่งงานมีลูก
คุณเนย: เราแต่งงานแล้วอยากมีลูกเลย ซึ่งตอนแรกเราอยากมีลูก 4 คน แต่พอมีคนแรกแล้ว ตอนนี้ก็คิดว่าอาจจะลดเหลือ 2 คนแล้วกัน (หัวเราะ)
คุณคิม: ส่วนตัวผม คือคิดว่าถ้าเกิดมีลูกเร็ว เราก็มีโอกาสได้อยู่กับเขาเยอะ ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเขาเยอะครับ ทุกวันนี้เราไปเที่ยวกัน เราพาลูกไปด้วยตลอด

ลูกคือสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิต
คุณคิม: ผมพบว่า การมีลูกเป็นความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาครับ เป็นความสุขง่ายๆ ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเรา

ที่มาของ อารเปลส์
คุณคิม: ชื่อลูกมาจาก แวน คลีฟ แอนด์ อารเปลส์ (Van Cleef & Arpels) ครับ เป็นแบรนด์เพชรของฝรั่งเศสที่ผมใช้ตอนแต่งงาน เพราะคุณเนยชื่นชอบแบรนด์นี้มาก และต้องย้อนไปในวัยเด็ก ผมเองมีพี่น้อง 2 คน คือมีพี่ชาย เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ตอนเรียนก็เรียนโรงเรียนชายล้วน ใช้ชีวิตอยู่กับญาติๆ ที่เป็นผู้ชาย ชีวิตแวดล้อมด้วยผู้ชาย ทำให้ในจินตนาการว่าถ้าตัวเองมีลูก ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีลูกสาวเลย ประจวบเหมาะกับมาได้สัมผัสแบรนด์นี้ ซึ่งผมได้ซื้อนาฬิกาให้ภรรยาพอดี ชื่อรุ่นว่า A Day in Paris (Une Journée à Paris) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางฟ้ามาโรยผงวิเศษที่เมืองปารีสแล้วมีเด็กผู้หญิงเกิดขึ้นมา แล้วเด็กผู้หญิงเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งคือพอซื้อนาฬิกาเรือนนี้เสร็จปุ๊บ คุณเนยตั้งท้องแล้วได้ลูกสาวพอดี ผมจึงได้ตั้งชื่อลูกสาวตามแบรนด์ว่าอารเปลส์ครับผม
คุณเนย: คือเราทั้งสองคนชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว ตอนแต่งงานใช้แบรนด์นี้ทั้งหมด และยิ่งตอนที่ท้องและรู้ว่าเป็นลูกสาวคือช่วงที่เพิ่งได้นาฬิกาพอดี จึงคิดว่าชื่อนี้
น่าจะเหมาะที่สุดค่ะ

การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิต
คุณคิม: ถ้าที่ไหนเราพาลูกไปได้เราจะพาลูกไปหมดครับ แล้วถ้าเรามีเวลาว่างเราก็จะใช้เวลาอยู่กับลูกทั้งหมดครับ
คุณเนย: ลูกคือศูนย์กลางของเราเลยในวันนี้ แต่เราก็ยังสามารถมีเวลาไปเจอเพื่อนไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนได้นะคะ สมมติอย่างคืนนี้เราจะต้องไปดินเนอร์ เดี๋ยวอาจจะฝากให้ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย มาดู ไม่ต้องห่วงเลย มีคนแย่งกันที่จะช่วยเลี้ยง

ลิ้นกับฟันในความรัก
คุณคิม: ผมคิดว่าการโกรธหรือทะเลาะกัน มันเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผมนะ และผมคิดว่าการเอาชนะคนที่ตัวเองรักบางทีไม่มีประโยชน์ เราต้องปล่อยไป บางทีมันเรื่องเล็กน้อยครับ ถ้าเกิดเราหยุดได้ เราเข้าใจ มันก็จบ
คุณเนย: เนยคิดว่าชีวิตคู่มันต้องทะเลาะกันอยู่แล้วล่ะ แต่เราพยายามที่จะเคลียร์กัน คุยกัน ไม่เกิน 1 วัน เราจะไม่ปล่อยให้ข้ามวัน คือเคลียร์ให้จบ ตัดทิ้งแล้วเริ่มสตาร์ทใหม่ แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตค่ะ เราอยู่กันด้วยความเข้าใจ



Meaning of Love
คุณคิม: ผมคิดว่าความรักอยู่ที่จิตใจครับ เพราะว่าทุกอย่างเป็นของนอกกายหมด ไม่ว่าร่างกายหรืออะไรเราก็เอาไปไม่ได้ แต่จิตใจความรู้สึก ไม่ว่าอย่างไร มันอยู่เหนือกาลเวลา ติดตามเราไปได้ตลอด ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนครับผม
คุณเนย: ความรักสำหรับเนยนะคะถ้าเรารักใคร เราต้องรักเขาเท่ากับหรือมากกว่าเรารักตัวเองคะ และในวันที่เรามีครอบครัวเพิ่มขึ้นแล้ว เสมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เราก็ต้องรักทุกคนในครอบครัวเค้าประหนึ่งเหมือนเรารักครอบครัวตัวเองด้วย”

ขอขอบคุณสถานที่ โรงแรม เลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์
ขอขอบคุณ เครื่องประดับ Beauty Gems 

Story by Arunlak
Photo by Veerapol
Stylish by K_Wondrous
VDO by Sirawit Kaosakul

SHARE