counters
hisoparty

Madame of Beauty - คุณนวลพรรณ ล่ำซำ

1 year ago

 

          HiSoParty ฉบับนี้เราได้รับเกียรติจาก คุณนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ คุณแป้ง CEO เมืองไทยประกันภัย, ประธานสโมสรการท่าเรือเอฟซี, ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย, กงสุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำประเทศไทย มาร่วมถ่ายทอดความสวยงามผ่านภาพแฟชั่น พร้อมสวมใส่อัญมณีอันดับหนึ่งในประเทศไทย Beauty Gems 

          “ทุกครั้งที่แป้งได้มีโอกาส ร่วมงานกับ HiSoParty อารมณ์จะเหมือนแป้งได้ไปทานข้าวไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสนิทเลยค่ะ ทีมงานน่ารัก มาช่วยกันทุกจุด ถ้าไม่มีทีมที่เข้าใจ และคอยเชียร์เติมความมั่นใจ งานคงไม่สำเร็จแน่นอน ขอบคุณมากๆ ค่ะ”

          ซึ่งนอกจากภาพแฟชั่นเซ็ต คุณแป้งยังมาพร้อมบทสัมภาษณ์ในเรื่องของการทำงานในช่วงที่ผ่านมาและในวาระที่บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ครบรอบการก่อตั้ง 90 ปี ทาง HiSoParty ขอร่วมแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ 

          “แป้งเป็นคนชอบทำงานแต่ไหนแต่ไรค่ะ ตั้งแต่สมัยเริ่มทำงานครั้งแรกหลังเรียนจบที่ Lintus ในตำแหน่งเออี แป้งจำได้ไม่ลืมเลยว่าดึกดื่น 5 ทุ่มเที่ยงคืน แป้งยังสนุกกับการขับรถไปส่งโฆษณาถึงสำนักพิมพ์เลยค่ะ นับจากวันนั้นในวัยยี่สิบกว่าๆ มาจนถึงวัย 56 ปี ทุกวันนี้ก็ยังมีวันที่ทำงานถึง 5 ทุ่มเที่ยงคืนเหมือนเดิมนะคะ เพราะในช่วงดึกเป็นช่วงเวลาที่แป้งมีสมาธิได้อยู่กับตัวเองเต็มที่ และธุรกิจประกันภัยควรต้องใช้ความนิ่งควบคู่กับความทันต่อสถานการณ์โลกและในประเทศค่ะ นอกจากนี้ ที่เพิ่มเติมคือบทบาทความรับผิดชอบที่เพิ่มและหลากหลายขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของชีวิตแป้ง เพราะนอกจากงานหลักที่ เมืองไทยประกันภัย ในฐานะ CEO แล้ว แป้งยังได้มีโอกาสทำงานตาม Passion ในกีฬาฟุตบอลในบทบาทผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย, ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี., ประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง และอีกหลากหลายตำแหน่งที่เป็นเกียรติเป็นความภูมิใจในชีวิตของแป้งค่ะ

          “แต่ด้วยความขยันที่มักสวนทางกับเวลา แป้งมักจะได้รับคำถามเรื่องวิธีจัดการเวลาบ่อยมากค่ะ

          สำหรับแป้ง มองว่าโลกของการทำงาน เหมือนการวิ่งมาราธอนนะคะ เป็นการทำงานระยะยาว ที่ต้องฝึกซ้อม วางแผน หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายของงาน ที่สำคัญคือหา Balance จุดสมดุลให้ดี

          จึงเชื่อว่าถ้าเราแค่มอง Productive อย่างเดียว อยากทำได้เยอะ และก็ยังอยากมี Work life Balance ทั้งๆ ที่วันหนึ่งมีเวลาจำกัด จึงต้องจัดลำดับความสำคัญ โฟกัสให้ตรงจุดการที่แป้งทำได้หลายบทบาท ไม่ได้หมายความว่าแป้งทำงานได้ทั้งวันทั้งคืน เพราะอายุเราก็เพิ่มขึ้นทุกปี บางทีใจสู้มากถึงกายจะมีเหนื่อยล้าบ้าง จึงเป็นความโชคดีที่สามารถลำดับความสำคัญงานได้ ซึ่งเป็นพลังไปถึงเป้าหมายได้อย่างแฮปปี้ในจุดที่พอดีค่ะ”

เรื่องของการทำงาน มีการปรับตัวในเชิงธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไรบ้าง
          “สมัยก่อนคนไม่อยากคบคนขายประกัน เพราะคิดว่าเรายัดเยียดความเป็นความตาย ขายกระดาษเปล่า มุมมองก็เริ่มเปลี่ยน เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งน้ำท่วมใหญ่ ไฟไหม้ สึนามิที่ไม่เคยเกิดขึ้น หรือ โรคระบาดใหญ่ โควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนทั่วโลกอย่างสิ้นเชิง
          “โควิด-19 สร้างแรงสั่นสะเทือนจนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะเราเป็นธุรกิจแห่งความเชื่อมั่น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้เรายังเดินหน้าต่อได้อย่างแข็งแรง
          นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด แม้ต้องเผชิญชะตากรรมอยู่ในสนามรบโรคระบาด แต่องค์กรเรากลับเป็นสนามฟุตบอล ที่มี Team Player ที่เข้มแข็งทุกตำแหน่ง รวมใจกันเป็น One Team ซึ่งต้องขอบคุณเพื่อนพนักงานทั้ง 1,300 ชีวิต ที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ พาองค์กรก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่นี้มาได้เพื่อรักษาความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือที่ลูกค้ามีต่อเราไว้อย่างดีที่สุด
          “จากนี้ เราต้องให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก และเข้าใจว่าความไม่แน่นอนคือความแน่นอน เอาใจลูกค้ามาใส่ใจเราเพื่อแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์การพัฒนาช่องทางและขยายพันธมิตรให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้สะดวกสบายมากขึ้น”

เมื่อประสบปัญหาในการทำงานมีการจัดการแต่ละปัญหานั้นอย่างไร
            “คุณพ่อของแป้งสอนเสมอว่า It’s not the end of the world หากเกิดปัญหา โฟกัสกับการแก้ไข อย่าจมกับความรู้สึก แป้งในวัย 56 ทุกวันนี้เจอทั้งปัญหาคน ปัญหางาน ทั้งจากภายนอกและในองค์กร สิ่งแรกที่ทำคือ การรับฟัง รับฟังโดยไม่ตัดสินถูก-ผิด แป้งมองว่ายิ่งเราอยู่ในสภาวะวิกฤต ทั้งโรคระบาด สงคราม เงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลกถดถอย คุณค่าที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องคนนั่นคือ ต้องสร้างความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) เข้าถึงพนักงาน (Engage) เปิดโอกาสให้พนักงานได้ใช้ศักยภาพในการร่วมแก้ปัญหา โดยมีเราแนะนำแนวทางอยู่เบื้องหลังเป็นลมใต้ปีกให้กันและกัน (Empower) อย่าลืมสร้างความมุ่งมั่น มองเห็นปัญญาท่ามกลางปัญหาในการทำงาน (Execute) ให้เขามีความมั่นใจในตนเอง ในความเป็น One team ที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรในอนาคตเราจะผ่านมันไปด้วยกัน ด้วยศรัทธา ด้วยปัญญา และด้วยเป้าหมายที่เรามีร่วมกันค่ะ”

ทัศนคติและวิสัยทัศน์ในการบริหารองค์กรและพนักงาน
          “แป้งเชื่อในศาสตร์ของการผสมผสาน สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เราจะไม่ปล่อยให้ความรู้และประสบการณ์จากผู้ใหญ่ตายหายจากไป เพราะประสบการณ์จากวัยที่อาบน้ำร้อนมาก่อนเป็นสิ่งที่มีค่า ในขณะเดียวกันเราก็อยากได้ความใหม่ของเด็กมาช่วยผสม ทุกวันนี้ทำงานกับเด็กรุ่นลูก เพราะได้อะไรดีๆ จากเขา  แต่ก็ขอให้เขาพร้อมรับฟัง คำดุ คำแนะนำได้ เพราะมาจากใจที่ไม่มีความเกลียดชัง
          “ในปีนี้แป้งจึงเริ่มโครงการ MTI Talents สร้างพื้นที่ให้พนักงานระดับกลางได้มีโอกาสเรียนรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำ สร้าง Future leader workforce ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้บริหารในองค์กรหรือวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจ เพื่อพัฒนาทักษะการบริหารงาน คุณภาพชีวิต คุณภาพงาน และลงมือทำจริงผ่านการแก้โจทย์ธุรกิจ นำเสนอผลงานและรับคำปรึกษาจากเมนเทอร์มากประสบการณ์ทุกสัปดาห์ เพราะทรัพยากรบุคคล เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในการสร้างคุณค่าให้กับสังคม ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดได้อย่างยั่งยืน เพราะผู้บริหารหรือแป้งคงไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพังหรือตลอดไป จึงอยากให้หัวใจของเมืองไทยประกันภัย ที่ทำหน้าที่เยียวยายามเกิดภัย ช่วยให้คนไทยยิ้มได้เมื่อภัยมาอยู่คู่สังคมไทยแบบที่เป็นมาตลอด 90 ปีแบบนี้ต่อไป ในวันนี้เป้าหมายของแป้งจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคนในองค์กรให้เขาอยู่ดีมีสุขในการทำงาน ได้มีโอกาสในการพัฒนาต่อยอดทักษะการทำงานได้อย่างมั่นใจและมั่นคงและสร้างการมีส่วนร่วม ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม และยังเป็นคนที่ดีของสังคมด้วย”

ในวาระที่ปีนี้ครบรอบ 90 ปี ของการก่อตั้งองค์กร อยากให้แชร์เรื่องราวการทำงานโดยรวมที่ผ่านมา และการส่งต่อประโยชน์คืนสู่สังคม
          “หากเปรียบกับคน บริษัทฯ นี้ ก็เป็นวัยที่ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมานับไม่ถ้วน ผ่านยุคก่อตั้ง บุกเบิก พัฒนา จนมาถึงวันนี้กับลูกหลานรุ่นที่ 5 ของตระกูลล่ำซำ ภายใต้แนวคิด การช่วยเยียวยาเวลาเกิดภัย แป้งเชื่อมาเสมอว่าธุรกิจของเราเป็นธุรกิจที่ทำเพื่อสังคม เพราะได้แบ่งเบาภาระความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ดังนั้น การสร้างกำไรทางใจจึงเกิดควบคู่ไปกับกำไรทางธุรกิจ แม้ว่าในโลกของธุรกิจความสามารถในการทำกำไรให้ได้สูงสุดเป็นเป้าหมายสำคัญ แต่แป้งกลับเชื่อว่ากำไรไม่ใช่ปลายทางสูงที่สุด ดังนั้น แป้งเองในฐานะผู้บริหารองค์กร จึงใช้ใจ ใส่ใจ เป็นหลักในทุกๆ การตัดสินใจและการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนค่ะ
          “แป้งทำธุรกิจประกันภัย หัวใจหลักคือช่วยให้ผู้ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถยิ้มได้เมื่อภัยมา ดังนั้นเมื่อมีคนในสังคมได้รับความเดือดร้อน ก็นับเป็นความรับผิดชอบของเรา ที่จะร่วมด้วยช่วยกันบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องคนไทย ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แป้ง และเมืองไทยประกันภัย เราสัมผัสถึงความเดือดร้อนของลูกค้า คนในชุมชนโดยตรง จากการหยุดงานไม่มีรายได้ เด็ก คนแก่ไร้คนดูแลจึงจัดตั้งครัวมาดามร่วมกับอาสากล้าใหม่ และตัวแทนชุมชน จัดทำข้าวกล่องแจกจ่ายไปรวมกว่า 150,000 กล่อง 25 เขตทั่วกรุงเทพฯ กระจายต่อไปอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ และมอบถุงยังชีพอีกกว่า 10,000 ถุง ให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในชุมชน ในช่วงที่ระบาดหนัก ที่ยอดผู้ติดเชื้อหลักหมื่นต่อวัน แป้งจึงตัดสินใจที่จะเป็นหนึ่งในโมเลกุลเล็กๆ ร่วมแรงร่วมใจช่วยให้เราผ่านวิกฤตครั้งใหญ่นี่ไปด้วยกันแป้งจึงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ Community Isolation รอบกรุงเทพฯ เพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อยู่ในระดับสีเขียว ซึ่งต้องแยกตัวออกจากครอบครัว และชุมชน เพื่อเข้ารับการรักษา ซึ่งเมืองไทยประกันภัยได้ให้การสนับสนุนศูนย์ CI จำนวน 5 แห่งด้วยกัน
          “สำหรับในปีนี้ฝนมาเร็วและมาแรงมากเกิดพายุฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบให้มีผู้ประสบภัยน้ำท่วมฉับพลันเป็นจำนวนมากโดยในปี 2565 แป้งได้ออกครัวมาดาม เพื่อส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยผู้อพยพเหตุการณ์ มูลนิธิมาดามแป้ง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่ออายุ 55 ในปีที่ผ่านมา โดยได้ทำอาหารกล่องครัวมาดาม และถุงยังชีพ มอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อุดรธานี บุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี 
          “ที่เมืองไทยประกันภัย เรามีโครงการอาสากล้าใหม่ฯ ปัจจุบันนี้มีแล้วกว่า 1,000 คน ทำกิจกรรมด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อยต่อกลุ่ม แต่ลงมือทำ คิด วางแผนประสานงานด้วยตัวเอง โดยมุ่งหวังที่จะขยายกลุ่มอาสากล้าใหม่ไปทั่วประเทศโดยร่วมกับมูลนิธิมาดามแป้ง ที่ไม่ใช่เฉพาะสร้างความเป็นอาสาในตัวของพนักงาน แต่ยังสร้างอาสาในชุมชน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ สร้างเป็นเครือข่าย เกิดเป็นพลังอาสาในการขับเคลื่อนสังคมที่ดีต่อไป.. “เพราะเราเชื่อว่าหากคนในชุมชนช่วยเหลือกันและกัน จะเกิดการพัฒนาชุมชนที่เข็มแข็งอย่างยั่งยืน”

โปรเจกต์ในอนาคต
          “ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งโลกธุรกิจไปจนถึงชีวิตประจำวัน ถูก Disruption จากเทคโนโลยีแบบไหวตัวไม่ทัน จึงเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด Network Effects ขึ้น เทคโนโลยีแทรกอยู่ในทุกอณูชีวิต เรามีสองทางเลือก innovate or die ถ้าเราไม่พัฒนา ยึดกับรูปแบบความสำเร็จแบบเดิมๆ เราตามไม่ทันแน่นอน บริษัทฯจึงมองหานวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ให้การทำประกันภัยสะดวกสบาย เข้าถึงง่าย ไม่ยุ่งยา
          เมืองไทยประกันภัย กำลังเปลี่ยนมาใช้ Data Solution ในการพัฒนาระบบประกันภัย ในแง่ของการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัย ด้านบริการ Health Care ซึ่งในอนาคตอยากให้มีการต่อยอดด้านเทคโนโลยีในการให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ และสุขภาพในระดับโลก”

Photo By : Prayuth
Author By : K_Wondrous

SHARE    

SHARE