อีกครั้งที่เราได้รับเกียรติจาก พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร หรือ คุณหมอแยม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ชะลอวัย ผู้บริหาร THOMAS CLINIC ซึ่งครั้งนี้เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักคุณหมอแยมมากขึ้น โดยคุณหมอได้มาร่วมแชร์ Life Style ส่วนตัวพร้อมงัดไอเท็มเด็ดที่น่าสนใจ มาฝากทุกคนให้ได้ลองติดตามกัน
“นอกจากอาชีพหลักของการเป็นคุณหมอดูแลสุขภาพความงามให้คนไข้แล้ว หมอยังเป็นนักทานค่ะ (ยิ้ม) จะชอบตามหาร้านอาหาร ร้านขนมอร่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรูทีนประจำวันเลยก็ว่าได้ และจะแบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกาย โดยวิธีการออกกำลังกายของหมอ หมอเลือกตีเทนนิส และสิ่งสำคัญนอกเหนือจากนั้นจะพยายามแบ่งเวลาให้กับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ”
DREAM DESTINATION
"Nirvana หรือ นิพพาน (ยิ้ม) หมอมองว่าคนเราต้องหาจุดโฟกัสในการปฏิบัติ เพราะรู้สึกว่าการโฟกัสหรือตั้งสติมีความสำคัญกับ Human Being ซึ่งสามารถช่วยได้ไม่ว่าจะสุขภาพกายหรือใจ หรือแม้แต่ Relationship หรือ Work คือมันช่วยในระหว่างทางด้วย หากสามารถเดินทางได้ถึงจุดๆ นั้นจริงๆ ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเหมือนมีปัญญามากขึ้น ฉลาดขึ้น จึงมีความคิดว่าควรจะไปให้ถึง ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม ซึ่งบางทีอาจสำคัญกว่า Dream Destination ที่จะต้องมีเงินเยอะๆ ซึ่งนั่นไม่ผิด เพราะเรื่องนี้ก็สำคัญ แต่หมอมองว่าเป็นเรื่องของระหว่างทางที่ทำให้เราได้ช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น หรือมีโอกาสได้ทำบุญเยอะขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราสามารถโฟกัสให้มีสติอยู่ในทุกขณะได้ มันจะดีกับเราลึกลงไปถึงจิตวิญญาณค่ะ"
INSPIRATION
"สำหรับหมอเรื่องนี้จะเปลี่ยนไปตามวัยค่ะ อย่างสมัยเรียนเราจะรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรให้ได้หลายๆ อย่างมากที่สุด เหมือนมีความแอคทีฟสูง อยากทำกิจกรรมเยอะๆ แต่พอโตขึ้นมาเราก็เริ่ม Concern เรื่องสุขภาพทั้งกายใจมากขึ้น อยากอยู่กับครอบครัว ทำงานที่เรารักตามอุดมคติ หมอจะจัดตารางให้ตัวเองทำงานทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันจะบาล๊านซ์ในแต่ละวันให้ได้พักผ่อนด้วย จะมีออกไปพบปะเพื่อนๆ ทำบุญ ทำกิจกรรมที่เราชอบด้วยค่ะ”
PARENTS
“หมอมีพี่น้อง 3 คนค่ะ ส่วนหมอเป็นลูกคนโต ทุกคนรอบข้างจะรู้ว่าหมอสนิทกับคุณพ่อคุณแม่มากเป็นพิเศษ ซึ่งจะคุยกันได้ทุกเรื่อง เหมือนท่านเป็นเมนเทอร์ เพราะท่านอายุยังไม่มาก เวลาให้คำแนะนำหรืออยากปรึกษาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เราจะได้รับคำตอบที่ดี ท่านจะเข้าใจเสมอจะไม่ใช่แนวหัวโบราณค่ะ แต่จะมีความเป็นห่วงในแบบของความเป็นคุณพ่อคุณแม่มากกว่า”
1. De Mamiel [Altitude Oil]
“ออยล์ที่ใช้ได้ทั้งทาบำรุงผิวหน้าและใช้สูดดมเพื่อผ่อนคลายค่ะ ซึ่งส่วนมากหมอจะใช้ดมเป็นหลัก จะพกติดกระเป๋าไว้เลย เพราะชอบกลิ่นหอมของเขา กลิ่นจะออกแนวธรรมชาติ อย่างบางทีเราต้องคุยกับคนเยอะๆ หรือช่วงระหว่างการเดินทางไปไหนมาไหน ก็รู้สึกอยากหยิบขึ้นมาดม หรือเวลาที่เดินทางไปพักต่างจังหวัด ถ้าไม่ได้พกสกินแคร์ หมอก็จะใช้ออยล์ตัวนี้ทาผิวหน้าค่ะ”
2. SAPPAN WATER
"กระบอกน้ำที่หมอใส่น้ำฝางเอาไว้พกติดตัวดื่มระหว่างวันค่ะ ข้างในเป็นน้ำสีแดงอมชมพู ดื่มแล้วช่วยบำรุงเลือด แก้ร้อนในและมีสรรพคุณอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกเยอะมาก แล้วก็ยังช่วยต้านแบคทีเรีย ช่วยให้เราไม่เจ็บคอหรือมีเสมหะ ช่วยรักษาท้องร่วงได้ แล้วไม้ฝางยังอยู่ในตำรายาโบราณของไทย เป็นไม้ที่เอาไปทำน้ำยาอุทัยทิพย์ ราคาไม่แพงแต่หาซื้อค่อนข้างยาก ตัวน้ำก็ยังไม่มีที่ไหนขายนะคะ อย่างไม้ฝางนี้หมอก็ซื้อมาต้มเอง ซึ่งระหว่างวันหากเราจิบนิดเดียวก็ทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆ ค่ะ"
3. GUCCI
“ผ้าอเนกประสงค์ที่หมอพกติดตัวเป็นประจำค่ะ จะใช้คลุมไหล่เวลาไปวัดทำบุญไหว้พระ ใช้คลุมปิดช่วงขาเวลาที่ต้องนั่งหรือนอนเสริมสวยเวลาทำเล็บต่อขนตาค่ะ”
4. LIBERLOO by WC
“ชิ้นนี้หมอชอบมาก เป็นกรวยยืนปัสสาวะแบรนด์ที่คนไทยคิดค้นขึ้น เขาได้รับรางวัลเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งตอบโจทย์การเข้าห้องน้ำเพื่อผู้หญิงได้ดีมากค่ะ คือเวลาที่ผู้หญิงเข้าห้องน้ำสาธารณะ บางคนอาจต้องทำท่าสควอชแทนการนั่งชักโครก ทำให้เลอะ กระเด็น หรือเวลาเดินทางไปต่างจังหวัดก็ต้องมีเข้าห้องน้ำที่ปั๊มบ้าง แต่มักจะหาห้องน้ำสะอาดยาก ซึ่งหมอจะมีพกไว้ในรถตลอด นอกจากจะชอบใช้เองแล้วก็ยังแนะนำให้คุณแม่ใช้ด้วย เพราะช่วยให้ผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่ที่มีปัญหาข้อเข่า งอเข่าลำบาก สะดวกขึ้นเวลาเข้าห้องน้ำค่ะ”
5. Ray-Ban Stories
“แว่นตากันแดดที่มีความพิเศษสามารถถ่ายวิดีโอได้ในตัว ใช้งานง่ายสามารถซิ้งค์ส่งไฟล์ลงคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ส่วนตัวได้เลย อย่างบางทีที่เราไปตีเทนนิสแล้วอยากเก็บภาพของอีกฝ่ายไว้ก็สะดวก หรือเวลาไปเที่ยว ไม่ว่าจะสวนสัตว์ หรือสถานที่ที่เราชอบไป เราก็สามารถเก็บความทรงจำรอบๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งตอนอัดวิดีโอตัวแว่นก็จะมีแสงไฟเล็กๆ แจ้งเตือนขึ้น เหมือนกับแจ้งเตือนคนรอบข้างด้วยว่าเรากำลังอัดวิดีโออยู่ จะไม่ใช่แค่เราใช้งานง่ายสะดวกอย่างเดียว แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้ไม่ล้ำเส้นเวลาไปใช้ในที่สาธารณะเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้คนรอบข้างด้วยค่ะ”
6. Rosantica BAG
“ใบนี้เป็นกระเป๋าแบรนด์เดียวกับในหนังเรื่อง Emily in Paris ค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นที่ซื้อกำลังจะมีไปงานเลี้ยงธีมวิบวับพอดี ก็เลยหาซื้อกระเป๋าที่เข้ากับธีมงาน พอวันที่ไปงานก็มีเพื่อนทักว่ากระเป๋าเหมือนในหนังที่นางเอกถือในเรื่องนี้เลย จากนั้นเราก็ไปตามดูตอนที่มีกระเป๋าใบนี้ ซึ่งก็เป็นหนังที่เราดูอยู่แล้วแต่ยังดูไม่ถึงตอนนั้น คือในเรื่องนางเอกเขาใส่เดรสสีดำแล้วถือกระเป๋าแบบนี้ในฉากที่ไปงานเลี้ยงสวยงามมากค่ะ แต่หมอนี่ใช้แบบสมบุกสมบันมาก”
7. Diptyque
“ชิ้นนี้คือน้ำหอมสำหรับใส่ผม ชอบเพราะว่าทุกครั้งที่ใช้จะมีคนทักว่าทำไมตัวหอมจัง ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ใส่น้ำหอม คงเป็นเพราะว่าเวลาที่เส้นผมขยับ กลิ่นจะกระจายไปรอบๆ ซึ่งส่วนตัวหมอจะไม่ค่อยใส่น้ำหอมบริเวณจุดของร่างกายเท่าไร ชอบใส่ที่เส้นผมเพราะจะเหมือนว่าตัวเราหอมขึ้นมาเอง แต่ไม่รู้ว่าหอมมาจากตรงไหนค่ะ” (ยิ้ม)
MOVIE
“หมอชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะดูในโรงหนัง จะติดมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ชอบแนว Comedy Action Sci-Fi จะไม่ชอบดูหนังเครียด หนังดราม่า เพราะเป็นคนร้องไห้ง่าย และรู้สึกว่าเราทำงานมาเครียดๆ จึงพยายามดูหนังเรื่องที่เบาสบายสมองหรือไม่มีสาระเลยก็ได้ แค่ได้ดูหนัง ก็รู้สึกว่าได้ Entertain ให้กับตัวเองแล้วค่ะ”
MUSIC
“ถ้าสมัยเด็กๆ ชอบฟังเกิร์ลกรุ๊ป อย่าง Atomic Kitten และ Pussycat Dolls ค่ะ สำหรับสมัยนี้จะชอบ Little Mix”
STYLE ICON
“Kate Middleton ชอบการแต่งกายของเขาที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน เสื้อผ้าที่เขาเลือกคัทติ้งดูเนี๊ยบมีความสุภาพ ชอบในรสนิยมองค์รวมที่ไม่ว่าเขาจะแต่งตัวสไตล์ไหนก็ดูเข้ากับบุคลิกของเขาไปหมด อีกหนึ่งคนที่ชอบมากคือ Blake Lively ชอบตัวตนที่มีความเป็นธรรมชาติ มีความสวยในแบบที่ไม่ได้พยายาม ไม่ได้เป็นคนแต่งหน้าเยอะ ซึ่งเป็นคนสวยในแบบที่เราชอบค่ะ”
BOOK
“ตั้งแต่เด็กๆ หมอชอบอ่านนิยายอังกฤษค่ะ อย่าง Rebecca เนื่องจากชอบนิยายที่ตัวเอกเป็นผู้หญิง รวมถึงนิยายอังกฤษแบบ British Literature เพราะภาษาสวยงาม และศัพท์ยาก ถ้าเจอคำไหนยากๆ เราก็มาค้นหาความหมายใน Dictionary หนังสือแนวที่ชอบก็จะเป็นการเขียนแนวพรรณนา บรรยายคำสวยงาม แต่พอช่วงวัยทำงานกลายเป็นว่าจะชอบซื้อเก็บมากกว่า นานทีถึงจะได้เปิดอ่านค่ะ”
1. VALENTINO
“คู่นี้ซื้อตอนไปงานอีเว้นท์ของแบรนด์ค่ะ ชอบดีไซน์แล้วก็ชอบรองเท้าสีขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยค่ะ”
2. GUCCI
“คู่นี้เป็นคู่โปรดของหมอ ใช้มานานมาก ตอนแรกที่ซื้อเพราะดูเข้ากับเสื้อกาวน์ แล้วพอใส่ทำงานก็ใส่สบายรู้สึกดีมาก ความสูงของเขากำลังพอดี เพราะเตียงคนไข้ของหมอค่อนข้างใหญ่ บางทีถ้าใส่คู่ที่ไม่มีส้นเลยเราต้องเขย่ง แล้วคู่นี้คือสามารถใส่ไปได้ทุกที่เลย ทั้งประชุม ทำบุญ กินเลี้ยง ไปได้หมด เป็นคู่ที่ใส่ไปไหนก็ปลอดภัยใช้งานได้จริง บางทีซื้อคู่ใหม่ที่คล้ายๆ กัน ปรากฏว่าก็ยังต้องมาจบที่คู่นี้อยู่ดีค่ะ”
3. YSL
“ชอบดีไซน์ของแบรนด์ที่ยกข้างหน้าขึ้น ทำให้ใส่สบายไม่ชันมาก เวลาใส่ไปงานที่ต้องยืนนานๆ จะชอบใส่คู่ลายเสือกับสีครีม เพราะความสูงกำลังดีค่ะ”
ขอบคุณเครื่องประดับจาก Beauty Gems