สิบปีที่ผ่านมา Marimekko ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์จากฟินแลนด์ที่เข้ามาเปิดสาขาในไทย แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายคน ภายใต้การบริหารของ ธนจิรา กรุ๊ป ที่มองเห็นคุณค่ามากกว่าความหรูหรา นี่คือการฉลองครบรอบทศวรรษของแบรนด์ที่สร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กระแสถุงผ้า Marimekko ที่กลายเป็นไอเท็มสามัญประจำเมือง ไปจนถึงการขยายสาขากว่า 14 แห่งทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
คุณธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นว่า "เมื่อปี 2015 การนำ Marimekko เข้ามาในไทย ถือเป็นการคิดสวนทางตลาด เพราะเราไม่ได้เลือกแบรนด์จากความหรูหรา แต่เลือกแบรนด์จากคุณค่า งานดีไซน์ของเขามีความขบถเล็กๆ มีอารมณ์ศิลปะ อิสระ และพลังบวก ที่เราคิดว่าคนไทยจะรักได้ในระยะยาว" และคำตอบก็ชัดเจนเมื่อวันนี้ Marimekko กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ที่มีฐานแฟนเหนียวแน่นทั่วประเทศ
ความสำเร็จของ Marimekko ไม่ได้วัดจากยอดขายเพียงอย่างเดียว แม้จะมียอดเดรสกว่า 44,000 ตัว เครื่องเซรามิกส์กว่า 120,000 ชิ้น และกระเป๋าผ้ากว่า 124,000 ใบ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการสร้าง 'ประสบการณ์' ให้กับผู้คน ทั้งการเปิดตัว Marimekko pop-up café ซึ่งเป็นคาเฟ่แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก การร่วมมือกับเทศกาล Awakening Bangkok และกรุงเทพมหานคร เพื่อนำลายดอก Unikko ไปสาดแสงสีบนตึก Museum Siam หรือแม้แต่การสร้างสรรค์คอมมูนิตี้ที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์
 |
 |
คุณธนพงษ์อธิบายว่า "เราทำให้ Marimekko เป็นมากกว่าแบรนด์ แต่เป็นการสื่อสารกับผู้คน ผ่านกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ และคอมมูนิตี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการไม่หยุดสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ ๆ ทุกฤดูกาล ทั้งคอลเลกชันใหม่ การคอลแลบกับศิลปินหรือแบรนด์ท้องถิ่น เพื่อสะท้อนความเป็นไทยในกรอบดีไซน์ฟินแลนด์"
ในโอกาสพิเศษครบรอบ 10 ปี Marimekko Thailand ได้เนรมิต Installation Art ลายดอก Unikko ใจกลางสยาม บริเวณ Parc Paragon และอุโมงค์ทางเชื่อม Siam Center–Siam Discovery พร้อมเปิดตัว Unikko T-shirt และกระเป๋าผ้ารุ่นพิเศษสำหรับแฟนๆ ที่อยากเก็บโมเมนต์นี้ไว้เป็นที่ระลึก
และเมื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 Marimekko ยังคงมุ่งมั่นในการรักษาความสดใหม่และน่าค้นหา "สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือการสร้างการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรม ไลฟ์สไตล์ และการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เราอยากให้ Marimekko ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่เป็นพลังบวกที่อยู่ร่วมกับผู้คนได้อย่างยั่งยืน" คุณธนพงษ์กล่าวทิ้งท้าย
