โมร็อคโคคือประเทศที่มีรสชาติกลมกล่อม เพราะใครได้มาที่นี่ทั้งได้ผจญภัยในทะเลทรายซะฮารา ได้สัมผัสมาราเกช เมืองที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสิบเมืองของโลกนี้ที่ควรไป ยังมีเมืองเฟสที่จะทำให้ทุกคนเผลอหลงรักที่นี่ ตามมาดูกันว่ามีที่ไหนในโมร็อคโคที่น่าเที่ยว
Marrakech
มาราเกซคือ เมืองที่มีจัตุรัสที่คึกคัก ครื้นเครง เป็นที่นัดพบของผู้คน ที่นั่นคือจัตุรัสเจมา เอล์ฟนา (Jemaa el-Fna) เป็นจัตุรัสที่ไม่เคยทำให้ใครเหงา เพราะลานกว้างกลางแจ้ง แน่นขนัดไปด้วยเสียงปี่กลองที่ประโคมลั่นจัตุรัสตั้งแต่สายไปจรดค่ำ การละเล่นสารพัดประเภทที่มาปักหลักรอแขกเหรื่อ ร้านขายน้ำส้ม ผลไม้แห้ง และแผงขายอาหาร
ทุกอย่างที่ว่ามาล้วนประดับไว้ในจัตุรัสแห่งนี้ ยิ่งถ้าใครได้พาตัวเองมาโต๋เต๋ที่นี่หลัง 6 โมงเย็นไปจนถึงค่ำมืดดึกดื่น คุณจะตกอยู่ในวงล้อมของอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์ ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงหลากประเภท เรียกว่าทั้งเพลิดเพลิน และเจริญกระเพาะไปพร้อม ๆ กัน
และเมื่อมาถึงมาราเกซลองหาโอกาสนอนในริยาด (Riad) สักครั้ง เพราะการเดินทางในโมร็อคโคของคุณจะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้เลย ถ้าไม่พาตัวเองไปสิงสถิตอยู่ในบ้านที่ตกแต่งสไตล์โมเร็อคโคที่เรียกกันว่าริยาดซึ่งเป็นบ้านเก่าที่เอามาดัดแปลงเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
ตึก 3-4 ชั้นที่ซ่อนอยู่ในเมืองเก่า มองจากด้านนอกอาจจะดูหน้าตาธรรมดาเหมือนผู้หญิงไม่ได้แต่งหน้า แค่ผลักประตูเข้าไปคุณก็จะพบว่า ด้านในเป็นคนละเรื่อง แต่ละมุมในริยาดถูกตกแต่งไว้อย่างน่านั่ง ตรงกลางเป็นลานเอาไว้ที่มุมนั่งเล่น บางบ้านจะมีน้ำพุ รายรอบไปด้วยเก้าอี้สีฉูดฉาด หรือไม่ก็มุมนั่งกับพื้นที่มีชิชาเอาไว้ให้ดูด และมีมุมกินอาหารเช้าอยู่บนดาดฟ้า
ลวดลายนอกห้อง และการตกแต่งในห้อง ซึ่งโดยมากจะใช้สีสันฉูดฉาด แต่ล้วนถูกจับวางไว้อย่างมีรสนิยม หาโอกาสนอนริยาดเมื่ออยู่บนแผ่นดินโมร็อคโค แล้วการเดินทางเที่ยวนี้จะไม่เคยพร่าเลือนไปจากใจ
และไม่ว่าจะร้อน ฝน หนาว หรือ เช้า สาย บ่าย ค่ำ ฤดูกาลและโมงยามไม่มีผลต่อการจิบชาสะระแหน่ (Mint Tea)ของชาวโมร็อคโค ไม่ใช่เพื่อสุขภาพ แต่นี่คือวิถีของชาวโมร็อคโค ชีวิตที่ผูกพันกับรสชาติของชามากกว่ากลิ่นหอมของกาแฟ
คาเฟ่ริมทางจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มานั่งปักหลักจิบชากันเช้าจรดค่ำ ร้านอาหารที่มีดาดฟ้าหรือระเบียงเป็นจุดชมวิวเมืองเก่าเป็นเหมือนแม่เหล็กคอยดึงให้นักท่องเที่ยวเข้าหา มุมนี้ใช้เป็นที่ละเลียดจิบชาแกล้มกับชมวิวห้าดาว กรุ่นหอมของชาเคล้ากับบรรยากาศที่อวลไปด้วยอารยธรรมโบราณ เป็นช่วงเวลาแห่งความอิ่มเอมของผู้มาเยือน
จิบชาอย่างเดียวไม่พอ อยากตีสนิทกับมาราเกซให้มากกว่านี้ ต้องซดน้ำส้มที่คั้นสด ๆ รสชาติหวานจับใจ เป็นธรรมชาติของส้มที่ปลูกบนแผ่นดินแอฟริกาเหนือมักจะหวานเพราะน้ำดีปุ๋ยดี
ไม่ว่าจะสัญจรไปหามุมไหนๆ ของมาราเกซ ก็หาน้ำส้มคั้นสดกินได้ง่าย ค่าเสียหายแก้วละ 3-5 ดิรฮัม (ประมาณ 12-20 บาท) อาจจะเป็นของพื้น ๆ ราคาไม่แพง แต่มันจะช่วยปรุงความทรงจำของคุณให้เป็นสีส้ม
Fez
นักเดินทางบางคนเลือกอยู่ที่เมืองเฟสแค่วันเดียว บางคนสามวัน บางคนเป็นอาทิตย์ บางคนนานนับเดือน แต่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในข่ายไหน เมื่อมาถึงโมร็อคโคทั้งทีก็ไม่ควรพลาดการมาบุกตลาดหมื่นตรอกที่เมืองเฟสอย่างเด็ดขาด
ยิ่งถ้าคุณเป็นพวกมีใจให้ตลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีความอึดและอดทนเป็นนิสัย และพร้อมจะจับจ่ายระบายสภาพคล่องทางการเงิน รับรองว่าคุณจะเที่ยวและช้อปในตลาดหมื่นตรอกได้อย่างสนุกสนาน และประทับใจอย่างไม่พร่าเลือน
เขตเมืองเก่า หรือที่เรียกกันว่า ‘เมดิน่า’ (Medina) เมื่อเข้าไปแล้ว ราวกับว่าคุณก้าวเข้าสู่โลกอีกใบ โลกที่อาจจะคลุกดินกินฝุ่น แต่ด้านในซ่อนเสน่ห์และร่องรอยทางประวัติศาสตร์เอาไว้ ให้คุณได้เดินทอดน่องแกะรอยอดีต
ตลาด ร้านน้ำชาโรงเรียนสอนศาสนา สุเหร่าน้อยใหญ่ ตรอกซอกซอย บ้านเรือน ร้านรวง และผู้คนล้วนอยู่ร่วมกันในเมดิน่า ไม่ว่าจะอยู่ที่เฟส มาราเกช เมคเนส คาซาบลังก้า หรือราบัท ล้วนมีเมดิน่ารอการไปเยือนของคุณอยู่
Rabat
ราบัทเป็นเมืองหลวงที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก เพราะมักคิดว่าคาซาบลังก้าเป็นเมืองหลวง ขี้ปากหลายคนที่บอกว่าราบัท ไม่มีอะไรให้ดู อย่าเพิ่งเชื่อ ลองแวะดูแล้วคุณจะพบว่าเป็นเมืองหลวงที่มีดีไว้อวดเยอะทีเดียว
ทั้งสุสานโมฮัมเหม็ดที่ 5 และหอสูงฮัซซัน ไปจนถึงย่านเมืองเก่าของราบัท ล้วนเป็นย่านที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยิ่งเป็นย่านอูไดอะ คาสบาห์ มุมที่ไม่ได้มีวิวสูงให้เห็นราบัทได้ทั้งเมือง แต่บ้านเรือนและตรอกซอกซอยย่านนั้นถูกละเลงด้วยสีฟ้าขาว ใครเป็นชมรมคนชอบกรีซ รับรองว่าเห็นแล้วกรี๊ด เป็นเมืองหลวงที่น่ารัก ผิดคาด
Casablanca
ไม่ต้องถึงขั้นเป็นนักเที่ยวตัวยง แต่เชื่อว่าชื่อคาซาบลังก้าคงโฉบผ่านหูใครหลายคนกันมาบ้าง เพราะชื่อของหนัง และเพลง ทำให้คนทั้งโลกคุ้นชื่อนี้ มาแต่ไหนแต่ไร
ถึงแม้นักท่องโลกที่แวะเวียนมาหาโมร็อคโค โดยมากจะตีค่าให้คาซาบลังก้าเป็นเพียงแค่ทางผ่าน แต่ใครก็ตามที่ลองใช้เวลาขลุกอยู่กับคาซาบลังก้า แม้ไม่นาน ก็มักจะลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า เมืองท่าแห่งนี้มีค่ามากกว่าการเป็นจุดต่อเรือบินหรือรถไฟเพื่อไปหาเมืองอื่นของโมร็อคโค
อย่างน้อยก็สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 ที่จะทำให้คุณตะลึงพึงเพริดไปกับความโอ่อ่าภูมิฐานของสิ่งปลูกสร้างชิ้นใหญ่แห่งนี้ ยิ่งเมื่อตกอยู่ในอาณาจักรที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยศิลปะสไตล์โมร็อคโคอันละเอียดประณีต ได้มหาสมุทรแอตแลนติกหอบลมเย็นคอยพัดแผ่ว แล้วอย่างนี้ จะเรียกว่าทางผ่านได้อย่างไร
Sahara Desert
ไม่ใช่ทุกคนที่มาถึงโมร็อคโคแล้วจะพาตัวเองไปถึงทะเลทรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างซะฮาร่า แต่ถ้ามีโอกาสลุยไปถึงซะฮาร่า คุณก็จะพบว่าคุ้มค่าเหลือเกินที่ได้มายืนสูดอากาศบน Sand Dune ขนาดยักษ์ใหญ่ของโลก
ที่เนินทรายชื่อ Erg-Chebbi แห่งเมืองเมอร์ซูกา (Merzouga) เป็นเนินทรายที่นักท่องเที่ยวทุกคนใฝ่ฝันจะมาขี่อูฐ และนอนค้างอ้างแรมในที่พักที่เรียกว่าคาสบาห์ ใช้ชีวิตอย่างคนในทะเลทรายเชื่อเถอะว่าคุณจะติดใจ
โมร็อคโคอาจไม่ใช่ดินแดนชวนฝันของนักเดินทางผู้หลงใหลแฟชั่น ไม่ใช่ปลายทางของนักท่องโลกที่เป็นสาวกลัทธิบูชาแบรนด์เนม แต่ใครก็ตามที่หวังกอบโกยสุนทรีย์มาประดับห้องใจในระหว่างที่ออกทัศนศึกษาโลก โมร็อคโคนี่แหละ คือที่ที่ปรนเปรอความรู้สึกเหล่านี้ให้คุณได้
Story & Photo By กาญจนา หงษ์ทอง