counters
hisoparty

Moms are a Girl's Best Friend. คุณอนัญญา - คุณศิตา ชุติภาวรกานต์

3 years ago

ความผูกพันแม่ลูก
          คุณศิตา: “ศิตา และคุณแม่ เราสองคนผูกพันกันมากค่ะ เพราะว่าคุณแม่เป็น Single Mom ทำให้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนมาแต่ไหนแต่ไร กิจกรรมที่ทำร่วมกันมีเยอะมาก แทบจะทำทุกอย่างด้วยกัน คงด้วยความที่คุณแม่มีลูกตอนสาวๆ ทำให้วัยของเราไม่ได้ห่างกันมาก เรามีความคิดคล้ายๆ กัน เหมือนเพื่อนกัน คุณแม่เขาจะไม่ใช่แนวชอบสั่ง คุณแม่เขาจะชิลล์ๆ อยากทำอะไรก็ทำ เลี้ยงแบบฟรีสไตล์ค่ะ”
          คุณอนัญญา: “เราเลี้ยงเขาคนเดียวตั้งแต่เด็กๆ และด้วยความที่มีเขาคนเดียวก็จะห่วงมาก แต่เขาก็ทำให้เราประทับใจในตัวเขาหลายเรื่องนะคะ อย่างตอนที่ส่งเขาไปเรียนที่ออสเตรเลีย เขาทำให้รู้ว่าเขาเอาตัวรอดได้ ไปเรียนจนจบแล้วได้เกียรตินิยมที่นั่น ตอนที่แม่ส่งไปเขาอายุประมาณ 15 ปี แม่ปล่อยให้เขาอยู่ที่นั่นเลย โดยที่แม่บินไป บินกลับไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลา แม่รู้สึกประทับใจในความอดทนสู้ชีวิตของเขา บางทีเราเองอาจจะไม่อดทนเท่าเขาด้วยซ้ำ แต่เขาก็ทำจนได้ผลสำเร็จ”

คำสอนจากแม่
          คุณอนัญญา: “คำสอนของแม่ที่บอกเขาเสมอคือ เมื่อเรายิ่งเติบโตขึ้น เรายิ่งต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เหมือนข้าวที่ออกรวง จะโน้มตัวลงมา แม่อยากให้เขาเป็นแบบนั้น คืออ่อนน้อมถ่อมตนตลอดไม่ว่าจะกับผู้ใหญ่ หรือกับทุกคนที่เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมด้วย”
          คุณศิตา: “นอกจากเรื่องของการอ่อนน้อมถ่อมตนที่ใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตไม่ว่าจะการทำงาน หรือการอยู่ร่วมกับคนอื่นแล้ว มีอีกหนึ่งคำสอนที่แม่บอกกับศิตาตอนที่ส่งเราไปเรียนที่ออสเตรเลีย คือ แม่เลี้ยงเราแบบลูกปลาวาฬนะ คือปลาวาฬเวลาคลอดลูกแล้ว มันจะทิ้งลูกไว้ แล้วเดี๋ยวลูกก็ว่ายน้ำกลับมาหาแม่เอง เหมือนว่าวันหนึ่งเราก็จะเก่งขึ้นและกลับมาหาแม่ได้ด้วยตัวเอง เหมือนที่เขาให้เราอยู่ที่ออสเตรเลียคนเดียวแล้วเราก็เรียนจบกลับมาค่ะ แต่กลับมาเป็นปลาฉลามนะ” (หัวเราะ)
          คุณอนัญญา: “แม่เคยอ่านเจอในหนังสือว่าเวลาปลาวาฬคลอดลูกมาแล้ว เขาจะเอาลูกไปปล่อยไว้กลางทะเล เพื่อให้เขาหัดหากินด้วยตัวเอง แล้ววันหนึ่งเขาก็จะว่ายน้ำมาเจอกันแล้วจดจำกันได้ (ยิ้ม) คือด้วยความที่แม่เลี้ยงลูกคนเดียว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หากวันหนึ่งเราไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ แล้วเขาไม่มีใครแล้ว เราอยากให้เขาเข้มแข็ง”

กิจกรรมที่ทำร่วมกัน
          คุณศิตา: “ส่วนใหญ่ชอปปิ้ง เป็นกิจกรรมไหม (หัวเราะ) นอกจากชอปปิ้งคือการท่องเที่ยวค่ะ”
          คุณอนัญญา: “เราชอบไปเที่ยวกัน ตอนที่ยังไม่มีโควิด เรามักจะไปต่างประเทศ และขับรถเที่ยวกันเอง เป็นแบบ Road Trip เที่ยวแบบสบายๆ ค่ะ ไปกันสองคน”

สิ่งที่อยากบอกกันและกัน
          คุณศิตา: “ภูมิใจในตัวคุณแม่ค่ะ แม่เขาเป็นผู้หญิงเก่ง ศิตาเห็นเขาเป็นไอดอล ซึ่งเรื่องนี้แม่ก็รู้ นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ศิตาอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง อยากเป็นเจ้าของบริษัท อยากพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้หญิงที่เก่งทุกด้าน ไม่ใช่เก่งแค่เรื่องเรียน แต่เก่งในชีวิตจริงด้วยค่ะ”
          คุณอนัญญา: “แม่เป็นห่วงเขาในเรื่องสุขภาพ เขาเป็นคนคิดมาก ซึ่งทำให้เครียด อยากให้เขาดูแลสุขภาพตัวเองเยอะๆ ไม่ต้องเครียดมาก อะไรจะเกิดก็เกิด อย่าไปกังวล เขาเป็นคนสุดโต่ง ทำให้เวลาทำอะไรจะจริงจัง อยากให้เขาใส่ใจกับการดูแลตัวเอง เพราะที่สุดแล้ว มีเงินแค่ไหนถ้าสุขภาพไม่ดีอะไรก็ซื้อไม่ได้”

ความคาดหวังในอนาคต
          คุณอนัญญา: “แม่หวังอยากให้เขามีครอบครัวที่ดี เจอคนที่ดีค่ะ”
          คุณศิตา: “อนาคตศิตาอยากให้คุณแม่ไม่ต้องทำงานแล้ว สิ่งที่ศิตาตั้งใจไว้คือ อยากเลี้ยงดูกันไปจนแก่ ไม่ให้แม่ต้องทำอะไรแล้วค่ะ”

การแสดงความรัก
          คุณอนัญญา: “เราบอกรักกันตลอด”
          คุณศิตา: “ใช่ค่ะ เราบอกรักกันตลอด จุ๊บๆ กันตลอด”
          คุณอนัญญา: “กอดกัน หอมกัน เป็นปกติเหมือนเขายังเป็นเบบี๋”
          คุณศิตา: “ศิตาคิดว่าการแสดงความรักเป็นสิ่งสำคัญ อย่าพูดในวันที่ไม่มีเขาอยู่ ศิตาจะใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายตลอดเวลา คือเรามีแม่คนเดียว ฉะนั้นให้ความรักกันมากๆ เพราะว่าวันที่เขาไม่อยู่เราจะเป็นคนที่ทุกข์ทรมานที่สุด และถ้าเราไม่แสดงออกให้เขารู้ ตอนนั้นเราคงอยู่ด้วยความคิดว่า ทำไมวันนั้นไม่ทำแบบนี้ ทำไมวันนั้นไม่บอกรักเขา อย่าใช้ชีวิตแบบนั้นค่ะ”
          คุณอนัญญา: “แม่ว่าการแสดงความรัก มันทำให้เรารู้สึกอบอุ่น เราได้ใกล้ชิดลูกตลอดเวลา แม่คิดว่าเราบอกรักกันทุกวันดีกว่าเราไม่บอกกัน อย่าพูดในวันที่สายเกินไป และไม่จำเป็นต้องเป็นวันแม่เท่านั้นเราควรบอกกันทุกครั้งที่เรารู้สึกอยากจะบอกรักค่ะ” 

AUTHOR BY ARUNLAK
PHOTO BY VEERAPHOL
VDO BY SIRAWIT
VDO EDIT BY CHONTICHA


SHARE    

SHARE