พบกับเพื่อนซี้ต่างสไตล์ทั้ง 3 ท่านคุณมีมี่-กิ่งกานต์ สลากรธนวัฒน์ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ‘กิ่งกานต์’ (KINGKAN) คุณเจน-ธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล ผู้บริหารบริษัทซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด และคุณเม่น-วงศรณ สุทธิกุลพาณิช อินทีเรียดีไซน์หนุ่มไฟแรง ที่จะมาแชร์ทั้งประสบการณ์สุดประทับใจระหว่างเพื่อน และเรื่องราวการทำงานที่ต่างก็ยอมรับว่า หากไม่มีเพื่อนคงไม่มีวันนี้อย่างแน่นอน
คุณมีมี่ คุณเจนและคุณเม่นรู้จักกันมาร่วม 10 ปี โดยคุณมีมี่และคุณเจนรู้จักกันจากการร่วมเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานของคุณบัว-ชมพู ฟอร์ด ส่วนคุณเม่นมีโอกาสมารู้จักกับทั้งสองสาวได้ก็เพราะความที่เป็นคอแฮงค์เอ้าท์เหมือนกัน จึงทำให้พบกันบ่อยและสนิทกันในที่สุด
ความรู้สึกที่เจอกันในครั้งแรก
คุณเม่น : เม่นจำไม่ได้แล้วว่าเจอมี่ครั้งแรกที่ไหนพอได้มาเจอกันอีกครั้ง เราก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันมาก่อน ตอนนั้นมี่เขาจะทำร้านเสื้อผ้าร้านแรกจึงเรียกผมมาออกแบบร้านให้ ส่วนเจนเจอครั้งแรกก็จำได้เลย เพราะว่าบุคลิกมีความยูนีคมาก (ทุกท่านหัวเราะพร้อมกันทันที) เจนมีลุคที่เท่ แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนเฮฮามาก
คุณมีมี่ : มี่เจอพี่เม่นครั้งแรกก็รู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่หล่อค่ะ (หัวเราะ) เขาเป็นพี่ที่น่ารักมาก ทั้งพี่เม่นและพี่เจนเลย
งานอดิเรกของแต่ละท่าน
คุณเม่น : เม่นจะกินและเที่ยวเสียส่วนใหญ่ หรือไม่ก็จะเข้าพิพิธภัณฑ์ดูผลงานศิลปะครับ
คุณมีมี่ : โอโห้ ดูหล่อเลยค่ะ (หัวเราะ)
คุณเจน : เอาน่า เม่นเขาเป็นศิลปินนี่นา (แซว)
คุณมีมี่ : ถ้าวันว่างมี่ชอบไปหาของอร่อยรับประทานและนัดเจอเพื่อนๆ ค่ะ
คุณเจน : ถ้านอกจากนัดเจอเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวสนุกๆ กัน ช่วงนี้เจนกับมี่จะมีเรียนด้านจิตวิทยาการจัดการกัน เพราะช่วงนี้เราทำงานเยอะขึ้น แบรนด์กิ่งกานต์เองก็เติบโตขึ้น บริษัทซุปเปอร์ริช(ไทยแลนด์)ของเจนลูกน้องก็เยอะขึ้น จึงมีเรื่องของการจัดการ เรื่องความสัมพันธ์ เรื่องคนเข้ามาเกี่ยวข้องกัน จึงชวนกันไปเรียนด้านนี้ค่ะ
[caption id="attachment_22003" align="alignnone" width="800"] เหตุผลที่เราต้องพูดกันตรงๆ ก็เพื่อที่จะรักษามิตรภาพเอาไว้ เพื่อให้มิตรภาพตรงนี้ยังอยู่ ไม่ใช่พูดเพื่อทำลายมัน (คุณเจน-ธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล)[/caption]
สิ่งที่ทำให้เป็นเพื่อนกันได้
คุณเม่น : พวกเราเป็นคนไม่คิดอะไรมาก ไม่โกรธกัน มีอะไรไม่พอใจก็พูดกันตรงๆ
คุณเจน : เราพูดกันตรงๆ ได้ว่าสิ่งนี้เราโอเคหรือว่าไม่โอเค ซึ่งเพื่อนกลุ่มนี้มีพื้นฐานของการเป็นคนตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
คุณมีมี่ : เราไม่ต้องคิดหลายรอบว่าจะพูดอะไร เวลามีปัญหามี่ก็จะปรึกษาพี่ๆ เขาได้ตลอด มี่ไม่รู้ว่าทุกคนเคยเป็นหรือเปล่า ที่เวลาเจอเพื่อนบางคนเราต้องคิดก่อนตลอดเวลาเราจะพูดอะไร แต่พออยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้เรารู้สึกสบายใจค่ะ
เรื่องราวขำขันที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกัน
คุณมีมี่ : ต้องเป็นทริปที่พี่เม่นชวนมี่ไปฝรั่งเศสมันเป็นทริปวันเดียวที่ทุกอย่างต้องทำเวลา (หัวเราะ)
คุณเม่น : จริงๆ มันเป็นทริปที่ต่างคนต่างไป แต่เราไปเจอกันที่ลอนดอนจึงวางแพลนไปเที่ยวปารีสกัน ในวันนั้นเราวางเป้าหมายว่าจะไปซื้อของให้ครบตามที่ต้องการด้วย ผมจึงต้องรีบครับเหนื่อยมาก เราต้องวิ่งทำเวลาเพื่อขึ้นรถไฟกัน
คุณมีมี่ : แต่เป็นทริปที่สนุกและมี่ประทับใจมาก เราช้อปปิ้งกันจนนาทีสุดท้ายเลยค่ะ
คุณเม่น : จนกระทั่งช่วงเย็นถึงได้กินข้าวกันที่ปารีส แต่กินกันไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องเช็คบิลเพื่อรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟ จนผู้จัดการร้านออกมาต่อว่าว่ายูมาฝรั่งเศสอยู่ต้องกินอันนี้สิ ทำไมยูไม่กินให้เสร็จ (หัวเราะ)
คุณมีมี่ : ด้วยความที่ร้านนั้นเป็นร้านดังที่กว่าจะได้โต๊ะมาก็ยาก แต่เราก็ต้องรีบกลับกัน (ยิ้ม) ส่วนกับพี่เจนเหตุการณ์ที่มี่ชอบคือตอนที่เราไปเกาะยาวน้อย จังหวัดภูเก็ต เราไปขี่จักรยานกันเป็น 10 กิโลแต่ขากลับมี่ขี่กลับไม่ไหว แล้วพี่เจนก็ขี่นำมี่ไปก่อน ไม่รอมี่เลย (ขำ) มี่ก็ขี่รั้งท้ายอยู่กับเพื่อนอีกคน สุดท้ายจึงเป็นมี่คนเดียวที่ขึ้นรถสองแถวกลับโดยเอาจักรยานขึ้นรถมาด้วย (หัวเราะ)
คุณเจน : คือปั่นเรียงกันมา แต่ขากลับมีหายกันไปกลุ่มหนึ่ง แล้วก็เหลือกันอยู่อีกกลุ่มหนึ่ง
คุณมีมี่ : พอกลับมาถึงมี่ก็ถามพี่เจนว่า ทำไมพี่เจนทิ้งหนูเลยล่ะ (หัวเราะ)
คุณเจน : แล้วพอรู้ตัวอีกที เจนโทรกลับไปก็ทราบว่ามี่อยู่บนสองแถวแล้ว (หัวเราะ)
คุณมีมี่ : พอถึงโรงแรมในวันนั้นมี่เดินไม่ได้เลย ระบมและปวดเข่ามาก ต้องทานยาเลย
คุณเม่น : แต่เห็นเขาแบบนี้ หลายคนก็จะมองว่ามี่เป็นคนไม่ลุย พอเอาเข้าจริงเวลาทำงานมี่ลุยมากนะ ตอนเริ่มทำแบรนด์กิ่งกานต์ใหม่ๆ ยังสงสารน้องเลยว่าจะไหวหรือเปล่า แต่ทุกวันนี้ทึ่งในตัวเขามาก
คุณมีมี่ : อย่าพูดซึ้งนะ เดี๋ยวมี่จะดราม่า (หัวเราะ)
[caption id="attachment_22002" align="alignnone" width="800"] หากเปรียบเพื่อนเป็นเครื่องดื่มก็คงจะเป็น ‘ค็อกเทล’ เพราะดื่มได้เรื่อยๆ ได้ดื่มแล้วสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรที่หวือหวา (คุณมีมี่-กิ่งกานต์ สลากรธนวัฒน์)[/caption]
ความประทับใจที่มีต่อกัน
คุณเม่น : ถ้าเป็นกับมี่ อย่างที่บอกไปตอนแรกที่น้องเริ่มทำแบรนด์ เราเห็นน้องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ จึงเป็นห่วงว่าจะไหวหรือเปล่า แต่น้องก็ทำให้เห็นว่าน้องโตขึ้นแล้วจริงๆ เราภูมิใจกับน้องมากครับส่วนเจนตอนแรกอาจจะยังไม่สนิทกัน แต่มาช่วงหลังๆ ผมโทรไปหาเจนบ่อยเรื่องแลกเงินของธุรกิจที่เขาทำ ซึ่งอย่างที่บอกเราไม่ได้สนิทกันแต่เขาก็ช่วยเหลือเต็มที่ เราก็รู้สึกประทับใจเจนในตรงนี้ จนตอนนี้ก็ไว้ใจและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันแล้วครับ
คุณมีมี่ : พี่ๆ ทั้งสองคนเรียกได้ว่าดูแลมี่ทุกอย่าง ปัจจุบันพี่เม่นเขาก็จะดูแลภาพรวมทุกอย่างของทุกร้านทุกสาขาของมี่ ดูแลแบรนด์ คอนเซ็ปต์ รวมไปถึงชื่อคอลเลกชั่น มี่จะชอบโทรไปหาพี่เม่นว่าจะออกคอลเลกชั่นใหม่ตั้งชื่อว่าอะไรดี (หัวเราะ) อย่างพี่เจนเวลามี่มีปัญหาหนักๆ มี่จะปรึกษาเขาตลอด พี่เจนจะให้คำปรึกษาได้เสมอถึงแม้เขาจะดูเป็นแบบนี้ (แซว)คือเขาจะเป็นคนซีเรียส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ เรื่องความรักหรือเรื่องเพื่อน
คุณเม่น : เจนเขาเป็นคนที่เวลาใครมีปัญหาแล้วมาปรึกษา เขาจะจริงจังทันที เป็นคนให้คำปรึกษาที่ดีได้ สุขุม นุ่มลึก (หัวเราะ)
คุณเจน : กับเม่นเรามีโอกาสได้คุยกันจริงๆ คือช่วงที่ไปช่วยมี่ทำร้านที่สยาม เราเห็นเขาตั้งใจและกุลีกุจอทำทุกอย่างเหมือนกับเป็นร้านตัวเอง (หัวเราะ) จึงเห็นว่าผู้ชายคนนี้น่ารัก มีน้ำใจและคอยดูแลคนอื่นเสมอ ส่วนมี่เขาเป็นน้องที่น่ารัก ไปลามาไหว้ตลอด หรือบางช่วงที่เราต่างคนต่างยุ่ง มี่ก็จะไลน์มาหาว่าคิดถึงนะ คือเราจะนึกถึงกันเสมอ
คุณเม่น : มี่เขาจะเป็นคนที่นึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเขาจะนึกถึงว่าคนอื่นจะโอเคไหม ในขณะที่บางทีตัวเขาเองก็ไม่โอเค
คุณเจน : อีกอย่างคือตอนแรกเจนคิดว่ามี่เขาไม่ใช่คนที่ทำงานหนักอะไร คือจะแต่งตัวสวยตลอด แต่พอเห็นเขาทำร้านอาหาร แล้วก็เริ่มทำแบรนด์ของตัวเอง อย่างที่คุณเม่นบอกก็คือน้องมี่จะเป็นคนตั้งใจทำงานและจริงจัง เวลาคุยด้วยรู้สึกเลยว่าเขาไม่ธรรมดา
[caption id="attachment_22001" align="alignnone" width="800"] สำหรับเพื่อนแล้วเวลามีปัญหาก็คุยได้ เวลาไม่มีปัญหาก็คุยได้ คือเป็นกลุ่มคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและเป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว (คุณเม่น-วงศรณ สุทธิกุลพาณิช)[/caption]
นิยามคำว่า‘เพื่อน’
คุณเจน : กลุ่มคนที่เราสามารถพูดหรือแสดงออกความรู้สึกของเราได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะโกรธหรือไม่ เราสบายใจในแบบที่เราเป็น และเราก็รักเขาทั้งสองคนในแบบที่เขาเป็นด้วยค่ะ
คุณเม่น : คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจครับ บางครั้งเราทำงานเหนื่อย หลายคนชอบพูดว่าทำไมเหนื่อยแล้วไม่กลับบ้านไปพักผ่อน แต่สำหรับเราการพักผ่อนในบางครั้งก็คือการอยู่กับเพื่อน เพราะมันสบายใจกว่า กลับบ้านบางทีเรายังคิดนู้นคิดนี่ แต่อยู่กับเพื่อนเราลืมอะไรหลายๆอย่างได้เลย สำหรับเพื่อนแล้วเวลามีปัญหาก็คุยได้ เวลาไม่มีปัญหาก็คุยได้ คือเป็นกลุ่มคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและเป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว
คุณมีมี่ : หากเปรียบเพื่อนเป็นเครื่องดื่มก็คงจะเป็น ‘ค็อกเทล’ เพราะดื่มได้เรื่อยๆ ได้ดื่มแล้วสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรที่หวือหวา คือไม่ต้องคุยกันทุกวัน แต่เมื่อเจอกันแล้วเราต่างสบายใจที่จะอยู่ด้วยกัน หรือในขณะที่เรามีเพื่อนเยอะมากมาย แต่ในช่วงเวลาสำคัญเรามักจะนึกถึงเพื่อนเพียงไม่กี่คน นั่นแหละคือเพื่อนคนสำคัญของเราจริงๆ
การรักษาความเป็นเพื่อนไว้ตราบนานเท่านาน
คุณเม่น : การพูดกันตรงๆ ครับ ไม่พอใจกันเรื่องอะไรต้องพูดออกมา เก็บไว้บางทีมันอึดอัด และสุดท้ายกลายเป็นเข้าหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ
คุณเจน : .ใช่ค่ะ เหตุผลที่เราต้องพูดกันตรงๆ ก็เพื่อที่จะรักษามิตรภาพเอาไว้ เพื่อให้มิตรภาพตรงนี้ยังอยู่ ไม่ใช่พูดเพื่อทำลายมัน
คุณมีมี่ : ต้องจริงใจด้วยค่ะ ไม่คิดอะไรซับซ้อน อย่างเวลามี่ทำอะไรผิด พี่ๆ เขาก็กล้าที่จะบอกกับเรา เขาไม่ได้เข้าข้างเราตลอด ที่สำคัญแก๊งนี้พูดกันตรงมาก อ้วนขึ้นก็พูดตรงมาก (หัวเราะ)ไม่เคยจะมีการยอกันว่าสวยนะ
คุณเจน : อ้วนก็ต้องบอกว่าอ้วนค่ะ (ขำ)
คุณเม่น : หลายคนมักบอกว่าเพื่อนแก๊งเดียวกันควรจะมีอะไรที่คล้ายคลึงกันแต่สำหรับพวกเราผมว่าไม่จำเป็นเลยครับ
ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมเราจึงต้องยกพื้นที่ใน Celebrity in Focus ทั้งหมดให้เพื่อนซี้ทั้ง 3 ท่านนี้อย่างไม่มีข้อแม้ เพราะสไตล์ที่ต่างกันสุดขั้วของแต่ละท่าน กลายมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของคำว่า ‘เพื่อน’ ได้อย่างครบรส แล้วแก็งเพื่อนของคุณล่ะคะ เป็นรสชาติไหน
My Friends is My Happiness : เพราะคำว่า ‘เพื่อน’ คือความสุข
9 years ago