counters
hisoparty

My Mother, Forever My Friend คุณจุไรรัตน์ ภิรมย์ภักดี – ม.ล.จุไรมาศ ดิศกุล

3 years ago

            นอกจากให้เกียรติมาร่วมถ่ายแฟชั่นเซ็ตปก พร้อมกับเปิดประตูบ้านหลังงามให้กับ HiSoParty ได้เข้าไปสัมผัสแล้วคุณหนุ่ย – จุไรรัตน์ ภิรมย์ภักดี คุณแม่ที่ยังสาว และสวยของลูกแฝดทั้งสามคน ม.ล.จุไรมาศ, ม.ล.ราชดำรง และ ม.ล.พงศ์พัฒนเดช ดิศกุล ยังได้ควงแขน น้องเอื้อย – ม.ล.จุไรมาศ ลูกสาวคนโตตัวแทนของน้องชายอีกสองคน มานั่งพูดคุยถึงเรื่องราวความรักความผูกพันระหว่างแม่และลูกๆ แบบ Exclusive สุดๆ อีกด้วย

 

‘แม่’ ในสไตล์ คุณจุไรรัตน์ ภิรมย์ภักดี
            คุณจุไรรัตน์: “หนุ่ยว่าหนุ่ยเป็นแม่ที่ง่ายๆ สบายๆ นะคะ หนุ่ยเลี้ยงลูกแบบเป็นเพื่อนกัน ซึ่งบางทีความเป็นเพื่อนของเรา ลูกก็จะไปตีความผิด กลายเป็นว่าฉันป็นเพื่อนเธอจริงๆนะ คือหยอกล้อเล่นกันได้ (หัวเราะ) หนุ่ยก็จะต้องเรียกกลับมาว่าฉันเป็นแม่นะ คือเราสองคนสนิทกันมาก (คุณแม่และลูกสาว)แต่อีกสองคน เขาเป็นผู้ชาย เขาจะเกรงใจหนุ่ยมากกว่า แต่กับคนนี้ (หันมองหน้าลูกสาว) เราจะเหมือนเป็นเพื่อนกันค่ะ” (ยิ้ม)
            ม.ล.จุไรมาศ: “อย่างที่แม่พูดค่ะ คือแม่ไม่ได้เป็นแม่แบบ Traditional ซึ่งสำหรับเอื้อยถือว่าเป็นข้อดีที่แม่ไม่ได้เป็นแม่เหมือนปกติทั่วไป (ยิ้ม) ยกตัวอย่างเอื้อยมีโอกาสได้เห็นแม่ของเพื่อนๆ คนอื่นหลายๆ คน เขาจะกะเกณฑ์กับลูก เช่น ลูกฉันต้องได้เกรดเอเท่านั้น หรือลูกฉันต้องเรียนพิเศษ เรียนภาษาเรียนดนตรีนะ บังคับว่าในแต่ละวันจะต้องทำกิจกรรม 108 อย่าง แต่กับแม่ของเรา แม้อยากให้ลูกทำกิจกกรมก็จริง แต่ว่าเขาอยากให้เราได้ทำในสิ่งที่เราชอบด้วย อย่างของเอื้อยโชคดีที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรมาตั้งแต่เด็ก คือเอื้อยชอบดนตรี ชอบร้องเพลง ชอบวาดรูป ทำให้ได้เริ่มทำตั้งแต่ 5-6 ขวบ ส่วนน้องๆ ได้เจอว่าตัวเองชอบเทควันโด ชอบเล่นกีฬา แต่ละคนคืออยากทำอะไรก็ทำ ตามสบาย ขอแค่ให้ทำแล้วมีความสุข คุณแม่พร้อมสนับสนุนสิ่งนี้ทำให้เอื้อยรู้สึกอยากขอบคุณแม่มากๆ ค่ะ”

กิจกรรมที่ทำร่วมกัน
            คุณจุไรรัตน์: “ถ้าระหว่างหนุ่ย กับเอื้อยจะเป็นการเดินทางต่างประเทศด้วยกัน ช้อปปิ้งด้วยกัน นอนด้วยกัน ทานข้าว คืออยู่ด้วยกันได้ แทบจะทำทุกสิ่งอย่างด้วยกันหมด แต่กับลูกชายอาจจะมีแยกนิดนึง เพราะเขาคงไม่มาช้อปปิ้งกับเรา (ยกเว้นคนเล็กที่ชอบให้แม่ซื้อของให้ – พี่สาวแอบเม้าท์น้อง) คือลูกชายคนเล็กจะมีบ้างที่พาหนุ่ยไปช้อปปิ้งเพื่อให้ไปซื้อของให้ (หัวเราะ) ส่วนคนกลางไม่ชอบช้อปปิ้งเลย ในตู้รองเท้าของคนนี้มีรองเท้าอยู่สองคู่ และเล่นอยู่แต่กับคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าพูดถึงกิจกรรมที่เราทำด้วยกันสามคนพร้อมหน้าพร้อมตา คงเป็นการไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานข้าวกันค่ะ”

วิธีการเลี้ยงลูก
            คุณจุไรรัตน์: “เคยมีคนมาว่าหนุ่ยว่าทำไมเลี้ยงลูกสปอยล์จัง แต่หนุ่ยมีความรู้สึกว่าหนุ่ยไม่ได้สปอยล์ คือ ถ้าหนุ่ยอยากจะซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ให้ลูกหนุ่ยใส่มันก็เป็นเรื่องของหนุ่ย เพราะหนุ่ยเป็นแม่ และหนุ่ยก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน เพราะฉะนั้นจะบอกว่าหนุ่ยสปอยล์ลูกด้วยการซื้อเสื้อผ้าให้ลูกไหม คือ ไม่นะคะ เพราะความสุขของหนุ่ย คือ การจับลูกแต่งตัวเป็นตุ๊กตา ตั้งแต่เด็กหนุ่ยจับลูกแต่งตัวแล้วถ่ายรูป เคยให้เขาใส่ชุดแบบเป็นลายเสือ และเอื้อยตอนเด็กๆ เขาอ้วนมากมีพุงพุ้ย ซึ่งในความเป็นแม่แม่ว่าน่ารักมาก” (หัวเราะ)
            ม.ล.จุไรมาศ: “ถ้าถามเอื้อยว่าแม่สปอลย์ไหม เอื้อยว่าแม่ไม่ได้สปอยล์ คือเราใช้ของใช้เสื้อผ้าที่ค่อนข้างมีราคาไหมก็จริงแต่ถ้าถามว่าเราจำเป็นจะต้องติดหรู เดินทางดี หรือพักในที่ดีๆ ตลอดเวลาไหมก็ไม่ใช่ค่ะ ในการใช้ชีวิตเอื้อยจะปกติมาก ไม่ได้ทำอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นเลย ที่สุดแล้วเอื้อยอยากจะบอกว่าแม่ไม่ได้เลี้ยงแบบสปอยล์เลยค่ะ”

คำสอนของคุณยาย (คุณหญิงสุภัจฉรี ภิรมย์ภักดี)
            คุณจุไรรัตน์: “หนุ่ยแทบจะไม่นำคำสอนของแม่มาใช้เลย คือคำสอนของแม่ ถ้าหนุ่ยเอาไปพูดทุกคนจะต้องตกใจ (หัวเราะ) เพราะแม่หนุ่ยเป็นคนที่ฮาร์ดคอร์มาก ยกตัวอย่างแม่หนุ่ยจะสามารถด่าได้ทุกภาษา (หัวเราะ) ซึ่งหนุ่ยจะไม่จำมาใช้ แต่กลายเป็นว่าลงไปที่หลานหมด ทุกภาษายายพูดอะไรมาก หลานสาวได้หมด”
            ม.ล.จุไรมาศ: “สำหรับเอื้อยยายจะสอนเสมอว่าเราเป็นผู้หญิงก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องซอฟ์ต คือ สมมติว่ามีใครมาหาเรื่องเรามีใครบูลลี่ รังแก หรือทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ถูก เราต้องคิดที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเอง เอื้อยเลยกลายเป็นคนที่สู้คน เหมือนที่ยายสู้คน แต่อาจจะไม่ถึงขั้นคุณยาย” (ยิ้ม)
            คุณจุไรรัตน์: “แม่หนุ่ยจะเป็นคนที่บู๊มากๆ ย้อนไปสมัยหนุ่ยเด็กๆ ตอนนั้นมีคนมาปูพรมที่ห้องนอนแม่ แล้วแม่ขึ้นไปเจอเขากำลังค้นกระเป๋าตังค์แม่ที่วางอยู่บนหัวเตียงนอน เมื่อแม่เห็นแล้วแม่ก็ผลักเขาออกไป จากนั้นแม่ก็ไปหยิบปืนขึ้นนก แล้วจ่อไปที่คนนั้น ให้เขาเดินลงมาข้างล่าง และตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่หนุ่ยกำลังกลับจากโรงเรียน แม่ให้คนไปบอกยามว่าไม่ให้รถหนุ่ยเข้าบ้านเพราะแม่กลัวเผื่อเขาคิดจะลักพาตัวหนุ่ย ทีนี้พอตำรวจมาถึง แม่ยังถือปืนจี้ไปที่คนปูพรมอยู่เลย จนตำรวจต้องบอกว่า ผมขอเก็บปืนนะครับ เพราะแม่ขึ้นนกไปแล้วแต่แม่เอาลงไม่ได้ คุณตำรวจเลยต้องขอปืนมาเก็บก่อน” (หัวเราะ)
            ม.ล.จุไรมาศ: “คุณยายจะเป็นคนที่สู้มากค่ะ สู้เพื่อครอบครัวตัวเองมากๆ ใครมาบูลลี่อะไรคือไม่ได้”

สิ่งที่อยากให้ลูกทั้งสามคนยึดถือไว้
           คุณจุไรรัตน์: “สอนให้เขาเป็นคนดี สอนให้เคารพผู้ใหญ่เจอผู้ใหญ่ต้องไหว้ ด้วยความที่เขาอยู่โรงเรียนอินเตอร์ซึ่งโรงเรียนอินเตอร์จะมีความเป็นฝรั่งมากๆ หนุ่ยไม่ต้องการให้ลูกได้วัฒนธรรมฝรั่งกลับมาทำให้ตั้งแต่เด็กๆ เราจะคอยสอนเขาว่า เวลาเห็นพ่อแม่ไหว้ใครเราก็ต้องไหว้ตามนะ จะรู้จักไม่รู้จักก็ต้องไหว้”
           ม.ล.จุไรมาศ: ”แม่จะสอนให้เคารพผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็กจนโต จะมีแต่คำนี้ คือ เวลาเจอผู้ใหญ่ต้องไหว้นะ มือต้องอ่อน จากนั้นเหมือนเป็นอัตโนมัติที่เวลาเจอผู้ใหญ่เราจะต้องไหว้ทำความเคารพเสมอ จนบางครั้งผู้ใหญ่ท่านจะบอกว่า ไม่ต้องไหว้แล้วเราเจอกันแล้วหนูไหว้แล้วนะ คือวันหนึ่งอาจจะไหว้คนหนึ่งซ้ำหลายๆ รอบก็ได้ค่ะ” (หัวเราะ)

สิ่งที่อยากบอกกันและกัน
           ม.ล.จุไรมาศ: แม่รู้อยู่แล้วแหละ... (ร้องไห้) เอื้อยอาจจะหวงและห่วงแม่มาก แต่เพราะว่ารักแม่มาก รักมาก แม่อย่าดื้อกับลูกนะ” (หัวเราะทั้งน้ำตา)
           คุณจุไรรัตน์: สำหรับหนุ่ย... (ร้องไห้) คิดว่าชีวิตนี้คงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเขา”

แม้ว่าเราจะจบบทสนทนาด้วยน้ำตา แต่นี่ก็เป็นน้ำตาของความรัก...



ขอขอบคุณเครื่องประดับ

AUTHOR BY ARUNLAK
PHOTO BY PRAYUTH, VEERAPHOL
VDO BY SIRAWIT

SHARE