สำหรับคอกาแฟอย่างใครหลายคน เริ่มต้นวันใหม่ด้วยกาแฟที่ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง กลิ่นหอมอบอวลที่เป็นเอกลักษณ์ บอกได้เลยว่า ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ไหนไกล ถ้าอยากลิ้มลองกาแฟรสชาติลุ่มลึก รังสรรค์ด้วยความใส่ใจ ก็รับบทบาริสต้าเองได้เลยที่บ้าน ด้วยแคปซูลกาแฟในกลุ่ม Master Origins จาก Nespresso ที่เดินทางมาไกลจาก 5 แหล่งทั่วโลก ซึ่งได้ชื่อว่ามีภูมิประเทศที่เหมาะกับการปลูกกาแฟที่สุด เมล็ดกาแฟคุณภาพเหล่านี้จะถูกนำไปแปรรูปอย่างพิถีพิถันโดยเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญ ด้วยกรรมวิธีพิเศษไม่เหมือนใคร ทำได้เฉพาะที่ประเทศต้นกำเนิดเท่านั้น บอกได้เลยว่ารสและกลิ่นที่ได้ จะสะท้อนเอกลักษณ์แต่ละประเทศราวกับได้ไปชิมที่ไร่กาแฟท้องถิ่นจริงๆ
ซึ่งหากได้ลองชิมกาแฟในกลุ่ม Master Origins แล้ว ต้องสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการสร้างสรรค์รสชาติของกาแฟแน่นอน โดยในกระบวนการผลิตของ Nespresso เปน็น้้h้ฯ็นการร่วมมือกับชาวไร่กาแฟและเกษตรกร ถือเป็นหนึ่งในปณิธานที่จะสนับสนุนอาชีพของคนในท้องถิ่น รวมทั้งดูแลรักษาแหล่งกำเนิดกาแฟให้คงอยู่ต่อไป อีกทั้งยังสะท้อนถึงผลงานด้านคราฟต์แมนชิปในการรังสรรค์รสชาติ รวมถึงการใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต ที่สร้างความยั่งยืนให้ทั้งชุมชน ผู้ผลิต และผู้บริโภค
เริ่มต้นแบบสบายๆ ที่ความเข้มระดับ 4 ด้วย ‘Master Origin Ethiopia’ กาแฟอาราบิก้า 100% จากเอธิโอเปีย สัมผัสความสดชื่นกับรสชาติเบาๆ สุดนุ่มนวล โดดเด่นด้วยกลิ่นดอกไม้หอมฟุ้ง ชาวไร่เอธิโอเปียมีเอกลักษณ์การแปรรูปด้วยกรรมวิธี ‘Natural Dry’ หรือการตากแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ผลกาแฟจะถูกนำไปตากในแดดบนเนินสูง 4 สัปดาห์ และคอยพลิกเพื่อให้แห้งสม่ำเสมอกัน
ถัดมาเป็นกาแฟ ‘Master Origin Nicaragua’ ซึ่งเป็นกาแฟอาราบิก้า 100% ขยับความเข้นขึ้นมาที่ระดับ 5 ต้นกำเนิดเกิดขึ้นบนเนินเขาสูงของประเทศนิการากัว เหล่าเกษตรกรจะนำกะลากาแฟที่ยังมีเนื้อของผลกาแฟห่อหุ้มอยู่ที่เรียกว่า ‘แบล็กฮันนี่ (Black Honey)’ ไปตากแดดทุกชั่วโมง ทำให้รสหวานธรรมชาติซึมเข้าไปในเมล็ดกาแฟอย่างดี กาแฟที่ได้จึงมีรสหอมหวาน สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
โดยกาแฟที่ได้ชื่อว่ารสนุ่มลึกราวกับไวน์ชั้นดี คือกาแฟ ‘Master Origin Colombia’ กาแฟอาราบิก้า 100 % จากโคลอมเบีย รสเข้มในระดับ 6 ด้วยเทคนิค ‘Late Harvest’ หรือการเก็บเกี่ยวตอนสุกคาต้นในปลายฤดู เมล็ดกาแฟที่ได้จึงเป็นกาแฟที่โตเต็มที่ ที่สำคัญต้องพิถีพิถันในการเลือกเก็บ ในทุกๆ เช้า ผลกาแฟทุกผลจะถูกประเมินและจะเลือกเก็บเฉพาะผลที่โตพร้อมสมบูรณ์แล้วเท่านั้น ความใส่ใจนี้ทำให้รสกาแฟเต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมแต่งแต้มด้วยกลิ่นหอมของเบอร์รี่สีแดง
อีกตัวที่เป็นความลงตัวของกาแฟ ‘Master Origin Indonesia’ กาแฟอาราบิก้า 100 % จากอินโดนีเซีย ถึงแม้จะเข้มในระดับ 8 แต่รสสัมผัสยังนุ่มละมุน เกษตรกรชาวอินโดนีเซียรังสรรค์กาแฟนี้บนเกาะสุมาตรา ด้วยเอกลักษณ์การแปรรูปโดยการสีกาแฟแบบเปียกที่เรียกว่า ‘Wet-Hulled’ โดยต้องทำในภาวะความชื้นคงที่เท่านั้น ทำให้สามารถแปรรูปเมล็ดกาแฟได้ในขณะที่ยังชื้นและสดใหม่มาก ส่งให้เกิดกลิ่นหอมของไม้อบอวลอยู่ในกลิ่นกาแฟ
ปิดท้ายกับกาแฟโรบัสต้าและอาราบิก้าจากอินเดีย ‘Master Origin India’ ให้รสหนักแน่นแบบถึงใจ ไต่ไปถึงความเข้มระดับ 11 กาแฟ India นั้นมีเอกลักษณ์การแปรรูปด้วยกรรมวิธีสุดแปลกแต่ให้ผลดีอย่างเหลือเชื่อ นั่นคือการ ‘Monsooning’ ซึ่งเป็นการปล่อยให้ลมมรสุมพัดเข้าสัมผัสกับเมล็ดกาแฟ ที่ชายฝั่งมาลาบาร์ในประเทศอินเดีย ทำให้กาแฟแก้วนี้มีกลิ่นโทนสไปซี่ หอมเผ็ดร้อนไม่เหมือนใคร
โดย Master Origins Limited Edition นอกจาก 5 กาแฟรสชาติหลักนี้แล้ว Master Origins ยังมีกาแฟรสชาติสุดพิเศษที่เป็น Limited Edition อีกด้วย และไม่ได้มีเพียงรสชาติเดียวเท่านั้น มีกาแฟคุณภาพเตรียมเดินทางมาจากอีกหลายแหล่งทั่วโลก พร้อมเสิร์ฟถึงมือคุณตลอดทั้งปี 2022 รสชาติแรกของปีนี้เริ่มต้นที่ ‘Master Origins La Cumplida Refinada’ กาแฟอาราบิก้า 100% จากนิการากัว ซึ่งถูกแปรรูปด้วยฝีมือผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นของนิการากัวโดยเฉพาะรสหวานละมุนราวกับเชอร์รี่เชื่อมและเมล็ดทับทิม
หากคุณเป็นหนึ่งในคอกาแฟที่กำลังมองหารสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ลิ้มลอง Nespresso Master Origins ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565 ที่เนสเพรสโซบูติกทุกสาขา หรือทางเว็บไซต์เนสเพรสโซ https://www.nespresso.com/th/
Author By : Piyamas
