คุณพศิน ลาทูรัส นักธุรกิจ หัวใจนักแข่ง

หลังจากถอดหมวกกันน็อควางไว้ชั่วคราว แล้วหันมาสวมหมวกของผู้บริหารแห่ง Naraya Group ในตำแหน่งของผู้บริหารเจเนอเรชั่นใหม่ ภาพความสุข ความทรงจำครั้งที่เขาได้อยู่ในสนามแข่งขันบนความเร็วไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นไม่ได้เจือจางหายไปไหน เพราะทุกครั้งที่เขาเล่าเรื่องสมัยใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางของนักแข่งรถ แววตาของคนมีฝันมันลุกโชนฉายชัดจนเราสัมผัสได้

คุณพศิน ลาทูรัส เริ่มเข้าสู่วงการความเร็ว ตั้งแต่อายุ 13 กับการแข่งขันโกคาร์ทจนได้แชมป์หลายสนาม จากนั้นจึงขยับเป็นฟอร์มูล่า BMW แล้วมาประสบความสำเร็จอีกขั้นกับ การเป็นนักแข่งให้กับทีมเฟอร์รารี่ และเป็นแชมป์ Ferrari Challenge Trofeo Pirelli Asia Pacific 2013

“ผมเริ่มขับโกคาร์ทตอนอายุประมาณ 12 ปี ตอนนั้นผมยังมีความกลัวด้วยซ้ำครับ กลัวความเร็วไม่กล้าขับเร็ว คงเพราะช่วงนั้นได้เห็นรถเกิดอุบัติเหตุในสนาม แล้วตีลังกาอยู่ข้างหน้าเรา ผมเลยกลัว ไม่ค่อยอยากแข่ง แต่หลังจากนั้นพอผมเริ่มไปซ้อมบ่อยๆ เริ่มขับได้เร็วขึ้น หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การแข่งขันเต็มตัวช่วงอายุ 13-14 ปีครับ แล้วขยับขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาอยู่ในทีมเฟอร์รารี่ ซึ่งส่วนตัวผมมีความชื่นชอบในรถเฟอร์รารี่อยู่แล้วนะครับ พูดได้ว่าเป็นรถในฝันตั้งแต่เด็กๆ ผมจำได้ว่ารถซุปเปอร์คาร์คันแรกที่ได้นั่งคือรถเฟอร์รารี่ ในหมู่บ้านนี้แหละ เป็นเฟอร์รารี่ 360 สีเหลือง ซึ่งตอนนั้นไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้นั่ง หรือมีเองด้วยซ้ำ และตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้ชอบในรถของเขา ชอบในเสียงเครื่องยนต์ ยิ่งเป็นตอนเด็กๆ มันก็จะรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ” (ยิ้ม)

สนามในความทรงจำ

“ตอนแข่ง สปา 24 ชั่วโมง ที่เบลเยี่ยมครับ (สนาม Circuit de Spa - Francorchamps)  มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ยากมาก เพราะว่าแข่ง 24 ขั่วโมงไม่ได้นอน ในทีมมีทั้งหมด 4 คน ผลัดกันขับกับเพื่อนร่วมทีม แต่ที่ดีคือพอชนะแล้ว ทางเฟอร์รารี่เขาได้เล็งเห็นถึงความพยายามของเรา เขามอบถ้วยรางวัลให้ ซึ่งเป็นท่อเก่าของรถฟอร์มูล่าวัน เพื่อขอบคุณที่ใช้รถเฟอร์รารี่แข่งขันจนชนะครับ”

ในฐานะนักแข่งพอเราได้มาขับรถบนถนนปกติในบ้านเราคิดว่าเป็นอย่างไร

“อยากเปิดโรงเรียนสอนขับรถให้คนได้มากที่สุด (หัวเราะ) จริงๆ ผมคิดอยากจะเปิดโรงเรียนสอนขับรถนะครับเพราะเห็นถึงความปลอดภัยในการขับขี่เป็นสำคัญ ในส่วนตัวของผม ผมเรียนรู้การขับรถตั้งแต่เด็ก จากคุณพ่อทำให้ได้ซึมซับ เรียนรู้ทักษะไปในตัว สำหรับผมการขับรถ ไม่ใช่ขับจากที่หนึ่งไปที่หนึ่ง แต่ระหว่างทางนั้นเราต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วยครับ”

ถ้ามีเด็กรุ่นใหม่อยากเป็นนักแข่งรถ

“สิ่งสำคัญที่สุดผมว่าต้องมีเวลาซ้อม เพราะถ้าเราเริ่มแข่งในช่วงวัยเด็ก มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่เราจะทั้งเรียน และแข่งไปพร้อมๆ กัน บางคนทำได้นะ ผมเห็นมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะดรอปเรียนไป ซึ่งผมว่ามันต้องมีเวลา อาจจะไม่จำเป็นต้องดรอปเรียน แต่ว่าเสาร์อาทิตย์ต้องใช้เวลาทุ่มเทและซ้อมให้ได้มากที่สุด เมื่อก่อนตอนที่ผมยังเรียนและแข่ง ในช่วงเย็นผมต้องไปซ้อมเกือบทุกวันเลย ในขณะเดียวกันก็เรียนไปด้วยนะครับ ถึงแม้จะเรียนไม่เก่ง (หัวเราะ) แต่ถึงเวลาสอบก็ไม่เคยตกนะครับ ผมว่าสิ่งสำคัญคือการจัดสรรเวลา และจัดลำดับความสำคัญครับ”